การวิจัยนี้มีจุดประสงค์เพื่อ (1) เพื่อหาประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรียน วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง เศรษฐศาสตร์ ตามเกณฑ์ 80/80 (2.) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่องเศรษฐศาสตร์ ที่เรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน และ (3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนของเอกสารประกอบการเรียน วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่องเศรษฐศาสตร์ การวิจัยนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองวัดก่อน-หลังการทดลอง (One Group Pretest Posttest Design) ในการศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนบ้านแก้งวิทยา จังหวัดสระแก้ว ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 40 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วยเอกสารประกอบการเรียน วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง เศรษฐศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาที่ 1 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบวัดความพึงพอใจต่อเอกสารประกอบการเรียน สถิติสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมารตฐาน และการทดสอบ ค่าที

ผลการวิจัยพบว่า เอกสารประกอบการเรียน รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่องเศรษฐศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1มีประสิทธิภาพ 83.47/82.42 แสดงว่า เอกสารประกอบการเรียน รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่องเศรษฐศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1ที่ผู้วิจัยได้จัดทำขึ้นมีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือไม่ต่ำกว่า 80/80 คะแนนเฉลี่ยจากการสอบก่อนเรียน มีค่าเท่ากับ 10.25 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2.97 คะแนนทดสอบเฉลี่ยหลังเรียนมีค่าเท่ากับ 24.98ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.21 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่องเอกสารประกอบการเรียน ด้วยเอกสารประกอบการเรียน ได้ค่า t เท่ากับ 40.52 ค่า Sig .000 ซึ่งน้อยกว่า ค่า α ที่ตั้งไว้คือ .05 ดังนั้น สรุปได้ว่า ผลสัมฤทธิ์หลังเรียนมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อเอกสารประกอบการเรียน วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่องเศรษฐศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีระดับพึงพอใจมาก ((x ) ̅ = 4.45)

เว็บน่าสนใจ