ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
บทคัดย่อรายงานการประเมินโครงการพัฒนางานวิชาการโรงเรียนประชาสามัคคี ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศ

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการพัฒนางานวิชาการโรงเรียนประชาสามัคคี

ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3

ผู้ประเมิน นายสมพร สังข์โกมล รองผู้อ านวยการช านาญการ

ปีที่ประเมิน ปีการศึกษา 2559

บทคัดย่อ

รายงานการประเมินผลโครงการพัฒนางานวิชาการโรงเรียนประชาสามัคคี ส านักงานเขต

พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ผู้ประเมินได้ด าเนินการประเมินโดยใช้รูปแบบการประเมิน

แบบจ าลองซิปป์(Cipp Model) มาประยุกต์ใช้ในการประเมิน โดยมีวัตถุประสงค์ของการประเมินคือ

1) เพื่อประเมินด้านบริบทและสภาพแวดล้อมของโครงการ 2) เพื่อประเมินด้านปัจจัยของโครงการ

3) เพื่อประเมินด้านกระบวนการของโครงการ 4) เพื่อประเมินด้านผลผลิตของโครงการ และ 5) เพื่อ

เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างก่อนและหลังการด าเนินการตามโครงการ

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินโครงการ ประกอบด้วย ผู้บริหาร ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครอง

นักเรียนโรงเรียนประชาสามัคคีส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์เขต 3 ปีการศึกษา

2559 จ านวนทั้งสิ้น 248 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย แบบประเมินผล

โครงการพัฒนางานวิชาการโรงเรียนประชาสามัคคีจ านวน 4 ด้าน คือ 1) ด้านบริบทและ

สภาพแวดล้อมของโครงการ จ านวน 10 ข้อ 2) ด้านปัจจัยของโครงการ จ านวน 10 ข้อ 3) ด้าน

กระบวนการของโครงการ จ านวน 10 ข้อ และ 4) ด้านผลผลิตของโครงการ จ านวน 10 ข้อ ซึ่งเก็บ

รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ซึ่งผ่านการ

ทดสอบหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แอลฟา (Alpha Coefifieient) ตามวิธีการของ ครอนบาค

(Cronbach) โดยมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.95 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย

เลขคณิต ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบ t–test แบบ Dependent Samples ด้วย

โปรแกรมส าเร็จรูป SPSS for Windows ผลการประเมินสรุปได้ดังนี้

1. ผลการประเมินด้านบริบทและสภาพแวดล้อมของโครงการ ตามความคิดเห็นของคณะ

ผู้บริหารและครูผู้สอน มีผลการด าเนินงานโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาระดับผล

การด าเนินงานแต่ละรายการ พบว่า รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 ล าดับ ได้แก่ นักเรียนมีความต้องการ

โครงการพัฒนางานวิชาการ สภาพสังคมปัจจุบันโครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน และโรงเรียนมี

โครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมโครงการนี้โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากัน

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยของโครงการ ตามความคิดเห็นของคณะผู้บริหารและครูผู้สอน

มีผลการด าเนินงานโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาระดับผลการด าเนินงานแต่ละ

รายการ พบว่า รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 ล าดับ ได้แก่ ห้องเรียนมีความเหมาะสมต่อโครงการ

รองลงมาคือ ครูและผู้เกี่ยวข้อง เข้าใจขั้นตอนในการด าเนินงานโครงการ และวัสดุและครุภัณฑ์ที่ใช้ใน

การด าเนินโครงการมีความเหมาะสม โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากัน

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการของโครงการ ตามความคิดเห็นของคณะผู้บริหารและ

ครูผู้สอน มีผลการด าเนินงานโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาระดับผลการด าเนินงาน

แต่ละรายการ พบว่า รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 ล าดับ ได้แก่ บรรยากาศการเรียนการสอนมีความ

เป็นเอง รองลงมาคือ บรรยากาศการเรียนการสอนมีทางเลือกคือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เลือกสร้าง

หรือปฏิบัติสิ่งที่ตนเองอยากท า มีการก าหนดแผนหรือปฏิทินการปฏิบัติงานเหมาะสม ตามล าดับ

4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ ตามความคิดเห็นของคณะผู้บริหารและครูผู้สอน

มีผลการด าเนินงานโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาระดับผลการด าเนินงานแต่ละ

รายการ พบว่า รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 ล าดับ ได้แก่ ครูมีการจัดกิจกรรมเพื่อให้ผู้เรียนแสดง

ความคิดอย่างหลากหลาย รองลงมาคือ ครูสามารถจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นส าคัญ

และนักเรียนมีการให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รู้จักรับผิดชอบงานที่ตนเองท าอยู่และที่ได้รับ

มอบหมาย โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากัน

5. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ซึ่งประกอบด้วย การทดสอบทาง

การศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 การ

ทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ (National Test: NT) ชั้นประถมศึกษาที่ 3 การ

ประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานกลาง ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2, 4, 5 และ

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1, 2 และการประเมินผลการอ่านออกเขียนได้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในปี

การศึกษา 2558 และปีการศึกษา 2559 ของนักเรียนโรงเรียนประชาสามัคคีส านักงานเขตพื้นที่

การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 หลังการด าเนินการตามโครงการมีผลสัมฤทธิ์สูงกว่าก่อน

ด าเนินการตามโครงการอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และโดยภาพรวมมีผลสัมฤทธิ์ทางการ

