ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานการประเมินผลโครงการส่งเสริมศักยภาพสู่ความเป็นเลิศทางด้านกีฬาฟุตบอล โรงเรียนประชารัฐพัฒนา องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี

ชื่อผลงานทางวิชาการ รายงานการประเมินผลโครงการส่งเสริมศักยภาพสู่ความเป็นเลิศทางด้าน

กีฬาฟุตบอล โรงเรียนประชารัฐพัฒนา องค์การบริหารส่วนจังหวัด

ปราจีนบุรี

ผู้ประเมินผลโครงการ นายวิวรรธน์ โพธินา

ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนประชารัฐพัฒนา

ปีการศึกษาที่ประเมินผล ปีการศึกษา 2561 - ปีการศึกษา 2562

หน่วยงานต้นสังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี

บทคัดย่อ

การประเมินผลโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการดำเนินการโครงการส่งเสริมศักยภาพสู่ความเป็นเลิศทางด้านกีฬาฟุตบอล โรงเรียนประชารัฐพัฒนา องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ในปีการศึกษา 2561 – ปีการศึกษา 2562 ทั้งในภาพรวม และจำแนกตามองค์ประกอบของการประเมินด้านบริบท (Context ) ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ด้านกระบวนการ (Process) ด้านผลผลิต (Product) และด้านผลกระทบ (Impact)

กลุ่มเป้าหมายที่ศึกษา ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนประชารัฐพัฒนา ครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน ปีการศึกษา 2561 และ ปีการศึกษา 2562 ซึ่งได้มาโดยการคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive Random Sampling) โดยมีกลุ่มผู้ให้ข้อมูล ปีการศึกษา 2561 ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนประชารัฐพัฒนา จำนวน 9 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 14 คน นักเรียน จำนวน 151 คน และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 151 คน โดยแยกเป็นนักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 24 คน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 40 คน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 23 คน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 17 คน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 27 คน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 20 คน และประชากรปีการศึกษา 2562 ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนประชารัฐพัฒนา จำนวน 9 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 14 คน นักเรียน จำนวน 154 คน และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 154 คน โดยแยกเป็นนักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 34 คน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 22 คน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 31 คน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 27 คน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 18 คน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 22 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในครั้งนี้ ผู้ประเมินใช้เป็นแบบสอบถามมีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ใน 5 ด้าน ได้แก่ (1) ด้านบริบท (Context) (2) ประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input) (3) ประเมินด้านกระบวนการ (Process) (4) ประเมินด้านผลผลิต (Output) (5) ประเมินด้านผลกระทบ (Impact)

การประเมินผลโครงการ พบว่า การประเมินผลโครงการส่งเสริมศักยภาพสู่ความเป็นเลิศทางด้านกีฬาฟุตบอล โรงเรียนประชารัฐพัฒนา องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ในปีการศึกษา 2561 – ปีการศึกษา 2562 โดยรวมมีค่าคะแนนเฉลี่ยในระดับมากและมากที่สุดทุกทัศนะ ซึ่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์พบว่าทุกด้านผ่านเกณฑ์ ดังนี้

การดำเนินงานโครงการส่งเสริมศักยภาพสู่ความเป็นเลิศทางด้านกีฬาฟุตบอล ตามทัศนะของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในปีการศึกษา 2561 โดยรวมใน 5 ด้าน พบว่า อยู่ในระดับ มากที่สุด 2 ด้าน และระดับมาก 3 ด้าน ด้านที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านบริบท ( = 4.62, = 0.06) ส่วนด้านที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ด้านกระบวนการ ( = 4.38, = 0.16) ซึ่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์ พบว่า ทุกด้านผ่านเกณฑ์

ในปีการศึกษา 2562 โดยรวมใน 5 ด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 4 ด้าน ระดับมาก 1 ด้าน ด้านที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านบริบท ( = 4.80, = 0.15) ส่วนด้านที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ด้านกระบวนการ ( = 4.43, = 0.75) ซึ่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์ พบว่า ทุกด้านผ่านเกณฑ์

การดำเนินงานโครงการส่งเสริมศักยภาพสู่ความเป็นเลิศทางด้านกีฬาฟุตบอล ตามทัศนะ ของครูและบุคลากรทางการศึกษา ในปีการศึกษา 2561 โดยรวมใน 5 ด้าน พบว่า อยู่ในระดับมาก ทุกด้าน ด้านที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านปัจจัยนำเข้า ( = 4.47, = 0.11) ส่วนด้านที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ด้านผลผลิต ( = 4.29, = 0.11) ซึ่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์ พบว่า ทุกด้านผ่านเกณฑ์

ในปีการศึกษา 2562 โดยรวมใน 5 ด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 2 ด้าน ระดับมาก 3 ด้าน ด้านที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านบริบท ( = 4.60, = 0.14) ส่วนด้านที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ด้านปัจจัยนำเข้า ( = 4.43, = 0.16) ซึ่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์ พบว่า ทุกด้านผ่านเกณฑ์

การดำเนินงานโครงการส่งเสริมศักยภาพสู่ความเป็นเลิศทางด้านกีฬาฟุตบอล ตามทัศนะ ของนักเรียน ในปีการศึกษา 2561 โดยรวมใน 5 ด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 1 ด้าน ระดับมาก 4 ด้าน ด้านที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านบริบท ( = 4.54, = 0.03) ส่วนด้านที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ด้านปัจจัยนำเข้า ( = 4.45, = 0.10) ซึ่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์ พบว่า ทุกด้านผ่านเกณฑ์

