ชื่องานวิจัย : การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E (Inquiry Cycle) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5
ผู้วิจัย : นิตยา สุวรรณมณี
ปีที่วิจัย : 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E (Inquiry Cycle) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) สร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E (Inquiry Cycle) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีความเหมาะสมต่อการจัดการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E (Inquiry Cycle) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 4) ประเมินผลความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้การจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E (Inquiry Cycle) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนเทศบาล ๑ (แตงอ่อนเผดิมวิทยา) เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 37 คน ทดลองใช้ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 เป็นเวลา 14 ชั่วโมง แบบแผนการทดลอง คือ One Group Pretest Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบสอบถาม 2) แบบสัมภาษณ์ 3) แผนการจัดการเรียนรู้ 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 5) แบบประเมินผลความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าดัชนีความสอดคล้อง (Index of Item Objective Congruence: IOC) การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าที (t test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E (Inquiry Cycle) เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ PTPES Model โดยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ PTPES Model ประกอบด้วย 5 ขั้นตอนคือ ขั้นที่ 1 ขั้นเตรียม (Preparation: P) ขั้นที่ 2 ขั้นสอน (Teaching: T) ขั้นที่ 3 ขั้นฝึกทักษะ (Practicing: P) ขั้นที่ 4 ขั้นวัดและประเมินผล (Evaluation: E) และขั้นที่ 5 ขั้นสรุป (Summarizing: S) โดยความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ (PTPES Model) มีความเหมาะสมต่อการจัดการเรียนการสอนของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในระดับมาก
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ (PTPES Model) ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E (Inquiry Cycle) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน และก่อนเรียนแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติที่ระดับ .01
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัด การเรียนรู้ (PTPES Model) ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E (Inquiry Cycle) มีคะแนนเฉลี่ยรวม ( ) เท่ากับ 3.88 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 70 เมื่อเทียบกับเกณฑ์การพิจารณาระดับความพึงพอใจ แสดงว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ (PTPES Model) ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E (Inquiry Cycle) อยู่ระดับมาก