ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน โดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วน

ชื่อผลงาน การประเมินโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน

โดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนคลองแดนวิทยา ปีการศึกษา2559

ผู้รายงาน นายไกรนรา กล่อมสุข

ผู้อำนวยการโรงเรียนคลองแดนวิทยา

ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2559

บทสรุป

รายงานการประเมินโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนคลองแดนวิทยา ปีการศึกษา 2559 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิตของโครงการ ประกอบด้วย 1) การมีส่วนร่วมของผุ้เกี่ยวข้องการดำเนินโครงการ 2) ผลการปรับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน 3) ความพึงพอใจของผุ้เกี่ยวข้องในโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วม โดยศึกษาจากกลุ่มเป้าหมายได้แก่ กลุ่มตัวอย่างนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 6 จำนวน 118 คน กลุ่มตัวอย่างผู้ปกครองจำนวน 110 คน กลุ่มตัวอย่างคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน และประชากรครู จำนวน 17 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินมี 2 ลักษณะ ได้แก่ แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประเมินค่า 5 ระดับ จำนวน 5 ฉบับ และแบบบันทึกข้อมูลตามสภาพจริงเกี่ยวกับผลการปรับพฤติกรรมของนักเรียน จำนวน 1 ฉบับ รวมทั้งสิ้น 6 ฉบับ มีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือทุกฉบับ ได้ค่าความเชื่อมั่นแต่ละฉบับอยู่ระหว่าง 0.915-0.983

ผลการประเมินพบว่า

1. ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อมของโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนคลองแดนวิทยาปีการศึกษา 2559 ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อม (Context) ของโครงการการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วม ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมิน ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า ปีการศึกษา 2559 คณะกรรมการสถานศึกษามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.82, x̄ = 0.19) มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมได้คะแนน 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน และรองลงมาคือ ครูมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.69, S.D. = 0.44) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนคลองแดนวิทยา ปีการศึกษา 2559 พบว่า ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ของโครงการการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วม ตามความคิดเห็นของครู โดยภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วม โรงเรียนคลองแดนวิทยา ปีการศึกษา 2559 พบว่าผลประเมินด้านกระบวนการ (Process) ของโครงการการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วม ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครูและผู้ปกครอง โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มครูมีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.64, S.D. = 0.51) ได้คะแนน 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน รองลงมาคือ กลุ่มนักเรียนมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.33, S.D. = 0.67) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน ส่วนกลุ่มนักเรียนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 4.33, = 0.47) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกตัวชี้วัดที่ประเมิน

4. ผลการประเมินด้านผลผลิต ได้แก่

4.1 การมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนคลองแดนวิทยา ปีการศึกษา 2559 พบว่าผลการประเมินด้านการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องของโครงการการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วม โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่ากลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษามีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.84, S.D. =0.18 ) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมาคือ กลุ่มครูอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.64,S.D. = 0.51) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนกลุ่มนักเรียนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ในระดับมาก ( = 4.16, = 0.65) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.2 ผลการปรับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนคลองแดนวิทยาทั้งพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ที่ไม่รุนแรง และพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงโดยรวม ปีการศึกษา 2558 จำนวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ จำนวน 35 คน คิดเป็นร้อยละ 24.31 ปีการศึกษา 2559 จำนวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 10.31 ลดลง 18 คน คิดเป็นร้อยละ 52.00 และ เมื่อพิจารณาแต่ละพฤติกรรมพบว่า พฤติกรรมการทิ้งขยะไม่ลงถังลดลงมากที่สุด ร้อยละ14.00 รองลงมาคือ ขาดเรียนลดลงร้อยละ 12 ส่วนพฤติกรรมทำลายทรัพย์สินของโรงเรียนลดลงน้อยที่สุด ร้อยละ 0.00

4.3 ความพึงพอใจของโครงการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนคลองแดนวิทยา ปีการศึกษา 2559 สรุปผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานต่อการดำเนินโครงการ การป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วม โดยรวมทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 5.00,S.D. =0.00) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์ การประเมิน รองลงมาคือ ครู อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.75 ,S.D. = 0.43) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนกลุ่มนักเรียนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ในระดับมาก ( = 4.38, = 0.66) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะเพื่อนำผลการประเมินไปใช้

1. โรงเรียนควรจัดโครงการการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของ

นักเรียน อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพของผู้เรียน โดยมีการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ผลงานที่ประสบความสำเร็จ

2. ควรส่งเสริมให้ผู้ปกครอง ชุมชน และหน่วยงานองค์ที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมใน

การจัดกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมกันพัฒนาพฤติกรรมของนักเรียนได้อย่างยั่งยืนเพื่อก่อให้เกิดพลังในการทำงานเพิ่มขึ้น

