|
Advertisement
|
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1.เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ฟังก์ชันที่ควรรู้จัก สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2.เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ฟังก์ชันที่ควรรู้จัก 3.เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ฟังก์ชันที่ควรรู้จัก กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/6 ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 15 จำนวน 39 คน ได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย ซึ่งใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องฟังก์ชันที่ควรรู้จัก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ 2) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องฟังก์ชันที่ควรรู้จัก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 7 เล่ม 3) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องฟังก์ชันที่ควรรู้จัก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 7 แผน 16 ชั่วโมง 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนในการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ฟังก์ชันที่ควรรู้จัก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มาตรประมาณค่า (Rating Scale) ชนิด 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าประสิทธิภาพ E1/E2 และสถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐาน t-test
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ฟังก์ชันที่ควรรู้จัก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 77.99/76.92
2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ฟังก์ชันที่ควรรู้จัก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ปรากฏว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ คณิตศาสตร์ เรื่อง ฟังก์ชันที่ควรรู้จัก โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ซึ่งมีค่าเฉลี่ยเลขคณิตและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 4.43 และ 0.63
|
โพสต์โดย Nutnoypcy : [27 ก.พ. 2562 เวลา 20:32 น.] อ่าน [65854] ไอพี : 171.7.250.183
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
| |
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
| |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 22,430 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,238 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 4,075 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 111,263 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 1,155 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 816 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 1,098 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 49,742 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,763 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 33,587 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,528 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 21,277 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,844 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 38,109 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 30,551 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 29,450 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 32,543 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,751 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,111 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 25,870 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|