ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การเรียนรู้นาฏศิลป์ไทยเพื่อพัฒนาทักษะภายในสู่ภายนอก โดยใช้เทคนิคการสอนบูรณาการทักษะชีวิต (RCA) เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21

การเรียนรู้นาฏศิลป์ไทยเพื่อพัฒนาทักษะภายในสู่ภายนอก โดยใช้เทคนิคการสอนบูรณาการทักษะชีวิต (RCA) เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21

เจ้าของผลงาน นางสาวตวรรณ เทียนชัย

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ

โรงเรียน ซับใหญ่วิทยาคม

สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3

แนวคิด

การเรียนนาฏศิลป์ไทยเพื่อให้การเกิดทักษะชีวิตภายในที่ดีดังที่กล่าวข้างต้นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจากกระบวนการเรียนรู้ที่ใช้เทคนิคการสอนบูรณาการทักษะชีวิต ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมที่กำหนดให้ผู้เรียนได้ฝึกการคิดหาเหตุผล และอภิปรายได้แสดงความรู้สึกนึกคิดและประยุกต์ใช้ความคิดอย่างมีประสิทธิภาพโดยครูเป็นผู้ตั้งประเด็นคำถามให้ผู้เรียนได้สะท้อนความคิด(Reflect) เชื่อมโยงความคิดและความรู้(Connect) และสู่การปรับใช้อย่างเหมาะสม (Apply) ซึ่งเรียกคำถามดังกล่าวโดยย่อว่า คำถาม R - C – A

- R = สะท้อนความคิด (Reflect)

- C = เชื่อมโยงความคิดและความรู้ (Connect)

- A = การปรับใช้อย่างเหมาะสม (Apply)

การใช้คำถาม R - C - A เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตหลังสิ้นสุดการจัดการเรียนรู้หรือการเรียนการสอนตามปกติอย่างต่อเนื่อง เป็นการฝึกฝนให้ผู้เรียนได้คิดวิเคราะห์ คิดไตร่ตรอง และคิดหาเหตุผลทำให้ตนเองฉุกใจคิด รู้คิด รู้จักแก้ปัญหาด้วยวิธีการต่าง ๆ ในสถานการณ์ที่หลากหลาย และสั่งสมไว้เป็นประสบการณ์ที่ดี ซึมซับเข้าสู่จิตใจอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ผู้เรียนก็จะแสดงออกเป็นพฤติกรรม ที่ดีงาม เป็นความรู้และความตระหนักที่ยั่งยืน

ข้าพเจ้าเป็นครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระนาฏศิลป์ไทยตระหนักเห็นถึงความสำคัญของทักษะชีวิต

และประโยชน์ของการเรียนนาฏศิลป์ไทย จึงคิดค้นรูปแบบการสอน “เรียนรู้นาฏศิลป์ไทยเพื่อพัฒนาทักษะภายในสู่

ภายนอก โดยใช้เทคนิคการสอนบูรณาการทักษะชีวิต” เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ขึ้นมา โดยมุ่งหวังให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาทั้งทางร่างกาย จิตใจอารมณ์ สังคม สติปัญญา เกิดทักษะทางด้านนาฏศิลป์ไทยควบคู่กับทักษะชีวิต

ขั้นตอนจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Co-operative learning)

การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือประกอบด้วยองค์ประกอบที่มีความสัมพันธ์กัน โดยมีเป้าหมายคือ

เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่กลุ่มร่วมกัน ตั้งไว้ดังนั้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวจึงต้องมีขั้นตอนหรือ

กระบวนต่างๆ เป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งอาภรณ์ใจเที่ยง (2550) กล่าวถึงขั้นตอนการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้

แบบร่วมมือไวดังนี้

1. ขั้นเตรียมการ ในขั้นตอนนี้เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเรียน เริ่มด้วยผู้สอน

ชี้แจงจุดประสงค์ของบทเรียน หลังจากนั้นผู้สอนจัดกลุ่มผู้เรียนเป็นกลุ่มย่อย โดยคละผู้เรียนในกลุ่มให้

แตกต่างกัน ในด้านสติปัญญาความถนัด และภูมิหลัง แบ่งจำนวนสมาชิกในกลุ่มละประมาณไม่เกิน 6 คน

หลังจากนั้นผู้สอนแนะนำ วิธิีการทำงานกลุ่มและบทบาทของสมาชิกในกลุ่ม

2. ขั้นสอน ในขั้นตอนนี้ผู้สอนเริ่มนำ เข้าสู่บทเรียน โดยการสอนหรือบรรยายเนื้อหาตามบทเรียน