ข้อเสนอแนะในการวิจัย/ประเมินครั้งต่อไป

ควรศึกษารูปแบบหรือแนวทางในการประเมินโครงการการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนในรูปแบบวิธีการอื่นที่นอกเหนือจากรูปแบบซิปป์โมเดล (CIPP Model) เพื่อเปรียบเทียบผลการประเมิน และศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการดำเนินโครงการตามบริบทของโรงเรียนที่แตกต่างกัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนพัฒนาการดำเนินงานตามโครงการต่อไป

โพสต์โดย แจ๊ค : [30 ต.ค. 2560 เวลา 18:11 น.]
อ่าน [3404] ไอพี : 171.97.242.67
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 91,667 ครั้ง
วิธีการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ที่ถูกต้อง
วิธีการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ที่ถูกต้อง

เปิดอ่าน 9,229 ครั้ง
เสียงหัวเราะ ให้คุณมากกว่าความสดใส
เสียงหัวเราะ ให้คุณมากกว่าความสดใส

เปิดอ่าน 15,970 ครั้ง
รวม 10 อันดับขับรถสุดเห่ย ขอให้มีสตินะครับ
รวม 10 อันดับขับรถสุดเห่ย ขอให้มีสตินะครับ

เปิดอ่าน 81,016 ครั้ง
ที่มาของชื่อเดือนทั้ง 12 เดือนในภาษาอังกฤษ
ที่มาของชื่อเดือนทั้ง 12 เดือนในภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 12,188 ครั้ง
สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ

เปิดอ่าน 8,303 ครั้ง
ขอเชิญร่วมงานการประชุมวิชาการนานาชาติด้านอีเลิร์นนิง ปี 2551
ขอเชิญร่วมงานการประชุมวิชาการนานาชาติด้านอีเลิร์นนิง ปี 2551

เปิดอ่าน 35,616 ครั้ง
ตัวอย่างหลักสูตรปฐมวัย (ฉบับปรับปรุง2560) โดยโรงเรียนบ้านฝาผนัง ไฟล์เวิร์ด
ตัวอย่างหลักสูตรปฐมวัย (ฉบับปรับปรุง2560) โดยโรงเรียนบ้านฝาผนัง ไฟล์เวิร์ด

เปิดอ่าน 8,493 ครั้ง
เด็กรุ่นใหม่... เขาทำ (อาชีพ) อะไร
เด็กรุ่นใหม่... เขาทำ (อาชีพ) อะไร

เปิดอ่าน 17,919 ครั้ง
การสร้างจิตรกรรมฝาผนังของช่างไทยในสมัยโบราณ
การสร้างจิตรกรรมฝาผนังของช่างไทยในสมัยโบราณ

เปิดอ่าน 10,143 ครั้ง
หนุ่มสาวออฟฟิศ ระวังหมอนรองกระดูกเสื่อมเร็ว
หนุ่มสาวออฟฟิศ ระวังหมอนรองกระดูกเสื่อมเร็ว

เปิดอ่าน 28,688 ครั้ง
ม.44 ศธ. เรื่องข่าวลือที่สร้างความเข้าใจผิด
ม.44 ศธ. เรื่องข่าวลือที่สร้างความเข้าใจผิด

เปิดอ่าน 10,903 ครั้ง
ชิคุนกุนยา โรคร้าย ที่มากับยุงลาย
ชิคุนกุนยา โรคร้าย ที่มากับยุงลาย

เปิดอ่าน 16,166 ครั้ง
Timeline เกี่ยวกับการบริหารจัดการโรงเรียนเครือข่าย ของโรงเรียนดีใกล้บ้าน
Timeline เกี่ยวกับการบริหารจัดการโรงเรียนเครือข่าย ของโรงเรียนดีใกล้บ้าน

เปิดอ่าน 27,110 ครั้ง
เกมส์ระบายสี
เกมส์ระบายสี

เปิดอ่าน 9,509 ครั้ง
ห้องสมุดในมัสยิด อีกย่างก้าวของความรู้
ห้องสมุดในมัสยิด อีกย่างก้าวของความรู้

เปิดอ่าน 15,221 ครั้ง
15 ประโยชน์ของน้ำอัดลมกับงานบ้าน ที่รู้แล้วจะอึ้ง
15 ประโยชน์ของน้ำอัดลมกับงานบ้าน ที่รู้แล้วจะอึ้ง
เปิดอ่าน 85,940 ครั้ง
ประเภทของระบบสารสนเทศ
ประเภทของระบบสารสนเทศ
เปิดอ่าน 53,708 ครั้ง
มารยาทของการจับมือ (shaking Hands)
มารยาทของการจับมือ (shaking Hands)
เปิดอ่าน 13,225 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : จิตวิญญาณครู สำคัญที่สุด
ตูนส์ศึกษา : จิตวิญญาณครู สำคัญที่สุด
เปิดอ่าน 18,127 ครั้ง
อันตราย! ขวดนม 80% มีสารเคมีอันตราย กระทบระบบสืบพันธุ์
อันตราย! ขวดนม 80% มีสารเคมีอันตราย กระทบระบบสืบพันธุ์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