ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการอ่านเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียน อบจ.บ้านตลาดเหนือ (วันครู 2502) โดยประยุกต์ใช้แนวคิด CI

ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการอ่านเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียน อบจ.บ้านตลาดเหนือ (วันครู 2502) โดยประยุกต์ใช้แนวคิด CIRC ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด (Think Pair Share)

ผู้รายงาน : นางนิรมล ตันตินิติธรรม

ปีที่รายงาน : พ.ศ. 2566

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการอ่านเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 2) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการอ่านเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ทดลองใช้รูปแบบเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 24 คน โรงเรียน อบจ.บ้านตลาดเหนือ (วันครู 2502) อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการอ่านเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แบบประเมินการอ่านเพื่อความเข้าใจ แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและแบบวัดความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ t–test (Dependent)

ผลการวิจัยพบว่า

1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการอ่านเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีพัฒนาการด้านการอ่านประกอบด้วย 4 ขั้นตอนคือขั้นเตรียม (Warm up) ขั้นสอน (Teacher Presentation) ขั้นกิจกรรมกลุ่ม (Team Practice) ขั้นประเมินผล (Testing) บูรณาการกับเทคนิค Think Pair Share เป็นการเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด ประกอบด้วยขั้นตอนคือ ขั้นคิด (Think) ขั้นจับคู่ (Pair) และขั้นแบ่งปัน (Share) ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบมีค่าเฉลี่ย 4.53 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.50 ซึ่งมีความเหมาะสมระดับมากที่สุด

2. ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการอ่านเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า การอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการอ่านเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย นิรมล ตันตินิติธรรม : [10 ก.พ. 2567 (16:36 น.)]
อ่าน [61487] ไอพี : 1.47.20.66
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,124 ครั้ง
คู่มือกระตุ้นจินตนาการครูและผู้ปกครองโหลดฟรี
คู่มือกระตุ้นจินตนาการครูและผู้ปกครองโหลดฟรี

เปิดอ่าน 323,984 ครั้ง
5 วิธีเช็กเบอร์โทรศัพท์ว่าเป็นของใคร รู้ไว้ป้องกันมิจฉาชีพหลอกลวง
5 วิธีเช็กเบอร์โทรศัพท์ว่าเป็นของใคร รู้ไว้ป้องกันมิจฉาชีพหลอกลวง

เปิดอ่าน 6,331 ครั้ง
รวม 4 เทคนิค ออนไลน์-ออนไซต์ จากคลาสแอคทีฟเลิร์นนิ่ง กระตุ้นสัมพันธ์ "นักเรียน – ครู" แบบไม่น่าเบื่อ
รวม 4 เทคนิค ออนไลน์-ออนไซต์ จากคลาสแอคทีฟเลิร์นนิ่ง กระตุ้นสัมพันธ์ "นักเรียน – ครู" แบบไม่น่าเบื่อ

เปิดอ่าน 28,423 ครั้ง
เทคนิคภาษาอังกฤษ
เทคนิคภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 22,370 ครั้ง
การวัดความเร็วและทิศทางของลม
การวัดความเร็วและทิศทางของลม

เปิดอ่าน 1,278 ครั้ง
เทคนิคการเลือกใช้บริการซ่อมหลังคาโรงงาน
เทคนิคการเลือกใช้บริการซ่อมหลังคาโรงงาน

เปิดอ่าน 13,442 ครั้ง
สี่ข้อควรระวังเพื่อการใช้ smartphone ที่ปลอดภัยกว่า
สี่ข้อควรระวังเพื่อการใช้ smartphone ที่ปลอดภัยกว่า

เปิดอ่าน 19,407 ครั้ง
ไก่เคยูเบตง สร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค
ไก่เคยูเบตง สร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค

เปิดอ่าน 8,618 ครั้ง
เชื้อไวรัสโรคหวัดมีอยู่ทั่วไปแค่เอื้อม ให้หมั่นล้าง มือกันไม่ให้เป็นสะพาน
เชื้อไวรัสโรคหวัดมีอยู่ทั่วไปแค่เอื้อม ให้หมั่นล้าง มือกันไม่ให้เป็นสะพาน

เปิดอ่าน 18,495 ครั้ง
นักวิจัยไทย พบแมลงใหม่ 3 ชนิด "สมเด็จพระเทพฯ" พระราชทานนาม
นักวิจัยไทย พบแมลงใหม่ 3 ชนิด "สมเด็จพระเทพฯ" พระราชทานนาม

เปิดอ่าน 16,620 ครั้ง
คลิปรายการ เจาะข่าวเด่น 6 มี.ค.2556 ตอน "ทุจริตสอบครูผู้่ช่วย"
คลิปรายการ เจาะข่าวเด่น 6 มี.ค.2556 ตอน "ทุจริตสอบครูผู้่ช่วย"

เปิดอ่าน 16,282 ครั้ง
การได้สารพิษ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 8
การได้สารพิษ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 8

เปิดอ่าน 17,757 ครั้ง
ทานหมูยอให้ปลอดภัย จากสารกันบูด
ทานหมูยอให้ปลอดภัย จากสารกันบูด

เปิดอ่าน 14,550 ครั้ง
คนแห่ขอยา "เบญจอำมฤตย์" รักษามะเร็งฟรี ยอดพุ่ง 30 เท่าต่อวัน
คนแห่ขอยา "เบญจอำมฤตย์" รักษามะเร็งฟรี ยอดพุ่ง 30 เท่าต่อวัน

เปิดอ่าน 75,214 ครั้ง
เฉลยที่มาคำถาม ... "อยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน .. วันนี้จะได้เป็นวันศุกร์"
เฉลยที่มาคำถาม ... "อยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน .. วันนี้จะได้เป็นวันศุกร์"

เปิดอ่าน 11,546 ครั้ง
4 วิธี สร้างสมาธิแบบไม่น่าเชื่อ
4 วิธี สร้างสมาธิแบบไม่น่าเชื่อ
เปิดอ่าน 1,378 ครั้ง
จองตั๋วเครื่องบินไปโอซาก้า ที่ไหนราคาดี  พร้อมที่เที่ยวแบบจัดเต็ม
จองตั๋วเครื่องบินไปโอซาก้า ที่ไหนราคาดี พร้อมที่เที่ยวแบบจัดเต็ม
เปิดอ่าน 14,496 ครั้ง
แนะเด็กกินผักสด สู้หวัดหน้าหนาว
แนะเด็กกินผักสด สู้หวัดหน้าหนาว
เปิดอ่าน 24,302 ครั้ง
เราสอบไปเพื่ออะไร?
เราสอบไปเพื่ออะไร?
เปิดอ่าน 11,140 ครั้ง
ริ้วรอยบนใบหน้าแก้ได้ หมอแนะควรศึกษาก่อนทำ
ริ้วรอยบนใบหน้าแก้ได้ หมอแนะควรศึกษาก่อนทำ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