Advertisement
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ชี้หน้าหนาวปีนี้ จะหนาวกว่าทุกปี พร้อมประสานผู้ว่าฯ เตรียมความพร้อมรับมือ พร้อมเปิดสายด่วนนิรภัย 1784 ให้ความช่วยเหลือ24 ชั่วโมง
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. กล่าวว่า จากที่ได้ติดตามสภาพภูมิอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยาพบว่าฤดูหนาวปีนี้จะมีสภาพอากาศหนาวที่สุดในรอบ 30 ปี โดยอุณหภูมิมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ โดยเฉพาะในพื้นที่ 11 จังหวัด ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีสภาพอากาศหนาวจัด ได้แก่ จ. แม่ฮ่องสอน ,ตาก เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน เลย อุดรธานี หนองคาย สกลนคร และ จ.นครพนม
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ในการรับมือและบรรเทาความเดือดร้อน ของผู้ประสบภัยหนาวในฤดูหนาวนี้ ปภ. จึงได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาคเครื่องกันหนาว ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และประสานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมความพร้อมรับมือสภาพอากาศหนาว พร้อมติดตามรายงานการพยากรณ์อากาศ สำรวจและการจัดทำบัญชีจำนวนผู้ประสบภัยหนาว และกำหนดแนวทางการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว และครอบคลุมทุกพื้นที่ พร้อมเปิดสายด่วนนิรภัย 1784 ให้ความช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
ด้าน กรมอุตุนิยมวิทยาคาดปีนี้หนาวทุบสถิติปีที่แล้วจากอิทธิพลปรากฎการณ์ ลานีญา "เชียงราย-เลย" อุณหภูมิต่ำสุด 6-8องศา ขณะที่ "กรุงเทพฯ" ต่ำสุดที่ 16 องศา
กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศการคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย ตั้งแต่กลางเดือน ต.ค. 2553 ถึงกลางเดือน ก.พ. 2554 โดยคาดว่าฤดูหนาวในปีนี้จะมีอากาศเย็นกว่าปีที่แล้ว และอุณหภูมิจะต่ำกว่าค่าปกติหรือค่าเฉลี่ยในรอบ 30 ปีเล็กน้อย
ทั้งนี้ในช่วงต้นฤดูระหว่างเดือนต.ค.-พ.ย. ประเทศไทยตอนบนจะยังคงมีฝนตกชุกในบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้จะมีอากาศเย็นในบางวัน ส่วนมากตอนบนของภาค และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในช่วงกลางเดือนต.ค.-ธ.ค.โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป
สำหรับการคาดหมายอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยในเดือนธ.ค. 2553 มีดังนี้
พื้นที่ภาคเหนือ อาทิ จ.เชียงราย จะมีอุณหภูมิ 6-8 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 11.1 องศา จ.เชียงใหม่ จะมีอุณหภูมิ 7-9 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 13.2 องศา และ จ.พิษณุโลก จะมีอุณหภูมิ 11-13 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 17.3 องศา ซึ่งการคาดหมายไม่รวมอุณหภูมิต่ำสุดบริเวณยอดดอยและยอดภู
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น จ.อุดรธานี จะมีอุณหภูมิ 7-9 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 14.3 องศา จ.เลย จะมีอุณหภูมิ 6-8 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 13.6 องศา จ.อุบลราชธานี จะมีอุณหภูมิ 12-14 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 15.3 องศา และ จ.นครราชสีมา จะมีอุณหภูมิ 12-14 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 17.3 องศา
ภาคกลาง เช่น จ.นครสวรรค์ จะมีอุณหภูมิ 13-15 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 16.8 องศา จ.สุพรรณบุรี จะมีอุณหภูมิ 14-16 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 18.0 องศา และ จ.กาญจนบุรี จะมีอุณหภูมิ 13-15 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 15.6 องศา
ภาคตะวันออก เช่น จ.สระแก้ว จะมีอุณหภูมิ 14-16 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 18.9 องศา และ จ.ชลบุรี จะมีอุณหภูมิ 16-18 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 21.3 องศา
ภาคใต้ เช่น จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะมีอุณหภูมิ 17-19 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 20.5 องศา และ จ.ภูเก็ต จะมีอุณหภูมิ 20-22 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 23.0 องศา
ส่วน กรุงเทพมหานคร จะมีอุณหภูมิต่ำสุดที่ 16-18 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 20.0 องศา
ขอบคุณเนื้อหาจาก http://news.sanook.com/
Advertisement
เปิดอ่าน 14,917 ครั้ง เปิดอ่าน 25,406 ครั้ง เปิดอ่าน 28,253 ครั้ง เปิดอ่าน 15,664 ครั้ง เปิดอ่าน 15,065 ครั้ง เปิดอ่าน 17,654 ครั้ง เปิดอ่าน 9,933 ครั้ง เปิดอ่าน 4,348 ครั้ง เปิดอ่าน 12,050 ครั้ง เปิดอ่าน 90,072 ครั้ง เปิดอ่าน 1,341 ครั้ง เปิดอ่าน 10,509 ครั้ง เปิดอ่าน 17,898 ครั้ง เปิดอ่าน 37,947 ครั้ง เปิดอ่าน 4,573 ครั้ง เปิดอ่าน 14,328 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 14,235 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 1,307 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 22,328 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 14,477 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 11,180 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 11,414 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 51,887 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 58,879 ครั้ง |
เปิดอ่าน 14,374 ครั้ง |
เปิดอ่าน 8,404 ครั้ง |
เปิดอ่าน 18,779 ครั้ง |
เปิดอ่าน 8,854 ครั้ง |
|
|