ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาตามแนวคิดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ผสมผสานกลวิธีเอ็กซ์พลิซิท เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการแ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาตามแนวคิดการเรียนรู้

แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ผสมผสานกลวิธีเอ็กซ์พลิซิท เพื่อพัฒนาความคิด

สร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 1

ผู้รายงาน สมศักดิ์ นรารักษ์

ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาตามแนวคิด การเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ผสมผสานกลวิธีเอ็กซ์พลิซิท เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาตามแนวคิดการเรียนรู้ แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ผสมผสานกลวิธีเอ็กซ์พลิซิท เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาตามแนวคิดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ผสมผสานกลวิธีเอ็กซ์พลิซิท เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ดังนี้ 3.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาตามแนวคิดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ผสมผสานกลวิธีเอ็กซ์พลิซิท เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3.2) เพื่อศึกษาความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาตามแนวคิดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ผสมผสานกลวิธีเอ็กซ์พลิซิท เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาตามแนวคิดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ผสมผสานกลวิธีเอ็กซ์พลิซิท เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3 ที่กำลังศึกษาใน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาลบ้านย่านยาว สังกัดเทศบาลเมืองตะกั่วป่า อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา จำนวน 46 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 8 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 20 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ แบบวัดคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ปัญหา จำนวน 20 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 1 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบความแตกต่างของคะแนนโดยใช้ t-test (Dependent Sample)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาตามแนวคิดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ผสมผสานกลวิธีเอ็กซ์พลิซิท เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า แนวคิดทฤษฎีที่มีความเหมาะสมในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาตามแนวคิดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ผสมผสานกลวิธีเอ็กซ์พลิซิท ได้แก่ แนวคิดเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์และการแก้ปัญหา ทฤษฎีการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน และทฤษฎีกลวิธีเอ็กซ์พลิซิท

2. ผลการสร้างและหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาตามแนวคิดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ผสมผสานกลวิธีเอ็กซ์พลิซิท เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ผสมผสานกลวิธีเอ็กซ์พลิซิท สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีชื่อว่า “P plus 4 CA Model” ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การทบทวนความรู้และทักษะที่ได้เรียนรู้ (Providing Daily Review) ขั้นตอนที่ 2 การนำเสนอสาระที่ควรเรียนรู้ใหม่ (Presenting New Material) ขั้นตอนที่ 3 การปฏิบัติกิจกรรม โดยครูให้คำแนะนำ (Conducting Guided Practice) ขั้นตอนที่ 4 การให้ข้อมูลย้อนกลับและวิธีแก้ไข (Providing Feedback and Corrections) ขั้นตอนที่ 5 การฝึกทบทวนปฏิบัติกิจกรรมเพื่อสร้างความรู้ ทักษะ และความชำนาญ (Assigning Independent Practice) และขั้นตอนที่ 6 การทบทวนเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจและมีความคงทนของความรู้ความเข้าใจ (Providing Weekly and Monthly) โดยรูปแบบการจัดการเรียนการสอน P plus 4 CA Model ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.99/83.64 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาตามแนวคิดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ผสมผสานกลวิธีเอ็กซ์พลิซิท เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า

3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาตามแนวคิดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ผสมผสานกลวิธีเอ็กซ์พลิซิท เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3.2 ความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาตามแนวคิดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ผสมผสานกลวิธีเอ็กซ์พลิซิท เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาตามแนวคิดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ผสมผสานกลวิธีเอ็กซ์พลิซิท เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับพึงพอใจมาก

โพสต์โดย kratai : [1 ก.ย. 2563 เวลา 12:35 น.]
อ่าน [3480] ไอพี : 118.172.137.45
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,012 ครั้ง
ทบทวนระบบการประกันคุณภาพ การศึกษาของไทยเดี๋ยวนี้... ฤๅว่าจะสายเกินไป
ทบทวนระบบการประกันคุณภาพ การศึกษาของไทยเดี๋ยวนี้... ฤๅว่าจะสายเกินไป

