|
Advertisement
|
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตุประสงค์เพื่อ 1)เพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ร่วมกับเทคนิคการประเมินเพื่อพัฒนา 2)เพื่อเปรียบเทียบทักษะการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนและหลังเรียน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ร่วมกับเทคนิคการประเมินเพื่อพัฒนา กลุ่มเป้าหมายของการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนพะตงระธานคีรีวัฒน์ จำนวน 35 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยปรกอบด้วย 1)แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับเทคนิคการประเมินเพื่อพัฒนา จำนวน 4 แผน 2)แบบวัดทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่องสมการกำลังสองตัวแปรเดียว โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับเทคนิคการประเมินเพื่อพัฒนา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 10 ข้อ และ ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลจากคะแนนการทำแบบทดสอบวัดทักษะทางคณิตศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test Dependent
ผลการวิจัยพบว่า 1)ผลการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ร่วมกับเทคนิคการประเมินเพื่อพัฒนา พบว่า คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งนักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ คะแนนหลังเรียนเท่ากับ 7.80 คะแนน ก่อนเรียนเท่ากับ 2.49 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละของคะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์ คือ ร้อยละ 71.12 และคะแนนส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ก่อนเรียนเท่ากับ 0.95 คะแนน และหลังเรียนเท่ากับ 0.80 หรือคืดเป็นร้อยละของคะแนนความสัมพัทธ์ คือ ร้อยละ 10.38 2)ผลการเปรียบเทียบทักษะการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนและหลังเรียน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ร่วมกับเทคนิคการประเมินเพื่อพัฒนา โดยมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ร่วมกับเทคนิคการประเมินเพื่อพัฒนา 2)ผลการเปรียบเทียบทักษะการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนและหลังเรียน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ร่วมกับเทคนิคการประเมินเพื่อพัฒนา โดยมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
|
โพสต์โดย หนูนา : [3 ต.ค. 2567 (20:48 น.)] อ่าน [59521] ไอพี : 182.232.208.16
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
| |
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
| |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 11,436 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 37,242 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 21,994 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 165,562 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,954 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,567 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 4,837 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,450 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 26,356 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 53,763 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 83,883 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,680 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 22,954 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 28,305 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 31,665 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 42,096 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,973 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 2,775 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 5,421 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 54,596 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|