หลังจากนั้น มอบหมายงานให้แต่ละกลุ่ม ซึ่งผู้สอนจะอธิบายถึงปัญหาหรืองานที่ต้องการให้กลุ่มแก้ไขหรือ

คิดวิเคราะห์ หาคำตอบ พร้อมแนะนำ แหล่งข้อมูลค้นคว้า หรือให้ข้อมูลพื้นฐาน สำหรับการคิดวิเคราะห์อย่าง

ชัดเจน

3. ขั้น ทำกิจกรรมกลุ่ม เป็นขั้นตอนที่สมาชิกภายในกลุ่มจะได้ฝึกทักษะการเรียนรู้ร่วมกันการ

ทำงานเป็นทีมการร่วมกันรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ร่วมกันแสดงความคิดเห็น ร่วมกัน ทำงานตาม

บทบาทหน้าที่ที่ได้รับ โดยผู้สอนอาจใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมแรงร่วมใจที่น่าสนใจและเหมาะสมกับ

ผู้เรียน เช่น การเล่าเรื่องรอบวง มุมสนทนาคู่ตรวจสอบ คู่คิด ฯลฯ ผู้สอนสังเกตการณ์ทำงานของกลุ่ม เป็นผู้

อำนวยความสะดวกให้ความกระจ่างในกรณีที่ผู้เรียนสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือ

4. ขั้นตรวจสอบผลงานและทดสอบ ขั้นตอนนี้สมาชิกภายในกลุ่มจะรายงานผลการดำเนินงาน

กลุ่ม โดยผู้สอนและเพื่อนกลุ่มอื่นสามารถซักถามหรือแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น เน้น

การตรวจผลงานกลุ่มและผลงานรายบุคคลในบางกรณีผู้เรียนอาจต้องซ่อมเสริมสิ่งที่ยังต้องปรับปรุงแล้วจึง

ทำการทดสอบผลงานอีกครั้ง

5. ขั้นสรุปบทเรียนและประเมินผลการทำงานกลุ่ม ขั้น นี้ผู้สอนและผู้เรียนช่วยกัน สรุปบทเรียน

ผู้สอนช่วยเสริมเพิ่มเติมความรู้ที่ จำเป็นหรือไม่ครอบคลุม เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายการเรียนที่กำหนดไว้

และช่วยกัน ประเมินผลการทำงานกลุ่มทั้งส่วนที่เด่นและส่วนที่ควรปรับปรุงแก้ไข้ ให้การเสริมแรงโดยการ

ชมเชย หรือมอบรางวัลกลุ่มที่ทำ คะแนนได้ตามเกณฑ์และการให้กำลังใจกับ สมาชิกในกลุ่มที่ยังไม่สามารถ

ทำงานผ่านเกณฑ์ได้

จากที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้เห็นถึงขั้นตอนทั้งหมดของการจัดกิจกรรมในการเรียนรู้แบบร่วมมือ

ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะกระบวนการกลุ่มตามบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบในการ

ทำงานกลุ่ม รวมถึงได้ฝึกทักษะการคิด การค้น คว้าการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ผู้เรียนจะได้

ประสบการณ์ในด้านการอยู่ร่วมกับผู้อื่น การมีน้ำ ใจช่วยเหลือผู้อื่น การเสียสละการยอมรับกันและกัน การ

ไว้วางใจซึ่งกัน และกัน การเป็นผู้นำ และการทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งภายในขั้น ตอนต่างๆ นี้ยัง

ประกอบไปด้วยกลุ่มการเรียนที่แตกต่างกัน ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการเพื่อให้ผู้สอนสามารถวาง

แผนการเรียนรู้ที่นำ ไปสู่การเรียนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

บทเรียนสำเร็จรูป

เป็นสื่อสำหรับเรียนด้วยตนเอง อาจใช้สำหรับศึกษาเป็นรายบุคคล รายกลุ่ม ซึ่งอาจจะพบว่ามีชื่อเรียกแตกต่างกันไป ตามลักษณะของการนำไปใช้ เช่น บทเรียนสำเร็จรูป แบบเรียนสำเร็จรูป บทเรียนโปรแกรม โปรแกรมการสอน แบบเรียนด้วยตนเอง เป็นต้น ถึงแม้จะมีชื่อเรียกแตกต่างกัน แต่ลักษณะโดยทั่วไปของบทเรียนสำเร็จรูปมีความคล้ายคลึงกัน คือเป็นวิธีการจัดกระบวนการเรียนรู้วิธีหนึ่ง

