ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานการพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบเสริมต่อการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาความสามารถครูในการจัดประสบการณ์ส่งเสริมการเรียนรู้เด็กปฐมวัย โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา

รายงานการนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบเสริมต่อการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาความสามารถครูในการจัดประสบการณ์ส่งเสริมการเรียนรู้เด็กปฐมวัย

โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง 2) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้แบบเสริมต่อการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาความสามารถครูในการจัดประสบการณ์ส่งเสริมการเรียนรู้เด็กปฐมวัย โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง

กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ 1) ครูปฐมวัย จำนวน 8 คน ได้จากการเลือกแบบเจาะจง 2) เด็กปฐมวัย จำนวน 201 คน 3) ศึกษานิเทศก์จำนวน 2 คน 4) ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 2 คน และ 5) ครูแกนนำปฐมวัย จำนวน 3 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ได้แก่ 1) แบบทดสอบความรู้ครูปฐมวัยเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์ส่งเสริมการเรียนรู้เด็กปฐมวัย เป็นแบบทดสอบปรนัย 4 ตัวเลือก

2) แบบประเมินความสามารถในการจัดประสบการณ์ส่งเสริมการเรียนรู้เด็กปฐมวัย เป็นแบบเกณฑ์ประมาณค่า 5 ระดับคุณภาพ 3) แบบประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัย 4) แบบสอบถามความพึงพอใจครูปฐมวัยที่มีต่อรูปแบบการนิเทศแบบเสริมต่อการเรียนรู้และ 5) แบบสอบถามความคิดเห็นของศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูแกนนำปฐมวัยที่มีต่อรูปแบบการนิเทศแบบเสริมต่อการเรียนรู้ เป็นแบบเกณฑ์ประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือ ค่าร้อยละค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยใช้สถิติ t-test

ผลการวิจัย

1. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบเสริมต่อการเรียนรู้ ได้รูปแบบการนิเทศที่มีองค์ประกอบ คือ วัตถุประสงค์ โครงสร้าง หลักการ และกระบวนการนิเทศ 5 ขั้นตอน ได้แก่ขั้นรู้คุณค่าในตน (Awareness of Self-value) ขั้นกำหนด ผลเพื่อพัฒนา (Define Goals to Develop)ขั้น หาแนวร่วมวิทยาการ (Seek Fellowships of Knowledge) ขั้นปฏิบัติงานเข้มแข็ง (Work Hard) และขั้นแสดงผลร่วมภาคภูมิใจ (Be Proud of Success) ผลการตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการนิเทศ พบว่า ดัชนีความสอดคล้องรายด้านระหว่าง 0.84 – 1.00 และดัชนีความสอดคล้องรวม (TOC) = 1.00 เอกสารแนวดำเนินการนิเทศการศึกษาปฐมวัย : การนิเทศแบบเสริมต่อการเรียนรู้ ผลการประเมินด้านความเหมาะสมและประโยชน์ ของเอกสาร คะแนนเฉลี่ยรวม = 4.50 อยู่ในระดับ มากที่สุด

2. ผลการทดลองใช้และเผยแพร่รูปแบบการนิเทศแบบเสริมต่อการเรียนรู้ พบว่า 1) ผล การทดสอบความรู้ครูปฐมวัย พบว่ามีคะแนนเฉลี่ยหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 2) ความสามารถครูปฐมวัยในการจัดประสบการณ์ส่งเสริมการเรียนรู้เด็กปฐมวัย พบว่ามีคะแนนเฉลี่ยหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 3) ผลการประเมินพัฒนาการทั้ง 4 ด้านของเด็กปฐมวัย พบว่า พัฒนาการทุกด้านอยู่ในระดับ ดี สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 4) ความพึงพอใจของครูปฐมวัยที่มีต่อการนิเทศแบบเสริมต่อการเรียนรู้ พบว่า ค่าคะแนนเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับ

พึงพอใจมากที่สุดและ 5) ความคิดเห็นของศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูแกนนำปฐมวัย ที่มีต่อรูปแบบการนิเทศแบบเสริมต่อการเรียนรู้ พบว่า มีค่าคะแนนเฉลี่ยรวม อยู่ในระดับ มากทั้ง 3 กลุ่ม

