บทคัดย่อ
การวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1)เปรียบเทียบความสามารถในการวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านกอกวิทยาคม ก่อนและหลังเรียนรู้แบบกอกโมเดล (Kok Model) ผ่านวิธีการทำโครงงาน (2) เพื่อศึกษาความสามารถทำงานแบบรวมพลังของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านกอกวิทยาคม ก่อนและหลังเรียนรู้แบบกอกโมเดล (Kok Model) ผ่านวิธีการทำโครงงาน กลุ่มเป้าหมายในการวิจัยคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1จำนวน 20 คน ปีการศึกษา 2559 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แผนการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ จัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบกอกโมเดล (Kok Model) ผ่านวิธีการทำโครงงาน ในวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ในหน่วยการเรียนรู้เรื่อง การประมาณค่า จำนวน 8 แผน แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และแบบสังเกตการทำงานแบบรวมพลัง วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติค่าร้อยละ และการวิเคราะห์ข้อมูลจากการสังเกต ตามเกณฑ์การประเมินตามระดับคุณภาพ
สรุปผลการวิจัย ดังนี้
1. ความสามารถในการวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านกอกวิทยาคม ก่อนและหลังเรียนรู้แบบกอกโมเดล (Kok Model) ผ่านวิธีการทำโครงงาน ในวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง การประมาณค่า จำนวน 8 แผน ผลการศึกษาพบว่า นักเรียน 13 คน ได้คะแนนจากแบบทดสอบหลังเรียนสูงกว่าร้อยละ 50 ของคะแนนเต็ม โดยมีนักเรียน 4 คน ได้คะแนนมากกว่าร้อยละ 60 ของคะแนนเต็ม และมีนักเรียน 3 คน ได้คะแนนมากกว่าร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม แต่เมื่อเปรียบเทียบกับคะแนนร้อยละของคะแนนเป็นรายบุคคลก่อนทำการเรียนการสอน นักเรียนทั้ง 20 คน มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์สูงขึ้น โดยเฉพาะนักเรียนที่ได้คะแนนต่ำกว่าร้อยละ 50 ได้คะแนนสูงขึ้นคิดเป็นร้อยละ 80 ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้
2. ความสามารถทำงานแบบรวมพลังของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านกอกวิทยาคม ก่อนและหลังเรียนรู้แบบกอกโมเดล (Kok Model) ผ่านวิธีการทำโครงงาน ผลการศึกษาพบว่า การทำงานแบบรวมพลังของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 20 คน โดยแบ่งบทบาทสมาชิกในกลุ่ม และปรับเปลี่ยนหน้าที่ในแต่ละภาระงาน/ชิ้นงานที่ได้รับ เป็นดังนี้
2.1 บทบาทผู้นำกลุ่ม พบว่า นักเรียนจำนวน 5 คน ได้รับการเสริมสร้างความเป็นผู้นำกลุ่ม เช่น รู้จักจัดการกลุ่ม วางแผนการทำงาน ร่วมดำเนินงานกลุ่ม รวมทั้งสามารถนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนได้ มีความสามารถในการทำงานแบบรวมพลังอยู่ในระดับดีมาก ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนอีก 15 คน ได้รับการเสริมสร้าง ในบทบาทสมาชิกในกลุ่ม
2.2 บทบาทสมาชิกในกลุ่ม พบว่า ภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ คือ จำนวนนักเรียนทั้ง 15 คน ให้ความร่วมมือในการพูด มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น มีความกระตือรือร้นในการทำงาน มีขั้นตอนในการทำงานอย่างเป็นระบบ และ มีส่วนร่วมในการทำงานเป็นระยะๆ เช่น มีส่วนร่วมในการเขียน พูด อ่าน สนับสนุนกลุ่ม รวมทั้งปฏิบัติงานในความรับผิดชอบของตนเอง และงานของกลุ่มได้ อยู่ในระดับดี ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้
2.3 กระบวนการทำงาน พบว่า นักเรียนจำนวน 17 คน ร่วมการวางแผนก่อนปฏิบัติงาน และปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ อย่างเป็นระบบ อยู่ในระดับดี ส่วนอีก 3 คน ให้ความร่วมมือในการทำงาน คือ การเขียน การวาดรูป แต่ไม่พูด และไม่แสดงออกในการแสดงความคิดเห็น
2.4 บรรยากาศทำงานกลุ่ม พบว่า สมาชิกส่วนมากกระตือรือร้นทำงานตามที่กำหนด มีส่วนร่วมและมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน สมาชิกในกลุ่มมีความยินดีและพอใจในการทำงานร่วมกัน จนเกิดเป็นบรรยากาศในชั้นเรียนที่ดี