ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขาและเทคนิค แผนผังกราฟฟิค เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิด

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขาและเทคนิค แผนผังกราฟฟิค เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระ การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย นางสาวนิภาวรรณ ขวัญเมือง ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนเทศบาลเทศบาล ๑ วัดละไม เทศบาลนครเกาะสมุย

ปีการศึกษา 2564 - 2565

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาการเรียนการสอน สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) ศึกษาผลการพัฒนารูปแบบ การจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ร่วมกับการจัด การเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขาและเทคนิคแผนผังกราฟฟิค เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการ คิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขาและเทคนิคแผนผังกราฟฟิค เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อ การจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขาและเทคนิคแผนผังกราฟฟิค เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/ 2 โรงเรียนเทศบาล ๑ วัดละไม เทศบาลนครเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 1 ห้องเรียน นักเรียนจำนวน 3 2 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการ สุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 3 ประเภท 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขาและเทคนิคแผนผังกราฟฟิค เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการวิจัย ได้แก่ แบบบันทึกผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบสังเกตพฤติกรรมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้ 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผลการวิจัย ได้แก่ แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัย จำนวน 30 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสรุปโดยใช้การบรรยาย เชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า

1) จากสภาพปัญหาของผู้เรียนที่พบในการเรียนของรายวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคม ศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระเศรษฐศาสตร์ พบว่า ผู้เรียนไม่ค่อยเข้าใจในเนื้อหาวิชาสาระเศรษฐศาสตร์ เนื่องจากเนื้อหาวิชาสาระเศรษฐศาสตร์นั้นค่อนข้างยากเพราะเป็นเรื่องของกฎเกณฑ์ แนวคิด ทฤษฎี ทำให้จับประเด็นสำคัญไม่ค่อยได้ อีกทั้งยังไม่สามารถเขียนอธิบายความสัมพันธ์ ระหว่างข้อมูลหรือข้อเท็จจริงหรือปรากฏการณ์ให้มีความสัมพันธ์กับแนวคิด ทฤษฎี แล้วสรุปผลจากเหตุหรือข้อสมมติได้อย่างสมเหตุสมผล ถึงแม้จะเรียนผ่านวิชานี้มาแล้วก็ตามแต่ก็ยังมีความสับสน ขาดความแน่ใจและไม่สามารถนำความรู้ที่ได้มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ ปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของนักเรียน นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้สอนยังใช้รูปแบบการสอนแบบเดิม และยังไม่สอดคล้องกับแผนการจัดการเรียนรู้และความต้องการของผู้เรียนในปัจจุบัน จึงสะท้อนให้เห็นว่าครูควรได้รับการพัฒนารูปแบบการจัด การเรียนรู้ที่แปลกใหม่ในการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 อีกทั้งการศึกษาเกี่ยวกับรูปแบบและวิธีสอนที่แปลกใหม่จะช่วยให้ครูได้รับการพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรม เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนและพัฒนาผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนให้ดีขึ้น

2) ผลการพัฒนารูปแบบการสอน พบว่า การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขาและเทคนิคแผนผังกราฟฟิค เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย การจัดการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขา ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นที่ 2 ขั้นการจัดกิจกรรม (ขั้นศีล ขั้นสมาธิ ขั้นปัญญา) และขั้นที่ 3 ขั้นสรุป ด้วยการใช้เทคนิคแผนผังกราฟฟิกมีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.62)

3) ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่จัดการเรียนรู้ ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขาและเทคนิคแผนผังกราฟฟิค เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 นักเรียนมีคะแนนทักษะการคิดวิเคราะห์ในระดับดีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 82.86 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ร้อยละ 70.00 และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่จัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขาและเทคนิคแผนผังกราฟฟิค เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 คิดเป็นร้อยละ 73.24 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ร้อยละ 70.00

4) ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการเรียนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขาและเทคนิคแผนผังกราฟฟิค เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในภาพรวม อยู่ในระดับดี