บทเรียนสำเร็จรูป หมายถึง บทเรียนที่ผู้สอนจัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง ในแต่ละสาระการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ในแต่ละบทเรียน โดยเริ่มจากเนื้อหาสาระที่ง่าย ๆ ไปสู่เนื้อหาที่ยากขึ้นไปตามลำดับ เป็นบทเรียนที่สร้างขึ้นโดยกำหนดวัตถุประสงค์ เนื้อหา วิธีการ และสื่อการเรียนการสอนไว้ล่วงหน้า ผู้เรียนสามารถศึกษา ค้นคว้า และประเมินผลการเรียนด้วยตนเองตามขั้นตอนที่กำหนดไว้

จุดมุ่งหมายของบทเรียนสำเร็จรูป

1. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถประกอบกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างเต็มความสามารถ โดยครูคอยให้คำแนะนำช่วยเหลือเมื่อผู้เรียนมีปัญหา

2. เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ไปตามลำดับขั้น จากง่ายไปหายาก

3. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถประเมินตนเอง และทราบถึงพัฒนาการในการเรียนรู้ของตนเอง

4. เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจ เมื่อประสบความสำเร็จในการเรียนรู้

หลักการเรียนรู้ด้วยบทเรียนสำเร็จรูป

1. ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรม หรือมีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรม

2. ผู้เรียนได้ประเมินตนเอง และรู้คำตอบได้ทันที

3. มีการเสริมแรงให้ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจเมื่อสามารถปฏิบัติได้ถูกต้อง และมีความพยายามที่จะแก้ไขส่วนที่บกพร่อง

4. ผู้เรียนได้เรียนรู้ไปที่ละลำดับ จากง่ายไปยากตามศักยภาพและความสามารถของ แต่ละคน

ลักษณะของบทเรียนสำเร็จรูป

ลักษณะสำคัญของบทเรียนสำเร็จรูป คือ การออกแบบการบรรจุเนื้อหาและสาระการเรียนรู้ออกเป็น กรอบ (Frame) ซึ่งเนื้อหาและสาระการเรียนรู้ดังกล่าวนั้นจะนำมาจัดทำเป็นหน่วยการเรียนรู้ย่อย ๆ แล้วบรรจุเนื้อหาสาระการเรียนรู้หน่วยย่อย ๆ ดังกล่าวลงไปในกรอบแต่ละกรอบให้มีความสัมพันธ์และเรียงลำดับเนื้อหาจากง่ายไปยาก กรอบสาระการเรียนรู้ (Frame) ในแต่ละกรอบของบทเรียนสำเร็จรูปประกอบด้วย

1. การอธิบายเนื้อหา

2. แบบประเมินผลก่อนเรียน

3. เนื้อหาสาระและกิจกรรมการเรียนรู้

4. คำถาม

5. เฉลยคำตอบ

6. แบบประเมินผลหลังเรียน

ชนิดของกรอบในบทเรียนสำเร็จรูป

กรอบสาระการเรียนรู้ในบทเรียนสำเร็จรูปกำหนดไว้ 4 ชนิด ดังนี้

1. กรอบตั้งต้น (Set Frame) เป็นกรอบที่เป็นเสมือนกรอบนำเข้าสู่บทเรียน ในกรอบนี้จะเป็นข้อมูลการเรียนรู้หลักการ ทฤษฎี และคำถามง่าย ๆ ที่กำหนดให้ผู้เรียนตอบคำถามได้ถูกต้อง ทั้งนี้เพื่อเป็นการให้กำลังใจหรือเสริมแรงให้มีความสุขกับการเรียนรู้

2. กรอบฝึกหัด (Practice Frame) เป็นกรอบที่ให้ผู้เรียนได้มีโอกาสฝึกหัดทำกิจกรรมที่มีเนื้อหาสาระเชื่อมโยงมาจากรอบตั้งต้น ในกรอบฝึกหัดนี้เป็นกรอบสำหรับการฝึกทักษะเช่น การอ่าน การคิด การวิเคราะห์ และการเขียน ซึ่งเนื้อหาสาระการเรียนรู้จะเพิ่มมากขึ้นกว่ากรอบตั้งต้น

3. กรอบรองกรอบส่งท้าย (Sub-Terminal Frame) เป็นกรอบการเรียนรู้ก่อนที่จะถึงกรอบการเรียนรู้ สรุป ที่ผู้เรียนได้ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้มาตามลำดับ โดยมีเนื้อหาสาระที่เข้มข้นขึ้นทั้งนี้เพื่อให้ผู้เรียนใกล้จะสรุปองค์ความรู้ที่สมบูรณ์ที่ผ่านกระบวนการเรียนรู้จากบทเรียนสำเร็จรูปได้อย่างชัดเจนถูกต้อง

