บทคัดย่อ
การพัฒนาคุณภาพโครงงานวิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบฝึกทักษะการคิดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 5 บ้านกาหยี เทศบาลเมืองตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างแบบฝึกทักษะการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง พืชรอบตัวเรา ระหว่างก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะการคิด และเพื่อเปรียบเทียบคุณภาพโครงงานวิทยาศาสตร์ระหว่างก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะการคิด
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาในครั้งนี้ ได้แก่ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ในปีการศึกษา 2559 โรงเรียนเทศบาล 5 บ้านกาหยี เทศบาลเมืองตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี จำนวน 1 ห้องเรียน นักเรียนทั้งหมด 33 คน ผู้วิจัยได้ดำเนินการศึกษากับกลุ่มประชากรทั้งหมด ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ตัวแปรต้น ได้แก่ ได้แก่ แบบฝึกทักษะการคิด จำนวน 5 แบบฝึก ตัวแปรตาม ได้แก่ คุณภาพโครงงานวิทยาศาสตร์โครงงานวิทยาศาสตร์ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโครงงานวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ในปีการศึกษา 2559 โรงเรียนเทศบาล 5 บ้านกาหยี เทศบาลเมืองตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี
ระยะเวลาที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ดำเนินการในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้แบบฝึกทักษะการคิด จำนวน 5 แบบฝึก กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินคุณภาพโครงงานวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 5 บ้านกาหยี เทศบาลตำบลตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี
การวิจัยสรุปผลได้ดังต่อไปนี้
1. แบบฝึกทักษะการคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.14/83.94 เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้และมีความสอดคล้องกับสมมติฐานในข้อที่ 1
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (t = 14.95 ,P < .05) เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ และมีความสอดคล้องกับสมมติฐานในข้อที่ 2
3. คุณภาพโครงงานวิทยาศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (t = 16.25 ,P < .05) เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ และมีความสอดคล้องกับสมมติฐานในข้อที่ 3