โพสต์โดย โสพิส : [29 ส.ค. 2565 เวลา 09:39 น.]
อ่าน [64484] ไอพี : 1.4.159.141
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,946 ครั้ง
เปิดเว็บ"ยากับคุณ" ช่วยคนไทยห่างไกลโรค
เปิดเว็บ"ยากับคุณ" ช่วยคนไทยห่างไกลโรค

เปิดอ่าน 19,411 ครั้ง
ไก่เคยูเบตง สร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค
ไก่เคยูเบตง สร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค

เปิดอ่าน 13,704 ครั้ง
"ครู" ในศตวรรษที่ 21 จุดเปลี่ยนการศึกษาข้ามพรมแดน
"ครู" ในศตวรรษที่ 21 จุดเปลี่ยนการศึกษาข้ามพรมแดน

เปิดอ่าน 26,214 ครั้ง
มารู้จักกับอาการแพ้น้ำหอมและวิธีการดูแลรักษา
มารู้จักกับอาการแพ้น้ำหอมและวิธีการดูแลรักษา

เปิดอ่าน 9,228 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษา ?
ปฏิรูปการศึกษา ?

เปิดอ่าน 38,969 ครั้ง
10 เคล็ดลับ แค่นั่งก็ลดน้ำหนักได้
10 เคล็ดลับ แค่นั่งก็ลดน้ำหนักได้

เปิดอ่าน 31,551 ครั้ง
ข้อควรปฏิบัติ เมื่อสารเคมีหก
ข้อควรปฏิบัติ เมื่อสารเคมีหก

เปิดอ่าน 22,773 ครั้ง
เกมส์ทําอาหาร
เกมส์ทําอาหาร

เปิดอ่าน 205,639 ครั้ง
ลำดับขั้นในการวิจัย
ลำดับขั้นในการวิจัย

เปิดอ่าน 28,028 ครั้ง
ฝนช่อมะม่วง
ฝนช่อมะม่วง

เปิดอ่าน 15,769 ครั้ง
ชมคลิป น้องนะโม วัยแค่ 4 ขวบ สวดมนต์ยาวคล่องปร๋อ
ชมคลิป น้องนะโม วัยแค่ 4 ขวบ สวดมนต์ยาวคล่องปร๋อ

เปิดอ่าน 26,481 ครั้ง
นางสงกรานต์ ปี 2559 "มณฑาเทวี" ทำนายฝนตกไม่ทั่วเมือง ข้าวพัง-ของแพง
นางสงกรานต์ ปี 2559 "มณฑาเทวี" ทำนายฝนตกไม่ทั่วเมือง ข้าวพัง-ของแพง

เปิดอ่าน 17,118 ครั้ง
บันไดเลื่อนตัวแรกของไทย
บันไดเลื่อนตัวแรกของไทย

เปิดอ่าน 91,741 ครั้ง
สรุปสูตร วงกลม
สรุปสูตร วงกลม

เปิดอ่าน 21,826 ครั้ง
สักขี คำที่คุ้นหู ที่จริงคือพืชนั่นเอง
สักขี คำที่คุ้นหู ที่จริงคือพืชนั่นเอง

เปิดอ่าน 13,029 ครั้ง
ลูกขี้อาย ... ทำอย่างไรดี?
ลูกขี้อาย ... ทำอย่างไรดี?
เปิดอ่าน 17,709 ครั้ง
คลิปเณรน้อยอายุแค่ 3 ขวบ สวดมนต์ให้พรคล่องปรื๋อ (ชมคลิป)
คลิปเณรน้อยอายุแค่ 3 ขวบ สวดมนต์ให้พรคล่องปรื๋อ (ชมคลิป)
เปิดอ่าน 1,806 ครั้ง
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38
เปิดอ่าน 17,571 ครั้ง
โอกาสไม่ถึง 50-50 จะได้เห็น ขั้วโลกเหนือปลอดน้ำแข็งหุ้ม
โอกาสไม่ถึง 50-50 จะได้เห็น ขั้วโลกเหนือปลอดน้ำแข็งหุ้ม
เปิดอ่าน 15,784 ครั้ง
10 อันตรายทลายโลก จากเทคโนโลยี
10 อันตรายทลายโลก จากเทคโนโลยี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