4. กรอบส่งท้าย (Terminal Frame) เป็นกรอบสาระการเรียนรู้สรุปสุดท้าย หรือกรอบจบของบทเรียนสำเร็จรูป เป็นกรอบที่มีเนื้อหาสาระเข้มข้น และยากกว่ากรอบสาระการเรียนรู้อื่นที่ผ่านมา

วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน

1. เพื่อให้นักเรียนเกิดทักษะทางด้านนาฏศิลป์ไทย

2. เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตให้กับผู้เรียน

ขั้นตอนการดำเนินงาน

กระบวนการจัดการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิต

1. สร้างบรรยากาศเชิงบวกโดยให้กำลังใจในการพูด หรือแสดงความชื่นชมการชื่นชม ยินดีหรือการให้กำลังใจกับผู้เรียน ข้าพเจ้าถือว่าการแสดงออกดังกล่าวเป็นแรงจูงใจที่ดีในการเรียนรู้ และผลักดันให้ผู้เรียนสามารถแสดงความรู้ความสามารถ และแสดงศักยภาพด้านความคิดได้ไม่สิ้นสุด

2. จัดกิจกรรมให้นักเรียนได้คิด ฝึกปฏิบัติ และสร้างสรรค์ผลงานร่วมกันเป็นกลุ่มโดยใช้เป็นกิจกรรมกลุ่ม หรือการเรียนรู้แบบโครงงาน เพราะเชื่อว่าการคิดร่วมกัน ปฏิบัติร่วมกัน ผลที่ได้รับนั้นมากกว่าชิ้นงานหรือผลงานที่มีคุณภาพแล้ว การได้ใช้ทักษะด้านการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นย่อมตามมา อีกทั้งยังเกิดกระบวนการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาอย่างมีระบบ เกิดทักษะชีวิตครบรอบด้านพร้อมทั้งใช้แบบเรียนสำเร็จรูปควบคู่กันไป

3. การมีส่วนร่วมของนักเรียนในการเรียนรู้ โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมคิด พูด และแสดงออก

การเรียนรู้ในรายวิชาศิลปะ นอกจากการเน้นสอนแบบปฏิบัติและคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดร่วมกัน โดยการนำเสนองานหน้าชั้นเรียน การอภิปรายความรู้ร่วมกัน และการถามตอบเพื่อแสดงความคิดเห็นทุกครั้งที่มีกิจกรรมการเรียนรู้

4. ใช้เทคนิคการตั้งคำถาม สนทนา ให้นักเรียนค้นหาคำตอบสะท้อนความคิด ความรู้สึก เชื่อมโยง และ

ประยุกต์ใช้เมื่อเผชิญสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน (คำถาม R-C-A)โดยเริ่มใช้คำถามตั้งแต่นำเข้าสู่บทเรียนด้วยคำถามชวนคิด เพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่เนื้อหาเสมอ โดยทุกขั้นตอนคำถามถูกระบุลงในแผนการจัดการเรียนรู้

5. สร้างแรงจูงใจให้นักเรียนได้แสดงความสามารถการสร้างแรงจูงใจเพื่อให้นักเรียนได้แสดงความสามารถทางความคิด การแสดงออกหรือการสร้างสรรค์ชิ้นงาน มีหลากหลายรูปแบบทั้งการใช้คำพูด การเปรียบเทียบ ใช้รางวัล /คะแนน หรือการแข่งขันเพื่อเรียงลำดับสถิติที่ดีที่สุด และนอกเหนือจากรางวัลที่ได้รับทุกคนที่ปฏิบัติได้สำเร็จจะได้รับการชื่นชมยินดีทุกครั้งอีกด้วย

ผลการดำเนินงาน/ประโยชน์ที่ได้รับ

1. ผู้เรียนเกิดทักษะทางด้านนาฏศิลป์ไทยสามารถปฏิบัติท่ารำได้ สามารถสร้างสรรค์การแสดงนาฏศิลป์ไทยได้ สามารถแสดงนาฏศิลป์ไทยในงานในโรงเรียนและงานในชุมชนได้

2. ผู้เรียนเกิดทักษะชีวิตที่ดีขึ้น ดูจากผลงานการแสดงนาฏศิลป์ที่ประสบความสำเร็จ จนเป็นที่ยอมรับในสังคม และได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่อง ผู้เรียนต้องมีองค์ประกอบทางด้านทักษะชีวิตที่ครบถ้วนจึงจะประสบความสำเร็จด้านการแสดงได้ รวมไปถึงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของรายวิชานาฏศิลป์ อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเป้าหมายที่ตั้งไว้นอกจากนี้ยังมีนักเรียนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ที่ผ่านการเรียนรู้ด้านนาฏศิลป์ไทยเพื่อพัฒนาทักษะภายในสู่ภายนอก โดยใช้เทคนิคการสอนบูรณาการทักษะชีวิต ทั้งที่ประกอบอาชีพ และกำลังศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น