เปิดอ่าน 10,229 ครั้ง
ความลับ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงอายุยืนที่สุดในโลก
ความลับ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงอายุยืนที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 20,724 ครั้ง
คลิป "สมรักษ์" แพ้ "จอมโหด"
คลิป "สมรักษ์" แพ้ "จอมโหด"

เปิดอ่าน 22,009 ครั้ง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560

เปิดอ่าน 11,398 ครั้ง
เปิดตัว Google Instant ค้นหาข้อมูลเร็วกว่าเดิม
เปิดตัว Google Instant ค้นหาข้อมูลเร็วกว่าเดิม

เปิดอ่าน 9,031 ครั้ง
ISCi : episode 53 - น้ำเรืองแสง
ISCi : episode 53 - น้ำเรืองแสง

เปิดอ่าน 28,390 ครั้ง
บทบาทของสื่อมัลติมีเดีย
บทบาทของสื่อมัลติมีเดีย

เปิดอ่าน 15,050 ครั้ง
7 เคล็ดลับเพิ่มความสูงให้กับตัวเอง
7 เคล็ดลับเพิ่มความสูงให้กับตัวเอง

เปิดอ่าน 13,272 ครั้ง
"คนไร้ตัวตน" รายการตีสิบ 25 ก.ย.2555
"คนไร้ตัวตน" รายการตีสิบ 25 ก.ย.2555

เปิดอ่าน 13,267 ครั้ง
"อัญชัน"..ผมงามและช่วยในการมองเห็น - ดินดีสม เป็นนาสวน
"อัญชัน"..ผมงามและช่วยในการมองเห็น - ดินดีสม เป็นนาสวน

เปิดอ่าน 20,773 ครั้ง
วีดิทัศน์คณิตศาสตร์ ชั้น ป.4 โดย สสวท.
วีดิทัศน์คณิตศาสตร์ ชั้น ป.4 โดย สสวท.

เปิดอ่าน 10,414 ครั้ง
Facebook และ Twitter ใช้ยิ่งมาก...สุขภาพยิ่งดีกว่านะ
Facebook และ Twitter ใช้ยิ่งมาก...สุขภาพยิ่งดีกว่านะ

เปิดอ่าน 40,249 ครั้ง
ธุรกิจออนไลน์ที่น่าลงทุนในปี 2020 สำหรับสร้างรายได้เสริม
ธุรกิจออนไลน์ที่น่าลงทุนในปี 2020 สำหรับสร้างรายได้เสริม

เปิดอ่าน 11,334 ครั้ง
"กูเกิล"เปิดบริการ"กูเกิล ไดรฟ์" เก็บข้อมูลออนไลน์สูงสุด "16 เทราไบท์"
"กูเกิล"เปิดบริการ"กูเกิล ไดรฟ์" เก็บข้อมูลออนไลน์สูงสุด "16 เทราไบท์"

เปิดอ่าน 9,307 ครั้ง
แปลงความยากจน ให้เป็นต้นทุนแห่งการเรียนรู้
แปลงความยากจน ให้เป็นต้นทุนแห่งการเรียนรู้

เปิดอ่าน 13,573 ครั้ง
วิธีล้างคราบน้ำชาที่ติดแก้ว
วิธีล้างคราบน้ำชาที่ติดแก้ว
เปิดอ่าน 15,526 ครั้ง
มากกว่านี้มีอีกไหม! พบคู่แฝด 29 คู่เรียนในโรงเรียนเดียวกันที่อุดรธานี
มากกว่านี้มีอีกไหม! พบคู่แฝด 29 คู่เรียนในโรงเรียนเดียวกันที่อุดรธานี
เปิดอ่าน 44,918 ครั้ง
ทานโจ๊กตอนเช้ามีประโยชน์อย่างไร
ทานโจ๊กตอนเช้ามีประโยชน์อย่างไร
เปิดอ่าน 12,151 ครั้ง
คลิปพายุถล่มรร.สตรีฯตราด กวาดทุกอย่างราบเป็นหน้ากลอง
คลิปพายุถล่มรร.สตรีฯตราด กวาดทุกอย่างราบเป็นหน้ากลอง
เปิดอ่าน 13,356 ครั้ง
วันมาฆบูชา
วันมาฆบูชา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