ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปและเปลี่ยนรูป

ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระ

ลดรูปและเปลี่ยนรูปกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

โรงเรียนบ้านไม้ตะเคียน

ชื่อผู้ศึกษา นางวันวิสา คำพิกาศ วิทยฐานะ ชำนาญการ

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย

สถานที่ทำงาน โรงเรียนบ้านไม้ตะเคียน อำเภอทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน

ปีการศึกษา 2559

บทคัดย่อ

ในการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปและเปลี่ยนรูปกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านไม้ตะเคียน ตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปและเปลี่ยนรูปกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปและเปลี่ยนรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านไม้ตะเคียน ผู้ศึกษาสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปและเปลี่ยนรูปกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน ทั้งหมด 8 เล่ม ดำเนินการศึกษา โดยนำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปและเปลี่ยนรูปกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 30 ข้อ ไปทดสอบกับนักเรียนประชากรกลุ่มเป้าหมาย ทั้งหมด จำนวน 1 ห้องเรียน ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปและเปลี่ยนรูปกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 8 คน โดยใช้แบบทดสอบก่อนเรียน ตรวจและเก็บข้อมูลคะแนนไว้ ดำเนินการจัดกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ทุกแผน โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปและเปลี่ยนรูปกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 26 แผน เวลาที่ใช้ 26 ชั่วโมง ผู้ศึกษาได้เก็บข้อมูลคะแนนของนักเรียนจากการทำแบบฝึกทักษะแต่ละเล่ม เป็นรายบุคคล เมื่อดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ครบทุกแผนการจัดการเรียนรู้ แล้ว ให้นักเรียนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน และให้นักเรียนตอบแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาไทยโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปและเปลี่ยนรูปกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านไม้ตะเคียน จากนั้นนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปและเปลี่ยนรูปกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านไม้ตะเคียน โดยการวิเคราะห์ข้อมูลใช้การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และหาค่าความแตกต่างของคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนและความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาไทยโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปและเปลี่ยนรูปกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านไม้ตะเคียน

ผลการศึกษาพบว่า

1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปและสระเปลี่ยนรูป สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1โรงเรียนบ้านไม้ตะเคียน ตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ ทั้ง 8 เล่ม มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 85.77/84.17 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้แสดงว่าแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปและสระเปลี่ยนรูป สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1ที่ผู้สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพนำไปใช้ได้

2. ผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปและสระเปลี่ยนรูป สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1โดยเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปและสระเปลี่ยนรูป สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่าคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปและเปลี่ยนรูป สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนการใช้แบบฝึกทักษะและหลังการใช้แบบฝึกทักษะแตกต่าง โดยคะแนนเฉลี่ยก่อนใช้แบบฝึกทักษะ เท่ากับ 14.00 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 46.67 และภายหลังใช้แบบฝึกทักษะมีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 25.25 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 84.17เมื่อเปรียบเทียบคะแนนทั้งสองพบว่า คะแนนภายหลังการใช้แบบฝึกทักษะสูงกว่าก่อนการใช้แบบฝึกทักษะ คิดเป็นร้อยละความก้าวหน้า 46.67

3. การวิเคราะห์แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปและเปลี่ยนรูป สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.11 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.68

โพสต์โดย หนิม : [17 ม.ค. 2561 เวลา 08:27 น.]
อ่าน [102662] ไอพี : 202.29.176.135
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 20,420 ครั้ง
เรื่องของกราฟ
เรื่องของกราฟ

เปิดอ่าน 161,407 ครั้ง
สูตรปริมาตรทรงกระบอก
สูตรปริมาตรทรงกระบอก

เปิดอ่าน 23,518 ครั้ง
ลักษณะที่ดีและลักษณะที่บกพร่องของงานวิจัยเชิงปริมาณที่เป็นปริญญานิพนธ์ (วิทยานิพนธ์)
ลักษณะที่ดีและลักษณะที่บกพร่องของงานวิจัยเชิงปริมาณที่เป็นปริญญานิพนธ์ (วิทยานิพนธ์)

