บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษระหว่างการสอนอ่านโดยใช้เทคนิคการสร้างแผนภูมิความหมายกับการสอนอ่านแบบปกติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เปรียบเทียบเจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิคการสร้างแผนภูมิความหมายกับการสอนอ่านแบบปกติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนวัดราษฎร์บำรุง จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 17 คน ให้เป็นกลุ่มทดลองที่ได้รับการสอนอ่านโดยใช้เทคนิคการสร้างแผนภูมิความหมาย จำนวน 9 คน ส่วนนักเรียนในห้องที่เหลือเป็นกลุ่มควบคุมเรียนด้วยวิธีสอนแบบปกติโดยได้มาจากวิธีการสุ่มอย่างง่าย จำนวน 8 คน โดยผู้วิจัยทำการสอนด้วยตัวเองทั้งสองกลุ่ม ใช้เวลาสอนกลุ่มละ 20 ชั่วโมง

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแผนภูมิความหมายในการสอนอ่าน 5 ประเภท ที่มีค่าความเหมาะสมระหว่าง 4.60-5.00 แผนการจัดการเรียนรู้การสอนอ่านโดยใช้เทคนิคการสร้างแผนภูมิความหมายกับการสอนอ่านแบบปกติ ที่มีค่าคุณภาพระหว่าง 4.60-5.00 แบบทดสอบวัดความเข้าใจ ในการอ่านที่มีค่าความยากง่ายระหว่าง 0.20-0.89 ค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.20-.0.44 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.72 แบบวัดเจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษที่มีค่าAlpha Coefficient เท่ากับ 0.778

ผลการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า นักเรียนที่ได้รับการสอนอ่านโดยใช้เทคนิคการสร้างแผนภูมิความหมาย มีความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษและเจตคติต่อภาษาอังกฤษแตกต่างจากนักเรียนที่ได้รับการสอนอ่านแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 โดยกลุ่มทดลองมีความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษสูงกว่ากลุ่มควบคุมและมีเจตคติต่อภาษาอังกฤษดีกว่ากลุ่มควบคุม

เว็บน่าสนใจ