ครูบ้านนอก

ชื่อเรื่อง : รายงานการประเมินโครงการ การพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพ

ผู้เรียนโดยใช้กระบวนการนิเทศภายใน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส

โคโรนา 2019 โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา2564 ผู้รายงาน : นายสราวุธ ใหมรักษ์

รองผู้อำนวยการโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีที่รายงาน : ปีการศึกษา 2564

บทสรุป

รายงานการประเมินโครงการ การพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพ ผู้เรียนโดยใช้กระบวนการนิเทศภายใน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โคโรนา 2019 โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564 โดยใช้รูปแบบการประเมิน รูปแบบซิปป์ (CIPP Model) ของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam) เป็นกรอบแนวคิดในการประเมินโดยประเมิน 4 ด้าน มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินด้านบริบทของโครงการ ด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการ ด้านกระบวนการของโครงการ และด้านผลผลิตของโครงการ ประกอบด้วย 1) ประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนของครู 2) คุณภาพผู้เรียน โดยใช้กระบวนการนิเทศภายใน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โคโรนา 2019 ปีการศึกษา 2564 ในการประเมินครั้งนี้ศึกษากลุ่มตัวอย่าง ผู้บริหารและครูจำนวน 84 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 335 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวน 12 คน โดยยกเว้นผู้บริหาร และ ตัวแทนครู และ ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 306 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินมีจำนวน 4 ฉบับ มี 2 ลักษณะได้แก่ แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ พร้อมคำถามปลายเปิด (Open-Ended Questionair)เพื่อทราบข้อเสนอแนะ ได้แก่ ฉบับที่ 1 แบบสอบถามด้านบริบท ฉบับที่ 2 แบบสอบถามด้านปัจจัยนำเข้า ฉบับที่ 3 แบบสอบถามด้านกระบวนการดำเนินงาน ฉบับที่ 4 แบบสอบถามด้านผลผลิตเกี่ยวกับประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนของครูและคุณภาพผู้เรียน ทุกฉบับมีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือได้ค่า ความเชื่อมั่นระหว่าง .94 - .96 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)

ผลการประเมินสรุปได้ดังนี้

การประเมินโครงการ การพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพ ผู้เรียนโดยใช้กระบวนการนิเทศภายใน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โคโรนา 2019 โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564 สรุปผลตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ดังนี้

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านบริบทของโครงการ การพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพ ผู้เรียนโดยใช้กระบวนการนิเทศภายใน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โคโรนา 2019 โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของ ของผู้บริหารและครูตามประเด็นตัวชี้วัด และเกณฑ์การประเมิน พบว่า ผลการประเมิน ด้านบริบทของโครงการ การพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียนโดยใช้กระบวนการนิเทศภายใน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โคโรนา 2019 โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564 โดยภาพรวมพบว่าความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่ามีค่าเฉลี่ยสูงเท่ากัน 2 ด้านได้แก่ ด้านความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ของโครงการ และความต้องการจำเป็นในการดำเนินโครงการ รองลงมาคือ ความสอดคล้องในการดำเนินโครงการ ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือความเป็นไปได้ของโครงการ

2.ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการ การพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพ ผู้เรียนโดยใช้กระบวนการนิเทศภายใน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โคโรนา 2019 โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็น ของผู้บริหารและครูตามประเด็นตัวชี้วัด และเกณฑ์การประเมิน พบว่า ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการ การพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียนโดยใช้กระบวนการนิเทศภายใน ในสถานการณ์การแพร่ระบระบาดของไวรัส โคโรนา 2019 โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564 โดยภาพรวมอยู่ใน ระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ ด้านความพร้อมด้านบุคลากร รองลงมาคือ ความพร้อมด้านผู้สนับสนุนโครงการ รองลงมาคือ ความเหมาะสมด้านบริหารจัดการ ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ความพร้อมด้านงบประมาณและวัสดุ อุปกรณ์

3. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านกระบวนการของโครงการ การพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพ ผู้เรียนโดยใช้กระบวนการนิเทศภายใน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โคโรนา 2019 โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็น ของผู้บริหารและครูตามประเด็นตัวชี้วัด และเกณฑ์การประเมิน พบว่า ผลการประเมินด้านกระบวนการของโครงการ การพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพ ผู้เรียนโดยใช้กระบวนการนิเทศภายใน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โคโรนา 2019 โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564 โดยภาพรวมอยู่ใน ระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ การให้ความรู้และสร้างความเข้าใจ รองลงมาคือ การประเมินการนิเทศ รองลงมาคือ การปฏิบัติการนิเทศ ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ การวางแผนการนิเทศ

4. ผลการประเมินด้านผลผลิต ของโครงการ การพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพ ผู้เรียนโดยใช้กระบวนการนิเทศภายใน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โคโรนา 2019 โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็น ของผู้บริหารและครู ผู้ปกครองนักเรียน นักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษา ตามประเด็นตัวชี้วัด และเกณฑ์การประเมิน พบว่าทั้งสี่กลุ่มมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มพบว่า ผู้บริหารและครู มีความคิดเห็นโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ผู้ปกครองนักเรียน มีความคิดเห็นโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด นักเรียน มีความคิดเห็นโดยรวมอยู่ในระดับมาก และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความคิดเห็นโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มผู้บริหารและครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ใน ระดับมากที่สุด รองลงมาคือ กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษา อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ กลุ่มผู้ปกครองนักเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนกลุ่มที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ กลุ่มนักเรียน อยู่ในระดับมาก

ข้อเสนอแนะ

1. ข้อเสนอแนะสำหรับการนำผลการประเมินไปใช้

1.1 การดำเนินโครงการ การพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียน

โดยใช้กระบวนการนิเทศภายใน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โคโรนา 2019 โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564 เป็นโครงการที่เป็นภารกิจหลักในการจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะต้องเกี่ยวข้องกับบุคลากรทุกคนในสถานศึกษา ดังนั้นผู้บริหารจะต้องให้ความสำคัญ ในการวางแผนกำหนดทีมงานที่รับผิดชอบ การวางแผนการปฏิบัติงาน การประเมิน และนำผลการประเมินมาพัฒนาปรับปรุง

1.2 ผู้บริหารสถานศึกษาและคณะกรรมการนิเทศภายใน จะต้องชี้แจงเกี่ยวกับ

โครงการให้กับบุคลากรทุกคน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ทราบและเห็นความสำคัญของโครงการ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน และปฏิบัติตามแผนงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1.3 ควรเน้นให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมและการประสานงานที่ดี ในการทำงานร่วมกันเพื่อ

ให้ผลจากการดำเนินงานโครงการบรรลุวัตถุประสงค์ เป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

2. ข้อเสนอแนะสำหรับการประเมินครั้งต่อไป

2.1 ควรทำรายงานและติดตามผลการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพการบริหาร

จัดการโรงเรียน ตามโครงการการพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียนโดยใช้กระบวนการนิเทศภายใน

2.2 ควรทำการวิจัยเพื่อศึกษาเกี่ยวกับการประเมินโครงการอื่น ๆ เพื่อให้บรรลุ

วัตถุประสงค์และเกิดประสิทธิภาพในการดำเนินโครงการมากยิ่งขึ้น

เว็บน่าสนใจ