เปิดอ่าน 9,484 ครั้ง
ยูฟ่าประกาศห้ามทรูวิชั่นส์ถ่ายทอดบอลยูโร
ยูฟ่าประกาศห้ามทรูวิชั่นส์ถ่ายทอดบอลยูโร

เปิดอ่าน 9,255 ครั้ง
อินเนอร์มาเต็ม! ครูไทยแต่งเพลง "ค่านิยม12ประการ" ถ้าไม่ทำจะท่องทำไม!? (คลิป)
อินเนอร์มาเต็ม! ครูไทยแต่งเพลง "ค่านิยม12ประการ" ถ้าไม่ทำจะท่องทำไม!? (คลิป)

เปิดอ่าน 14,964 ครั้ง
"หัวหมอ" ไม่อยากโดนใบสั่ง ใช้หลักฟิสิกส์เข้าสู้ตำรวจซะเลย
"หัวหมอ" ไม่อยากโดนใบสั่ง ใช้หลักฟิสิกส์เข้าสู้ตำรวจซะเลย

เปิดอ่าน 71,420 ครั้ง
วิธีตอนกิ่งมะละกอ ให้ผลผลิตเร็ว ต้นเตี้ยไม่กลัวลม
วิธีตอนกิ่งมะละกอ ให้ผลผลิตเร็ว ต้นเตี้ยไม่กลัวลม

เปิดอ่าน 11,919 ครั้ง
ตรวจแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจคิดใหม่ทำใหม่เพื่อหัวใจของคุณ
ตรวจแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจคิดใหม่ทำใหม่เพื่อหัวใจของคุณ

เปิดอ่าน 33,181 ครั้ง
ลายมือของคนที่มีเงินทองอยู่ตลอดเวลาต้องมี "ก้นหอยมหาเศรษฐี"
ลายมือของคนที่มีเงินทองอยู่ตลอดเวลาต้องมี "ก้นหอยมหาเศรษฐี"

เปิดอ่าน 38,685 ครั้ง
เตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ นวัตกรรมไอเดียเด็ดเด็กใต้
เตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ นวัตกรรมไอเดียเด็ดเด็กใต้

เปิดอ่าน 4,015 ครั้ง
เขียน Resume อย่างไรให้ได้งานดี
เขียน Resume อย่างไรให้ได้งานดี

เปิดอ่าน 12,678 ครั้ง
เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง
เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง

เปิดอ่าน 31,259 ครั้ง
การนวดท้องแบบ"ชิเนซัง"(Shi-Nei-Tsang) ปลดปล่อยสารพิษในร่างกาย
การนวดท้องแบบ"ชิเนซัง"(Shi-Nei-Tsang) ปลดปล่อยสารพิษในร่างกาย

เปิดอ่าน 36,494 ครั้ง
หลักในการบริหารเวลาของคนเป็นครู
หลักในการบริหารเวลาของคนเป็นครู

เปิดอ่าน 28,345 ครั้ง
ความคลาดเคลื่อนที่เกิดจากการเก็บข้อมูลของการวิจัย
ความคลาดเคลื่อนที่เกิดจากการเก็บข้อมูลของการวิจัย

เปิดอ่าน 10,036 ครั้ง
โอเน็ต!ยัง โอเค?
โอเน็ต!ยัง โอเค?
เปิดอ่าน 454,702 ครั้ง
การวิ่งระยะต่าง ๆ (พลศึกษา)
การวิ่งระยะต่าง ๆ (พลศึกษา)
เปิดอ่าน 33,303 ครั้ง
เคล็ดลับ"ล้างเห็ด" ให้สะอาดทันใจ
เคล็ดลับ"ล้างเห็ด" ให้สะอาดทันใจ
เปิดอ่าน 15,387 ครั้ง
รู้จัก รู้ใช้ ถุงลมนิรภัย
รู้จัก รู้ใช้ ถุงลมนิรภัย
เปิดอ่าน 11,910 ครั้ง
อภิปัญหาหนี้ครู...ปมที่แก้ไม่ตก 11 ปีลุกลาม 1.2 ล้านล้าน
อภิปัญหาหนี้ครู...ปมที่แก้ไม่ตก 11 ปีลุกลาม 1.2 ล้านล้าน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