เรียนเพิ่มขึ้น 11.62 เมื่อพิจารณาระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในแต่ละระดับชั้นที่มีคะแนนเพิ่มขึ้น

สูงสุด 3 ล าดับแรก ได้แก่ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นเท่ากับ 37.83

รองลงมาคือระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นเท่ากับ 29.73 และ

ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นเท่ากับ 16.74 ตามล าดับ

โพสต์โดย อุ๊ : [30 พ.ย. 2560 เวลา 08:33 น.]
อ่าน [3847] ไอพี : 110.77.242.169
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,339 ครั้ง
เผยทีเด็ดชนะใจสาวอย่างง่ายที่สุด เล่าเรื่องตลกที่ ตัวเองหน้าแตก
เผยทีเด็ดชนะใจสาวอย่างง่ายที่สุด เล่าเรื่องตลกที่ ตัวเองหน้าแตก

เปิดอ่าน 117,031 ครั้ง
ประวัติของแคน อัครเครื่องดนตรีอีสาน
ประวัติของแคน อัครเครื่องดนตรีอีสาน

เปิดอ่าน 12,282 ครั้ง
มะนาวฆ่ามะเร็ง เรื่องนี้เชื่อได้จริงหรือยังไม่ผ่านการพิสูจน์ ?
มะนาวฆ่ามะเร็ง เรื่องนี้เชื่อได้จริงหรือยังไม่ผ่านการพิสูจน์ ?

เปิดอ่าน 32,126 ครั้ง
10 อันดับของคำที่มักออกเสียงผิดบ่อยๆ
10 อันดับของคำที่มักออกเสียงผิดบ่อยๆ

เปิดอ่าน 31,060 ครั้ง
iPhone 6 เปิดตัวแล้ว ไอโฟน6 มีอะไรใหม่บ้าง มาดูกัน
iPhone 6 เปิดตัวแล้ว ไอโฟน6 มีอะไรใหม่บ้าง มาดูกัน

เปิดอ่าน 13,007 ครั้ง
ชมคลิปวิดีโอการบรรยายเรื่อง "หลักการ พ.ร.บ.Undo" โดยผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง
ชมคลิปวิดีโอการบรรยายเรื่อง "หลักการ พ.ร.บ.Undo" โดยผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง

เปิดอ่าน 17,538 ครั้ง
ดื่มล้างพิษ เพิ่มพลัง ตับ แข็งแรง
ดื่มล้างพิษ เพิ่มพลัง ตับ แข็งแรง

เปิดอ่าน 13,453 ครั้ง
เคล็ดลับน่ารู้วิธีเลิกติดกาแฟ
เคล็ดลับน่ารู้วิธีเลิกติดกาแฟ

เปิดอ่าน 38,586 ครั้ง
ปากเหี่ยวเป็นรอยย่น แก้ไขอย่างไรดีนะ
ปากเหี่ยวเป็นรอยย่น แก้ไขอย่างไรดีนะ

เปิดอ่าน 12,227 ครั้ง
มาดูกัน 5 วิธีปรับโฉมระบบเผาผลาญ
มาดูกัน 5 วิธีปรับโฉมระบบเผาผลาญ

เปิดอ่าน 5,313 ครั้ง
ตั๋วเครื่องบินไประนอง ดูโปรดี ๆ พร้อมเที่ยวบินราคาถูก
ตั๋วเครื่องบินไประนอง ดูโปรดี ๆ พร้อมเที่ยวบินราคาถูก

เปิดอ่าน 13,048 ครั้ง
นาฬิกาชีวิต องค์รวมสุขภาพแบบ A.M./P.M.
นาฬิกาชีวิต องค์รวมสุขภาพแบบ A.M./P.M.

เปิดอ่าน 24,614 ครั้ง
มารู้จัก Flower Ball กันเถอะ
มารู้จัก Flower Ball กันเถอะ

เปิดอ่าน 87,885 ครั้ง
มช.เจ๋งพบสารเซซมิน"งาดำ" รักษามะเร็งครั้งแรกของโลก
มช.เจ๋งพบสารเซซมิน"งาดำ" รักษามะเร็งครั้งแรกของโลก

เปิดอ่าน 24,011 ครั้ง
AutoPlay Media Studio
AutoPlay Media Studio

เปิดอ่าน 13,756 ครั้ง
4 วิธี ช่วยให้ผิวคุณสวยไปตลอดกาล
4 วิธี ช่วยให้ผิวคุณสวยไปตลอดกาล
เปิดอ่าน 21,021 ครั้ง
สุนัขบ้ากัด
สุนัขบ้ากัด
เปิดอ่าน 17,040 ครั้ง
คุณครอบครองลูกได้กี่ปี? ทุกๆปีสำคัญขนาดไหน? อ่านดูแล้วรู้เลยว่าทุกเวลามีค่าขนาดไหน!
คุณครอบครองลูกได้กี่ปี? ทุกๆปีสำคัญขนาดไหน? อ่านดูแล้วรู้เลยว่าทุกเวลามีค่าขนาดไหน!
เปิดอ่าน 37,468 ครั้ง
วิธีปลูกหอมญี่ปุ่น
วิธีปลูกหอมญี่ปุ่น
เปิดอ่าน 12,894 ครั้ง
"อาชีพโดน-ทักษะเยี่ยม" ครึ่งปีหลังรุ่ง
"อาชีพโดน-ทักษะเยี่ยม" ครึ่งปีหลังรุ่ง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