|
ผลวิจัยชี้เด็กต่ำกว่า 16 ใช้โทรศัพท์มือถือมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคเนื้องอกในสมอง เพิ่มขึ้น 5 เท่า เพราะสมอง และระบบประสาทกำลังพัฒนา
นักวิจัยในสวีเดนบอกว่า เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี เสี่ยงได้รับรังสีจากโทรศัพท์มือถือ เพราะสมองและระบบประสาทกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา เนื่องจากศีรษะเล็กและกะโหลกบาง รังสีจึงแทรกซึมลึกเข้าไปถึงสมองได้
นักวิจัยยังบอกอีกว่า เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีควรใช้มือถือเฉพาะในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ส่วนวัยรุ่นควรใช้อุปกรณ์แฮนด์ฟรี และพยายามใช้การส่งข้อความแทนการคุยมือถือ แต่นักวิจัยบางรายยังแคลงใจกับผลการศึกษานี้โดยแย้งว่า โทรศัพท์มือถือยังออกสู่ท้องตลาดได้ไม่นานพอที่จะทดสอบความเสี่ยงได้อย่างถูกต้อง ในอังกฤษ เด็กอายุต่ำกว่า 16 มีมือถือกันราว 90% และเด็กประถมมีมือถือกันประมาณ 40%
งานวิจัยในสวีเดนชิ้นนี้นำเสนอต่อที่ประชุมเกี่ยวกับภาวะสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งกองทุนวิจัยรังสีของอังกฤษเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่ราชสมาคมในกรุงลอนดอน กองทุนนี้เป็นหน่วยงานอิสระที่รณรงค์ให้มีการวิจัยเกี่ยวกับอันตรายจากรังสีแม่เหล็กไฟฟ้า ผลวิจัยพบว่า ยิ่งใช้มือถือตั้งแต่อายุน้อยเท่าไร โอกาสเป็นเนื้องอกในสมองก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
"คนที่เริ่มใช้โทรศัพท์มือถือตั้งแต่ก่อนอายุ 20 ปี มีโอกาสเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าที่จะเป็นเนื้องอกเกลีย ซึ่งเป็นเนื้องอกในสมองชนิดหนึ่ง" ศาสตราจารย์เลนนาร์ต ฮาร์เดล แห่งมหาวิทยาลัยฮอสพิทอลในเมืองโอเรโบร สวีเดน บอก
เขาบอกว่า โทรศัพท์ไร้สายภายในบ้านก็มีความเสี่ยงใกล้เคียงกับมือถือ วัยรุ่นที่ใช้มีโอกาสเพิ่มขึ้น 4 เท่าที่จะเป็นเนื้องอกเกลีย ซึ่งเป็นมะเร็งที่เซลล์เกลียที่สนับสนุนระบบประสาทส่วนกลาง
คนที่ใช้มือถือก่อนอายุ 20 ก็มีโอกาสเพิ่มขึ้น 5 เท่า ที่จะเป็นเนื้องอกประสาทเกี่ยวกับการรับเสียง แม้เป็นเนื้องอกที่ไม่อันตรายซึ่งไม่ทำให้เป็นมะเร็ง แต่สามารถทำลายประสาทรับเสียงและทำให้หูหนวกได้ ส่วนคนในวัย 20 ที่ใช้มือถือ มีโอกาสเพิ่มขึ้น 50% ที่จะเป็นเนื้องอกเกลีย และมีโอกาสเพิ่มขึ้นเท่าตัวที่จะเป็นเนื้องอกประสาทรับเสียง
เดวิด คาร์เพนเทอร์ แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ฟังแล้วบอกว่า เด็กๆ กำลังใช้มือถือกันมากขึ้น มะเร็งสมองอาจเกิดขึ้นมากมายเพราะเรื่องนี้
แต่นักวิทยาศาสตร์บางคนเรียกร้องให้มีการศึกษาเพิ่มเติม เพราะเห็นว่าผลจากการใช้โทรศัพท์มือถือที่ทำให้เกิดมะเร็งนั้น โรคนี้ต้องใช้เวลาพัฒนาหลายปี ซึ่งอาจนานกว่าที่มือถือได้กลายเป็นของใช้ประจำตัวอย่างทุกวันนี้ด้วยซ้ำ
อังกฤษกำลังทำวิจัยเรื่องนี้ภายใต้โครงการวิจัยสุขภาพกับการสื่อสารทางไกลระบบเคลื่อนที่ โดยศึกษาประชาชน 90,000 คน
ศาสตราจารย์เดวิด ค็อกกอน นักวิจัยของโครงการดังกล่าวบอกว่า ฟังดูน่ากลัวที่พบว่าเด็กที่ใช้มือถือเสี่ยงเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้น 5 เท่า แต่ตนไม่คิดว่าความเสี่ยงจะสูงถึงขนาดนั้น หากมีการวิจัยข้อมูลอย่างละเอียด
ข้อมูลจาก ไทยโพสต์
ชุดไทยจิตรลดา โทนสีดำ ตัดเย็บจากผ้าไหมแพรทิพย์ งานละเอียดปราณีต แพทเทิร์นเข้ารูป สวยหรู ทันสมัย #ภาพถ่ายจากสินค้าจริง
฿1,790https://s.shopee.co.th/8ANnSpUT4P?share_channel_code=6
Advertisement
 เปิดอ่าน 16,221 ครั้ง  เปิดอ่าน 16,787 ครั้ง  เปิดอ่าน 14,271 ครั้ง  เปิดอ่าน 4,465 ครั้ง  เปิดอ่าน 21,167 ครั้ง  เปิดอ่าน 2,049 ครั้ง  เปิดอ่าน 2,119 ครั้ง  เปิดอ่าน 11,548 ครั้ง  เปิดอ่าน 20,701 ครั้ง  เปิดอ่าน 13,009 ครั้ง  เปิดอ่าน 10,463 ครั้ง  เปิดอ่าน 177,187 ครั้ง  เปิดอ่าน 22,028 ครั้ง  เปิดอ่าน 16,418 ครั้ง  เปิดอ่าน 11,696 ครั้ง  เปิดอ่าน 16,611 ครั้ง
|

เปิดอ่าน 18,100 ☕ คลิกอ่านเลย |

เปิดอ่าน 11,952 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 19,643 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 11,694 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 9,828 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 11,056 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 23,347 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ 
เปิดอ่าน 46,693 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 13,267 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 2,449 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 12,004 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 11,196 ครั้ง |
|
|