Advertisement
ญี่ปุ่น เปิดตัวหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ (แรม) รุ่นใหม่ที่ใช้มาตรฐานใหม่ สามารถเก็บข้อมูลไว้ได้แม้จะไม่มีพลังงานแล้วก็ตาม โดยบริษัท เอลพีดา เตรียมผลิต "รีแรม" (ReRAM) ออกวางจำหน่ายในปี 2556 นี้
ทั้งนี้ รีแรมจะแตกต่างจากหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ทั่วไปที่ใช้กันอยู่ในเวลานี้ ตรงที่เป็นหน่วยความจำเสถียร หรือนอน โวแลทไทล์ เมโมรี แบบเดียวกับหน่วยความจำแฟลช หรือธัมป์ไดรฟ์ และโซลิดสเตท ไดรฟ์ ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลไว้ได้แม้จะไม่มีพลังงานหล่อเลี้ยงอยู่ก็ตาม ในขณะที่หน่วยความจำแรมทั่วไปต้องใช้พลังงานหล่อเลี้ยงอยู่เพื่อ "รีเฟรช" ข้อมูลใหม่อยู่ตลอดเวลาป้องกันข้อมูลสูญหาย และข้อมูลดังกล่าวจะหายไปทันทีที่ไม่มีกระแสไฟหล่อเลี้่ยง
อย่างไรก็ ตาม หน่วยความจำแบบแฟลชนั้นมีปัญหาในเรื่องความช้าในการเขียนข้อมูล ที่ช้ากว่าหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ทั่วไปที่ใช้กันอยู่ในเวลานี้ ซึ่งเรียกกันว่า "ดีแรม" (DRAM) มาก จนไม่เหมาะที่จะนำมาใช้เป็นหน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องการการทำงานที่รวดเร็วมากสำหรับการประมวลผลตามคำสั่งที่ได้รับ
"รี แรม" หรือ "รีซิสแตนท์ เมโมรี" ถูกผลิตขึ้นโดยใช้วัสดุที่จะเปลี่ยนแปลงค่าความต้านทาน (รีซิสแตนท์) เมื่อกระแสไฟเปลี่ยนแปลงไป หลังจากนั้นค่าความต้านทานใหม่ดังกล่าวจะถูกจัดเก็บไว้ ทำให้ข้อมูลหรือเนื้อหาที่ถูกบรรจุไว้ไม่สูญหายไป แม้กระแสไฟจะถูกตัด ดับไปแล้วก็ตามที เอลพีดา บริษัทผู้ผลิตเปิดเผยว่า ได้ผลิตรีแรมต้นแบบที่มีความเร็วในการอ่าน/เขียนและประมวลผลเทียบได้เท่ากับ ที่ ดีแรม ทำได้อยู่ในเวลานี้ แต่สิ้นเปลืองกระแสไฟน้อยกว่า และยังมีคุณสมบัติตามมาตรฐานใหม่เก็บความทรงจำไว้ได้หลังกระแสไฟถูกตัดไป แล้วดังกล่าว
ข้อเสียของหน่วยความจำแบบแฟลชอีกประการก็คือ มีอายุการใช้งานน้อยกว่า เพราะสามารถเขียนข้อมูลทับลงในจุดเดิมได้นับเป็นหมื่นหรือราวแสนครั้งเท่า นั้น หลังจากนั้นแล้วความเสี่ยงในการสูญเสียข้อมูลจะสูงมาก แต่ดีแรมมีอายุการใช้งานตลอดชีพ ในกรณีดังกล่าวนี้ เอลพีดาระบุว่า อายุการใช้งานของ "รีแรม" นั้นสามารถรองรับการเขียนซ้ำในจุดเดิมมากกว่า 1 ล้านครั้ง ซึ่งถือว่าสูงมากเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม "รีแรม" ไม่ใช่แรมมาตรฐานใหม่เพียงอย่างเดียวที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา ก่อนหน้านี้ เอฟเวอร์สปิน สามารถผลิต "เอ็มแรม" ที่ใช้คุณสมบัติของแม่เหล็กมาจัดเก็บข้อมูล แต่ยังมีราคาสูงเกินไป, ไมครอน พัฒนา พีซีเอ็ม, ซัมซุง พัฒนา เอสทีที-แรม และอินเทล เองก็พยายามพัฒนาเอ็มแรม ในวิธีใหม่ที่เรียกว่า "เรซแทร็ค" ซึ่งต่างเป็นแรมมาตรฐานใหม่ทั้งสิ้น แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จถึงขั้นพัฒนาในเชิงพาณิชย์เท่านั้น
ที่มา มติชนรายวัน วันที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
Advertisement
 เปิดอ่าน 54,684 ครั้ง  เปิดอ่าน 14,086 ครั้ง  เปิดอ่าน 44,467 ครั้ง  เปิดอ่าน 13,486 ครั้ง  เปิดอ่าน 76,108 ครั้ง  เปิดอ่าน 15,408 ครั้ง  เปิดอ่าน 9,785 ครั้ง  เปิดอ่าน 172,621 ครั้ง  เปิดอ่าน 9,216 ครั้ง  เปิดอ่าน 6,300 ครั้ง  เปิดอ่าน 19,591 ครั้ง  เปิดอ่าน 42,898 ครั้ง  เปิดอ่าน 29,665 ครั้ง  เปิดอ่าน 10,481 ครั้ง  เปิดอ่าน 26,419 ครั้ง  เปิดอ่าน 13,404 ครั้ง
|

เปิดอ่าน 15,424 ☕ คลิกอ่านเลย |

เปิดอ่าน 12,741 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 19,158 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 181,435 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 8,878 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 9,156 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 10,217 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ 
เปิดอ่าน 21,375 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 12,099 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 16,363 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 13,661 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 309,666 ครั้ง |
|
|