ในปีการศึกษา 2562 โดยรวมใน 5 ด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน ด้านที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านบริบท ( = 4.50, = 0.03) ส่วนด้านที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ด้านปัจจัยนำเข้า ( = 4.26, = 0.03) ซึ่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์ พบว่า ทุกด้านผ่านเกณฑ์

การดำเนินงานโครงการส่งเสริมศักยภาพสู่ความเป็นเลิศทางด้านกีฬาฟุตบอล ตามทัศนะ ของผู้ปกครองนักเรียน ในปีการศึกษา 2561 โดยรวมใน 5 ด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 2 ด้าน ระดับมาก 3 ด้าน ด้านที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านบริบท ( = 4.66, = 0.04) ส่วนด้านที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ด้านปัจจัยนำเข้า ( = 4.34, = 0.08) ซึ่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์ พบว่า ทุกด้านผ่านเกณฑ์

ในปีการศึกษา 2562 โดยรวมใน 5 ด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 1 ด้าน และระดับมาก 4 ด้าน ด้านที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านบริบท ( = 4.64, = 0.03) ส่วนด้านที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ด้านปัจจัยนำเข้า ( = 4.22, = 0.05) ซึ่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์ พบว่า ทุกด้านผ่านเกณฑ์

โพสต์โดย wchaii : [24 มี.ค. 2564 เวลา 05:33 น.]
อ่าน [67122] ไอพี : 182.232.190.51
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,327 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา "นโยบายไปทาง..ปฏิบัติไปทาง..สุดท้ายปฏิวัติเสียของ"
ตูนส์ศึกษา "นโยบายไปทาง..ปฏิบัติไปทาง..สุดท้ายปฏิวัติเสียของ"

เปิดอ่าน 19,415 ครั้ง
ไก่เคยูเบตง สร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค
ไก่เคยูเบตง สร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค

เปิดอ่าน 10,081 ครั้ง
คนไทยกับ "วิกฤติหนี้สิน" "การศึกษา" ถึงเวลาปฏิรูป
คนไทยกับ "วิกฤติหนี้สิน" "การศึกษา" ถึงเวลาปฏิรูป

เปิดอ่าน 15,544 ครั้ง
อาการแบบไหนที่เรียกว่ากำลังขาดวิตามินซี
อาการแบบไหนที่เรียกว่ากำลังขาดวิตามินซี

เปิดอ่าน 13,759 ครั้ง
ผงะนมเสียผุดก๊าซพิษร้ายเทียบเท่า"ควันรถ"
ผงะนมเสียผุดก๊าซพิษร้ายเทียบเท่า"ควันรถ"

เปิดอ่าน 16,224 ครั้ง
อ้างพบธาตุหนักที่สุดมีเลขอะตอม 122
อ้างพบธาตุหนักที่สุดมีเลขอะตอม 122

เปิดอ่าน 15,102 ครั้ง
เนียนจริง มุขเด็ดสำหรับการหาที่จอดรถ ดูซิ เจ๊แกใช้มุขไหน?
เนียนจริง มุขเด็ดสำหรับการหาที่จอดรถ ดูซิ เจ๊แกใช้มุขไหน?

เปิดอ่าน 20,813 ครั้ง
สมุนไพร"บัวบก"คุณค่าที่มากกว่าแก้ช้ำใน
สมุนไพร"บัวบก"คุณค่าที่มากกว่าแก้ช้ำใน

เปิดอ่าน 25,463 ครั้ง
ตำนานคิวปิด
ตำนานคิวปิด

เปิดอ่าน 22,319 ครั้ง
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา

เปิดอ่าน 24,263 ครั้ง
อ่านกันชัดๆ ที่นี่ "อยากเป็นครู ทำอย่างไร?"
อ่านกันชัดๆ ที่นี่ "อยากเป็นครู ทำอย่างไร?"

เปิดอ่าน 30,260 ครั้ง
ดนตรีบำบัด
ดนตรีบำบัด

เปิดอ่าน 17,138 ครั้ง
ตามไปดูต้นแบบความสำเร็จ การปฏิรูปการศึกษา 5 ประเทศ
ตามไปดูต้นแบบความสำเร็จ การปฏิรูปการศึกษา 5 ประเทศ

เปิดอ่าน 24,815 ครั้ง
กระทรวงศึกษาธิการกับการปรับโครงสร้าง
กระทรวงศึกษาธิการกับการปรับโครงสร้าง

เปิดอ่าน 43,341 ครั้ง
วิจัยและสถิติ
วิจัยและสถิติ

เปิดอ่าน 10,883 ครั้ง
อะแคนทะมีบา ภัย คอนแทคเลนส์
อะแคนทะมีบา ภัย คอนแทคเลนส์
เปิดอ่าน 15,104 ครั้ง
เรื่องของวันหยุดยาวในเดือนเมษายน กับการเปิด-ปิดเทอมของมหาวิทยาลัย
เรื่องของวันหยุดยาวในเดือนเมษายน กับการเปิด-ปิดเทอมของมหาวิทยาลัย
เปิดอ่าน 16,986 ครั้ง
การสอนภาษาอังกฤษ ในสพฐ. จุดอ่อนที่ควรคำนึง
การสอนภาษาอังกฤษ ในสพฐ. จุดอ่อนที่ควรคำนึง
เปิดอ่าน 14,942 ครั้ง
ภัยลิปสติกเจล เสี่ยงมะเร็ง!
ภัยลิปสติกเจล เสี่ยงมะเร็ง!
เปิดอ่าน 13,675 ครั้ง
อ้วนลงพุงกินอย่างไรให้เหมาะสม
อ้วนลงพุงกินอย่างไรให้เหมาะสม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