ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย

บทคัดย่อ

ชื่อวิจัย: การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะวิชาวิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย

ผู้วิจัย: นางสาวสิริลภัสชญา เดือนฉาย ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

หน่วยงาน: โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย อำเภอเมืองประจวบคึรีขันธ์ จังหวัดประจวบคึรีขันธ์

สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองประจวบคัรีขันธ์

ปีที่วิจัย: 2563-2564

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย มีวัตถุประสงค์ ของการวิจัย คือ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและพัฒนาหรือสร้างรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย (2) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านค่ายที่ 3 และ (3) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 น โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย อำเภอเมืองประจวบคึรีขันธ์ จังหวัดประจวบคึรีขันธ์ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองประจวบคัรีขันธ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 44 คน ได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ด้วยวิธีการจับสลากจากกลุ่มโรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย 4 ชนิด คือ (1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบพาเพลิน (P-A-P-L-E-A-N) ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย จำนวน 14 แผน 21 ชั่วโมง มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (2) ชุดกิจกรรมวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย จำนวน 8 หน่วย มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่า IOC ตั้งแต่ 0.80 ถึง 1.00 โดยในภาพรวมมีค่าเท่ากับ 0.96 มีค่าความยาก (p) ระหว่าง 0.43 ถึง 0.77 และค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.20 ถึง 0.60 และมีความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.825 (4) แบบสอบถามวัดความพึงพอของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ มีค่า IOC ตั้งแต่ 0.80 ถึง 1.00 โดยในภาพรวมมีค่าเท่ากับ 0.94 มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อระหว่าง 0.55 ถึง 0.92 และมีความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.86 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีประสิทธิผล (E.I) และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่าซี (Z-test)

ผลการวิจัย พบว่า

1. ระยะที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและพัฒนาหรือสร้างรูปแบบ (R1,D2)

1.1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน (R1)

1) สภาพปัจจุบันครูมีการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย อยู่ในระดับปานกลาง

2) ความต้องการของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนในสังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองประจวบคัรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคึรีขันธ์ จังหวัดประจวบคึรีขันธ์ จำนวน 5 คน มีความต้องการในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

1.2 การพัฒนารูปแบบ (D2)

1) การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย ของผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งปรากฏรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย ที่ผู้วิจัย ได้พัฒนาขึ้น จำนวน 7 ขั้น ดังนี้

(1) ขั้นที่ 1 ขั้นเตรียมความพร้อมในการเรียนรู้ (Prompt Learning : P ) หมายถึง การเตรียมความพร้อมก่อนนำเข้าสู่บทเรียนหรือเรื่องที่สนใจ ซึ่งอาจเกิดขึ้นเองจากความสงสัย หรืออาจเริ่มจากความสนใจของตัวนักเรียนเองหรืออาจเกิดจากการอภิปรายภายในกลุ่ม เพื่อสร้างความพอใจ ความสนใจ และแรงจูงใจของผู้เรียนให้พร้อมที่จะเรียนรู้

(2) ขั้นที่ 2 ขั้นการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning : A) หมายถึง การจัด การเรียนรู้ตามทฤษฎี Constructivism ที่ให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ใหม่จากการมีปฏิบัติสัมพันธ์และเชื่อมโยงจากความรู้เดิมด้วยตนเองจากการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง โดยใช้กิจกรรม ได้แก่ 1) การอภิปรายในชั้นเรียน, 2) การอภิปรายกลุ่มย่อย, 3) กิจกรรม “คิด-จับคู่-แลกเปลี่ยน”, 4) เซลการเรียนรู้, 5) การฝึกเขียนข้อความสั้นๆ, 6) การโต้วาที, 7) บทบาทสมมุติ, 8) การเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์, 9) การเรียนแบบกลุ่มร่วมแรงร่วมใจ, 10) ปฏิกิริยาจากการชมวิดิทัศน์, 11) เกมในชั้นเรียน, 12) แกลเลอรี่ วอล์ค, 13) การเรียนรู้โดยการสอน และ การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน โดยเลือกใช้เพียง 1-2 กิจกรรมในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้

