ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน ด้วยการเรียนแบบ ร่วมมือ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้รายวิชา การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (IS1) ของนักเรียนชั้น

บทคัดย่อ

ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน ด้วยการเรียนแบบ

ร่วมมือ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้รายวิชา การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (IS1) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อหาประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรียนรู้การจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน ด้วยการเรียนแบบร่วมมือ รายวิชา การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (IS1) 2. เพื่อเปรียบเทียบศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน ด้วยการเรียนแบบร่วมมือ รายวิชา การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (IS1) ก่อนเรียนกับหลังเรียน 3. เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนของการจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน ด้วยการเรียนแบบร่วมมือ รายวิชา การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (IS1)ได้กำหนดขอบเขตของการวิจัยตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย ดังนี้ ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย กระบี่ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 177 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/5 จำนวน 30 คน โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย กระบี่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ตรัง กระบี่ ปีการศึกษา 2563 ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) พบว่า จุดประสงค์ข้อที่ 1 การหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนจากการจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน ด้วยการเรียนแบบร่วมมือ รายวิชา การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (IS1) ของนักเรียน 30 คน เก่ง ปานกลาง อ่อน มีประสิทธิภาพ E1/ E2 เป็น 80.79/80.33 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 สามารถนำไปใช้กับกลุ่มทดลองได้ จุดประสงค์ข้อที่ 2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน ด้วยการเรียนแบบร่วมมือ รายวิชา การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (IS1) ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียน มีค่าเท่ากับ 17.97 คะแนน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานมีค่าเท่ากับ 1.69 และก่อนเรียน มีค่าเท่ากับ 15.00 คะแนน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานมีค่าเท่ากับ 1.14 และมีค่าสถิติทางการทดสอบ t เท่ากับ 10.54 มีระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จุดประสงค์ข้อที่ 3 ความพึงพอใจ ระดับมากที่สุดดังนั้นจะกล่าวได้ว่าวิจัยครั้งนี้ นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน ด้วยการเรียนแบบร่วมมือ รายวิชา การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (IS1) มีความพึงพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.68 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.36 ได้การเรียนรู้การจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน ด้วยการเรียนแบบร่วมมือ รายวิชา การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (IS1)

โพสต์โดย นางสาวรติกาล กลับคง : [17 ธ.ค. 2567 (19:23 น.)]
อ่าน [97472] ไอพี : 180.180.226.197
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 30,315 ครั้ง
ความต่างของ วิวัฒนาการ vs พัฒนาการ ว่ามันต่างกันยังไง !!
ความต่างของ วิวัฒนาการ vs พัฒนาการ ว่ามันต่างกันยังไง !!

เปิดอ่าน 20,809 ครั้ง
จดหมายลูกโซ่ มีความเป็นมาอย่างไร
จดหมายลูกโซ่ มีความเป็นมาอย่างไร

เปิดอ่าน 5,541 ครั้ง
ประวัติ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ประวัติ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

เปิดอ่าน 19,039 ครั้ง
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการปฏิรูปการเรียนการสอน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการปฏิรูปการเรียนการสอน

เปิดอ่าน 19,483 ครั้ง
WebOS เว็บโอเอส เว็บโอเอส อะไรๆ ก็ เว็บโอเอส
WebOS เว็บโอเอส เว็บโอเอส อะไรๆ ก็ เว็บโอเอส

เปิดอ่าน 16,269 ครั้ง
29 ก.ค. วันภาษาไทยแห่งชาติ
29 ก.ค. วันภาษาไทยแห่งชาติ

เปิดอ่าน 46,107 ครั้ง
คณิตาสตร์กับปรากฏการณ์ธรรมชาติ
คณิตาสตร์กับปรากฏการณ์ธรรมชาติ

เปิดอ่าน 43,471 ครั้ง
ลักษณะสำคัญของการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน
ลักษณะสำคัญของการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน

เปิดอ่าน 148,624 ครั้ง
พยางค์ และ คำ
พยางค์ และ คำ

เปิดอ่าน 241,459 ครั้ง
ตอบข้อข้องใจ...เงิน ช.พ.ค. ที่ผู้ตายจะได้รับ
ตอบข้อข้องใจ...เงิน ช.พ.ค. ที่ผู้ตายจะได้รับ

เปิดอ่าน 30,288 ครั้ง
ดนตรีบำบัด
ดนตรีบำบัด

เปิดอ่าน 2,783 ครั้ง
อนุญาต หรือ อนุญาติ
อนุญาต หรือ อนุญาติ

เปิดอ่าน 20,483 ครั้ง
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา

เปิดอ่าน 7,992 ครั้ง
เช็คด่วน! 13 แอปฯ อันตราย "ดูดเงิน-สอดแนม" มีอะไรบ้าง ลบทิ้งทันที
เช็คด่วน! 13 แอปฯ อันตราย "ดูดเงิน-สอดแนม" มีอะไรบ้าง ลบทิ้งทันที

เปิดอ่าน 16,208 ครั้ง
สำนักงาน ก.ค.ศ.เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฏหมาย วินัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
สำนักงาน ก.ค.ศ.เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฏหมาย วินัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

เปิดอ่าน 5,404 ครั้ง
พกมือถือในกระเป๋ากางเกง หันหน้าเข้าหรือหันหน้าออกดี?
พกมือถือในกระเป๋ากางเกง หันหน้าเข้าหรือหันหน้าออกดี?
เปิดอ่าน 15,111 ครั้ง
น่ารักสุดๆ วงโยธวาทิตมหาวิทยาลัยโอไฮโอเล่นกังนัมสไตล์
น่ารักสุดๆ วงโยธวาทิตมหาวิทยาลัยโอไฮโอเล่นกังนัมสไตล์
เปิดอ่าน 83,135 ครั้ง
ทฤษฎีการเรียนรู้
ทฤษฎีการเรียนรู้
เปิดอ่าน 33,332 ครั้ง
ทำไมคนเราต้องกระพริบตา
ทำไมคนเราต้องกระพริบตา
เปิดอ่าน 28,326 ครั้ง
เรื่องของเหรียญบาท
เรื่องของเหรียญบาท

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