การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการฟัง – พูดภาษาอังกฤษแบบมุ่งเน้นประสบการณ์ทางภาษาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อประเมินประสิทธิผลรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการฟัง – พูดภาษาอังกฤษแบบมุ่งเน้นประสบการณ์ทางภาษาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ดังนี้ 2.1) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถทักษะการฟัง – พูดภาษาอังกฤษของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการสอนเพื่อส่สงเสริมทักษะการฟัง – พูดภาษาอังกฤษแบบมุ่งเน้นประสบการณ์ทางภาษาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลังเรียน 2.2) เพื่อศึกษาทักษะกระบวนการกลุ่มของนักเรียนที่เรียนตามรูปแบบการสอนเพื่อส่สงเสริมทักษะการฟัง – พูดภาษาอังกฤษแบบมุ่งเน้นประสบการณ์ทางภาษาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2.3) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนต่อกิจกรรมการเรียนรู้หลังเรียนตามรูปแบบการสอนเพื่อส่สงเสริมทักษะการฟัง – พูดภาษาอังกฤษแบบมุ่งเน้นประสบการณ์ทางภาษาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

3) เพื่อนำรูปแบบการสอนเพื่อส่สงเสริมทักษะการฟัง – พูดภาษาอังกฤษแบบมุ่งเน้นประสบการณ์ทางภาษาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ไปขยายผล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/8 ของโรงเรียนบ้านคูหาสวรรค์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 สังกัดเทศบาลเมืองพัทลุง จำนวนนักเรียน 37 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้การวิจัย รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการฟัง – พูดภาษาอังกฤษแบบมุ่งเน้นประสบการณ์ทางภาษาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แบบทดสอบวัดความสามารถการฟัง – พูดภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แบบประเมินทักษะกระบวนการกลุ่มของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และแบบสอบถามความคิดเห็นในการเรียนของนักเรียนต่อรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการฟัง – พูดภาษาอังกฤษแบบมุ่งเน้นประสบการณ์ทางภาษาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) วิเคราะห์ข้อมูลโดยการทดสอบค่าที (t-test)

ผลการวิจัย พบว่า

1. รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการฟัง – พูดภาษาอังกฤษแบบมุ่งเน้นประสบการณ์ทางภาษาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีชื่อว่า “ GOATDEA Model” 7 องค์ประกอบคือ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4) การวัดและประเมินผล 5) สาระความรู้และทักษะในการปฏิบัติงาน 6) ระบบสังคม 7) เงื่อนไขสำคัญในการนำรูปแบบใช้ประสบความสำเร็จพบว่ารูปแบบการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดวิเคราะห์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.31/ 83.96

2. ประสิทธิผลของรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการฟัง – พูดภาษาอังกฤษแบบมุ่งเน้นประสบการณ์ทางภาษาร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2.1) หลังเรียนด้วยรูปแบบนักเรียนมีทักษะการฟัง – พูดภาษาอังกฤษสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2.2) นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบมีทักษะกระบวนการกลุ่มที่สูงขึ้น 2.3) หลังเรียนตามรูปแบบนักเรียนมีความคิดเห็นต่อกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบในภาพรวมระดับความเห็นมากที่สุด

3. ผลการขยายผลรูปแบบ หลังการเรียนด้วยรูปแบบนักเรียนมีทักษะการฟัง – พูดภาษาอังกฤษ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 มีทักษะกระบวนการกลุ่มและมีความคิดเห็นต่อกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบโดยภาพรวมอยู่ในระดับความเห็นมากที่สุด

เว็บน่าสนใจ