(3) ขั้นที่ 3 ขั้นก่อนการจัดการเรียนรู้ (Pre Learining : P) เป็นขั้นตอนก่อนการจัดการเรียนรู้ สร้างความพอใจ และแรงจูงใจของผู้เรียนให้พร้อมที่จะเรียนรู้ (ให้นักเรียนดูวิดิทัศน์ประกอบการเรียน) บอกส่วนที่เรียนรู้ด้วย ว่าหน้าไหน ตอนไหน

(4) ขั้นที่ 4 ขั้นการจัดการเรียนรู้ (Learning : L) เป็นขั้นการเรียนรู้แบบบูรณาการทักษะทั้งทางด้านความรู้ (K) ด้านทักษะกระบวนการ (P) และคุณลักษณะอันพึงสงค์ (A) ที่ผสมผสานเนื้อหา การแก้โจทย์ปัญหา และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในทุกหัวข้อและเนื้อหาการเรียนรู้ โดยมีการจัด การเรียนรู้แบบที่เน้นประสบการรณตรง (ให้นักเรียนด้วยชุดฝึกทักษะ) บอกส่วนที่เรียนรู้ด้วย ว่าหน้าไหน ตอนไหน

(5) ขั้นที่ 5 ขั้นสนุกกับการเรียนรู้ (Enjoy Learining) เป็นขั้นการร่วมเรียนรู้อย่างสนุกสนาน ผ่านกิจกรรม สื่อ เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ โดยเน้นการใช้กลวิธีการจัดการเรียนรู้แบบพาเพลิน บอกส่วนที่เรียนรู้ด้วย ว่าหน้าไหน ตอนไหน

(6) ขั้นที่ 6 ขั้นถามตอบเพื่อความเข้าใจในการเรียนรู้ (Ask Learning) เป็นขั้นการถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจจากการเรียนรู้ ให้ครูและนักเรียนตั้งคำถาม ถามตอบเรื่องที่ตัวเองอยากรู้ และสงสัย

(7) ขั้นที่ 7 ขั้นการตอบสนองการเรียนรู้ (Response Learning) เป็นขั้นการตอบสนองการเรียนรู้โดยการอภิปราย และการนำเสนอรายงานเพื่อแสดงความคิดเห็น รวมถึงการแสดงบทบาทสมมุติในสถานการณ์จำลอง หรือสถานการณ์จริง

(8) ขั้นที่ 8 ขั้นสังเกตและชี้แนะจากการเรียนรู้ (Notice Learning) เป็นขั้นการให้ข้อสังเกตหรือการชี้แนะอย่างสร้างสรรค์หลังได้รับความรู้ หลังจากนั้นจึงศึกษาผลการใช้ประบวนการจัดการเรียนรู้แบบเพลิน และสรุปผล บอกส่วนที่เรียนรู้ด้วย ว่าหน้าไหน ตอนไหน

2) การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.66/83.00 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80

3) ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย คือ ปรับปรุงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยืดหยุ่นระยะเวลาในการเรียน ให้เหมาะสมกับการจัดกิจกรรม และเพื่อให้สอดคล้องกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ครูผู้สอนต้องบริหารเวลาให้เหมาะสมกับการจัดการเรียนการสอนตามความยาวของเนื้อหา

2. ระยะที่ 2 การพัฒนา (Development : D2)

2.1 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

2.2 ดัชนีประสิทธิผลของการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7150 แสดงว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7150 หรือคิดเป็นร้อยละ 71.50

3. ระยะที่ 3 ประเมินผลรูปแบบ (Evaluation Research: R2)

นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านค่าย อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄= 4.66)

โพสต์โดย ครูสิริลภัสชญา โรงเรียนเทศบาลบ : [25 ก.พ. 2565 เวลา 12:17 น.]
อ่าน [1956] ไอพี : 183.89.63.194
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 90,561 ครั้ง
จั๋ง...ต้นไม้ฟอกอากาศ
จั๋ง...ต้นไม้ฟอกอากาศ

เปิดอ่าน 94,772 ครั้ง
100อันดับโรงเรียนดีที่สุดปี58
100อันดับโรงเรียนดีที่สุดปี58

