บทคัดย่อ

งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้การอ่านและการเขียนคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ประกอบแบบฝึกทักษะให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลด้านการอ่านและการเขียนคำไม่ตรงมาตราตัวสะกด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสมองเป็นฐาน ประกอบแบบฝึกทักษะ 3) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการอ่านและการเขียนคำไม่ตรงมาตราตัวสะกด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสมองเป็นฐาน ประกอบแบบฝึกทักษะ ก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสมองเป็นฐาน ประกอบแบบฝึกทักษะ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/7 โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาในพระอุปถัมภ์ฯ อำเภอเมือง สังกัดสำนักการศึกษาเทศบาลนครภูเก็ต ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 45 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ แผนการจัดการเรียนรู้แบบการจัดการแบบสมองเป็นฐานประกอบแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด จำนวน 22 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดความสามารถด้านการอ่านและการเขียนคำไม่ตรงมาตราตัวสะกด แบบปรนัย ชนิด 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานประกอบแบบฝึกทักษะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test

ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้

1. แผนการจัดการเรียนรู้การอ่านและการเขียนคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสมองเป็นฐานประกอบแบบฝึกทักษะ มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.90/86.80 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้

2. ดัชนีประสิทธิผลด้านการอ่านและการเขียนคำไม่ตรงมาตราตัวสะกด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสมองเป็นฐาน ประกอบแบบฝึกทักษะ มีค่าเท่ากับ 0.7920 หรือคิดเป็นร้อยละ 79.20

3. ความสามารถด้านการอ่านและการเขียนคำไม่ตรงมาตราตัวสะกด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสมองเป็นฐาน ประกอบแบบฝึกทักษะ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสมองเป็นฐาน ประกอบแบบฝึกทักษะ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.54)

เว็บน่าสนใจ