โพสต์โดย นิ : [29 ส.ค. 2566 เวลา 10:42 น.]
อ่าน [3102] ไอพี : 182.52.201.44
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 22,642 ครั้ง
สรรพากร เผย รายการลดหย่อนภาษี ปี 2559 "ชุดใหญ่ ไฟกระพริบ"
สรรพากร เผย รายการลดหย่อนภาษี ปี 2559 "ชุดใหญ่ ไฟกระพริบ"

เปิดอ่าน 18,286 ครั้ง
VPN คืออะไร
VPN คืออะไร

เปิดอ่าน 12,264 ครั้ง
บั้งไฟพญานาค
บั้งไฟพญานาค

เปิดอ่าน 11,046 ครั้ง
วิธีป้องกันไม่ให้เป็นร้อนใน
วิธีป้องกันไม่ให้เป็นร้อนใน

เปิดอ่าน 7,178 ครั้ง
เอกสาร ก้าวแรกการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน Project Based Learnning PBL
เอกสาร ก้าวแรกการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน Project Based Learnning PBL

เปิดอ่าน 92,996 ครั้ง
การปกครองสมัยรัตนโกสินทร์
การปกครองสมัยรัตนโกสินทร์

เปิดอ่าน 201 ครั้ง
5 เหตุผลควรใช้บริการรับติดตั้งวอลเปเปอร์แทนการติดเอง
5 เหตุผลควรใช้บริการรับติดตั้งวอลเปเปอร์แทนการติดเอง

เปิดอ่าน 8,521 ครั้ง
เตรียมตัวก่อนพบหมอ
เตรียมตัวก่อนพบหมอ

เปิดอ่าน 23,359 ครั้ง
ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก
ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก

เปิดอ่าน 12,817 ครั้ง
โครงการพัฒนาภาษาอังกฤษครูอาชีวะทั่วประเทศ
โครงการพัฒนาภาษาอังกฤษครูอาชีวะทั่วประเทศ

เปิดอ่าน 62,631 ครั้ง
ชนิดของสมุนไพรป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช
ชนิดของสมุนไพรป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช

เปิดอ่าน 17,492 ครั้ง
ดูหรือยัง คลิป ณเดชน์ vs เจมส์จิรายุ ใหญ่ฟัดเล็ก มหากาพย์สงครามหล่อ 3 ตอนเต็มที่นี่
ดูหรือยัง คลิป ณเดชน์ vs เจมส์จิรายุ ใหญ่ฟัดเล็ก มหากาพย์สงครามหล่อ 3 ตอนเต็มที่นี่

เปิดอ่าน 12,553 ครั้ง
6 เคล็ดลับเก็บเงินปี 2009
6 เคล็ดลับเก็บเงินปี 2009

เปิดอ่าน 17,816 ครั้ง
กินช็อกโกแลต ดื่มชาและเหล้าไวน์ ช่วยบำรุงสติปัญญาได้
กินช็อกโกแลต ดื่มชาและเหล้าไวน์ ช่วยบำรุงสติปัญญาได้

เปิดอ่าน 11,121 ครั้ง
"เผยแผ่" กับ "เผยแพร่"
"เผยแผ่" กับ "เผยแพร่"

เปิดอ่าน 29,305 ครั้ง
9 อาการป่วยเพราะน้ำ(ในตัว) ขึ้น-ลง
9 อาการป่วยเพราะน้ำ(ในตัว) ขึ้น-ลง
เปิดอ่าน 1,478 ครั้ง
ที่พักภูเก็ต รวมตัวเลือกหลากหลายพร้อมทริกจองที่พักสุดคุ้ม
ที่พักภูเก็ต รวมตัวเลือกหลากหลายพร้อมทริกจองที่พักสุดคุ้ม
เปิดอ่าน 9,724 ครั้ง
ชะตากรรมผู้ให้กำเนิด"บล็อก"
ชะตากรรมผู้ให้กำเนิด"บล็อก"
เปิดอ่าน 20,236 ครั้ง
ประตูบ้านให้ลาภ
ประตูบ้านให้ลาภ
เปิดอ่าน 9,811 ครั้ง
นี่ล่ะ..สังคมแรกของหนู
นี่ล่ะ..สังคมแรกของหนู

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