เปิดอ่าน 815 ครั้ง
ENNXO ชวนอ่านหนังสือพัฒนาตนเอง ปี 2024 ที่ต้องอ่านสักครั้งในชีวิต
ENNXO ชวนอ่านหนังสือพัฒนาตนเอง ปี 2024 ที่ต้องอ่านสักครั้งในชีวิต

เปิดอ่าน 31,388 ครั้ง
ล้างพิษตับ ขับสารพิษ...เทรนด์สุขภาพสุดฮิต พ.ศ. นี้
ล้างพิษตับ ขับสารพิษ...เทรนด์สุขภาพสุดฮิต พ.ศ. นี้

เปิดอ่าน 12,670 ครั้ง
เทคนิคใหม่จากสิงคโปร์ทำภาพสีไม่ใช้หมึกคมชัดกว่าเลเซอร์เจ็ท
เทคนิคใหม่จากสิงคโปร์ทำภาพสีไม่ใช้หมึกคมชัดกว่าเลเซอร์เจ็ท

เปิดอ่าน 89,510 ครั้ง
แบบจำลองการสื่อสารของแชนนัน และวีเวอร์
แบบจำลองการสื่อสารของแชนนัน และวีเวอร์

เปิดอ่าน 19,921 ครั้ง
การทดลอง LHC ของเซิร์น ที่คล้องกับพุทธศาสนา
การทดลอง LHC ของเซิร์น ที่คล้องกับพุทธศาสนา

เปิดอ่าน 48,633 ครั้ง
ระบบการพัฒนาอาชีพครู
ระบบการพัฒนาอาชีพครู

เปิดอ่าน 15,269 ครั้ง
คีเลชั่น (Chelation) คืออะไร
คีเลชั่น (Chelation) คืออะไร

เปิดอ่าน 5,572 ครั้ง
รู้จัก The Big Five Domains เพื่อรู้จักวัยเรียนให้ดียิ่งขึ้น
รู้จัก The Big Five Domains เพื่อรู้จักวัยเรียนให้ดียิ่งขึ้น

เปิดอ่าน 336,457 ครั้ง
ความสำคัญของภาษาไทย
ความสำคัญของภาษาไทย

เปิดอ่าน 28,276 ครั้ง
การยอมรับนวัตกรรมและเทคโนโลยี
การยอมรับนวัตกรรมและเทคโนโลยี

เปิดอ่าน 41,076 ครั้ง
ประโยชน์ 5 ข้อของการรีไฟแนนซ์บ้าน
ประโยชน์ 5 ข้อของการรีไฟแนนซ์บ้าน

เปิดอ่าน 12,170 ครั้ง
ดิจิตอลอีสาน...ใบลานอิเลคทรอนิกส์
ดิจิตอลอีสาน...ใบลานอิเลคทรอนิกส์

เปิดอ่าน 12,158 ครั้ง
คลิปพายุถล่มรร.สตรีฯตราด กวาดทุกอย่างราบเป็นหน้ากลอง
คลิปพายุถล่มรร.สตรีฯตราด กวาดทุกอย่างราบเป็นหน้ากลอง

เปิดอ่าน 12,525 ครั้ง
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร
เปิดอ่าน 26,613 ครั้ง
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการสื่อสารข้อมูล
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการสื่อสารข้อมูล
เปิดอ่าน 9,835 ครั้ง
นโยบายการศึกษามาจากไหน-ทำไมถึงไม่สำเร็จ
นโยบายการศึกษามาจากไหน-ทำไมถึงไม่สำเร็จ
เปิดอ่าน 6,453 ครั้ง
"Alprazolam" ไม่ใช่ "ยาเสียสาว" เป็นยานอนหลับ แก้อาการกังวล ง่วงซึม แต่ถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด
"Alprazolam" ไม่ใช่ "ยาเสียสาว" เป็นยานอนหลับ แก้อาการกังวล ง่วงซึม แต่ถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด
เปิดอ่าน 34,780 ครั้ง
ซื้อรถปี 2559 ราคาแพงขึ้นเท่าไหร่ คลิกอ่าน?
ซื้อรถปี 2559 ราคาแพงขึ้นเท่าไหร่ คลิกอ่าน?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