|
Advertisement
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบกลยุทธ์การจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล เทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
ผู้วิจัย นายไพฑูรย์ พั้วป้อง
ปีวิจัย ปีการศึกษา 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานบริบทและสภาพแวดล้อมเกี่ยวกับวิธีการจัดการเรียนรู้ของครูในโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคลเทศบาลเมืองหล่มสักจังหวัดเพชรบูรณ์ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบกลยุทธ์การจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของนักเรียน โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล เทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบกลยุทธ์การจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล เทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ และ4) เพื่อประเมินโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล เทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ครูผู้สอนในโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล จำนวน 27 คน โดยใช้วิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม ผู้ปกครองนักเรียน ปีการศึกษา 2563 จำนวน 280 คนได้จากการสุ่มวิธีการสุ่มแบบเจาะจงและผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา ด้านการบริหารสถานศึกษา และด้านการจัดการเรียนการสอน จำนวน 15 คนได้จากวิธีการสุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบกลยุทธ์การจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง แบบประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองของครูผู้สอน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินคุณลักษณะในการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักเรียน แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการบริหารด้วยรูปแบบกลยุทธ์การจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองและแบบสอบถามเพื่อการประเมินรูปแบบกลยุทธ์การจัด การเรียนรู้ด้วยตนเอง การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์เนื้อหาและสถิติการบรรยาย
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน บริบท สภาพแวดล้อมวิธีการจัดการเรียนรู้ของครูในโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล เทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ พบว่า ครูผู้สอนต้องการใช้วิธีการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง
2. ผลการพัฒนารูปแบบกลยุทธ์การจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล เทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่สร้างและพัฒนาขึ้นมีชื่อว่าASSES Model มีองค์ประกอบ จำนวน 5 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการบริหาร (Administration : A)ด้านกลยุทธ์ (Strategy : S) ด้านการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self of Learning : S) ด้านการประเมินผล(Evaluation : E) และด้านความพึงพอใจ (Satisfaction : S) โดยผลการตรวจสอบความเหมาะสมและนำไปใช้ได้ของรูปแบบกลยุทธ์การจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง พบว่า มีความเหมาะสมและนำไปใช้ได้ อยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาทั้งตัวรูปแบบและองค์ประกอบพบว่า ทั้งรูปแบบและองค์ประกอบมีความเหมาะสมและนำไปใช้ได้ อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยมากสุดคือ รูปแบบกลยุทธ์การจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง รองลงมาคือองค์ประกอบด้านความพึงพอใจ องค์ประกอบด้านการบริหาร ด้านการเรียนรู้ด้วยตนเอง ด้านกลยุทธ์และด้านการประเมินผล ตามลำดับ และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ทุกข้อมีความเหมาะสมและนำไปใช้ได้
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบกลยุทธ์การจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล เทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์พบว่า โดยรวมครูผู้สอนมีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาทั้งด้านการวางแผนการจัดการเรียนรู้ ด้านการจัดการเรียนรู้และด้านการประเมินผลครูมีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ อยู่ในระดับมากที่สุด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีการศึกษา2563 สูงกว่าปีการศึกษา 2562 คิดเป็นร้อยละ 4.11 โดยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ทุกชั้นเรียน 2563 สูงกว่าปีการศึกษา 2562 อยู่ระหว่าง 3.32 4.72 โดยรวมนักเรียนมีคุณลักษณะในการเรียนรู้ได้ด้วยตนเองของ อยู่ในระดับดีมาก และเมื่อพิจารณาทั้งด้านการวางแผนการเรียนรู้ ด้านการเลือกวิธีการเรียนรู้ ด้านการแสวงหาข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ ด้านการควบคุมตนเอง ด้านการประเมินผลและทุกข้อนักเรียนมีคุณลักษณะในการเรียนรู้ด้วยตนเอง อยู่ในระดับดีมากโดยรวมผู้ปกครองมีความพึงพอใจต่อการบริหารโรงเรียนด้วยรูปแบบกลยุทธ์การจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาทั้งด้านการบริหารงานโรงเรียน ด้านการกำหนดกลยุทธ์ของโรงเรียนด้านการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ด้านการประเมินผล ด้านความพึงพอใจและทุกข้อผู้ปกครองมีความพึงพอใจต่อการบริหารโรงเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด
4. ผลการประเมินรูปแบบกลยุทธ์การจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล เทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ที่มีชื่อว่า ASSES Model พบว่า โดยรวมรูปแบบกลยุทธ์การจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง มีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาทั้งรูปแบบกลยุทธ์และองค์ประกอบ พบว่า ทั้งรูปแบบกลยุทธ์ องค์ประกอบและทุกข้อมีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด
|
โพสต์โดย ไพฑูรย์ : [4 ก.ย. 2564 เวลา 09:05 น.] อ่าน [101266] ไอพี : 223.207.241.235
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
| |
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
| |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 14,785 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,823 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 2,450 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 32,163 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,351 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,903 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 1,325 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 31,672 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 4,120 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 8,384 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 28,511 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,993 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,030 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,880 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 24,999 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 12,460 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,933 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,122 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,762 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,599 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|