ปัจจัยความสำเร็จ

ความสำเร็จของ Best Practices เรียนรู้นาฏศิลป์ไทยเพื่อพัฒนาทักษะภายในสู่ภายนอก โดยใช้เทคนิคการสอนบูรณาการทักษะชีวิต เกิดขึ้นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ตั้งแต่ผู้บริหารโรงเรียนที่สนับสนุนงบประมาณในการจัดสรรเครื่องแต่งกายและงบประมาณในกิจกรรมการแข่งขัน ครูและบุคลากรโรงเรียนซับใหญ่วิทยาคม ที่ส่งเสริม ให้กำลังใจแก่นักเรียนและครูผู้สอน สุดท้ายปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือนักเรียนที่มุ่งมั่นตั้งใจ ให้ความร่วมมือในการจัดการเรียนการสอนเป็นอย่างดี

บทเรียนที่ได้รับ

1. เทคนิคการใช้คำถาม R-C-A

2. การสอนทักษะความรู้ควรสอนควบคู่การการสอนทักษะชีวิต

โพสต์โดย kanta woo : [2 ม.ค. 2568 (10:54 น.)]
อ่าน [58805] ไอพี : 223.205.246.143
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 57,996 ครั้ง
กองทุนเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษา...คืออะไร?
กองทุนเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษา...คืออะไร?

เปิดอ่าน 13,753 ครั้ง
เทคโนโลยีคัดกรองตัวอ่อน ความหวังใหม่ของคนอยากมีลูก (ปลอดโรคทางพันธุกรรม)
เทคโนโลยีคัดกรองตัวอ่อน ความหวังใหม่ของคนอยากมีลูก (ปลอดโรคทางพันธุกรรม)

เปิดอ่าน 17,504 ครั้ง
10 ข้อดี ฝึกโยคะตอนเช้า
10 ข้อดี ฝึกโยคะตอนเช้า

เปิดอ่าน 7,974 ครั้ง
เครื่องหมาย ฯ (ไปยาลน้อย หรือ เปยยาลน้อย)
เครื่องหมาย ฯ (ไปยาลน้อย หรือ เปยยาลน้อย)

เปิดอ่าน 159,728 ครั้ง
ความหมาย ความสำคัญและประโยชน์ของแผนที่
ความหมาย ความสำคัญและประโยชน์ของแผนที่

เปิดอ่าน 40,641 ครั้ง
พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (ฉบับที่7) พ.ศ.2554 (ประกาศใช้วันที่ 31/05/2554)
พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (ฉบับที่7) พ.ศ.2554 (ประกาศใช้วันที่ 31/05/2554)

เปิดอ่าน 12,883 ครั้ง
นักเขียนไทยเจ๋ง คว้าแชมป์การ์ตูนนานาชาติ
นักเขียนไทยเจ๋ง คว้าแชมป์การ์ตูนนานาชาติ

เปิดอ่าน 19,904 ครั้ง
ผักสุกมีคุณค่าอาหารสูงกว่าดิบ
ผักสุกมีคุณค่าอาหารสูงกว่าดิบ

เปิดอ่าน 236,861 ครั้ง
การนับตัวเลข1-10(ภาษาจีน)
การนับตัวเลข1-10(ภาษาจีน)

เปิดอ่าน 12,981 ครั้ง
โลหิต ที่ควรทราบ
โลหิต ที่ควรทราบ

เปิดอ่าน 35,029 ครั้ง
สรรพคุณทางยาของ "ผักแขยง"
สรรพคุณทางยาของ "ผักแขยง"

เปิดอ่าน 51,528 ครั้ง
jobsDB แนะ 7 แนวทางการรักษาคนเก่ง ดึงดูดคนที่ใช่ ให้อยู่ในองค์กร
jobsDB แนะ 7 แนวทางการรักษาคนเก่ง ดึงดูดคนที่ใช่ ให้อยู่ในองค์กร

เปิดอ่าน 20,725 ครั้ง
ประตูบ้านให้ลาภ
ประตูบ้านให้ลาภ

เปิดอ่าน 10,623 ครั้ง
ทำยังไงถึงจะยังหนุ่มสาว
ทำยังไงถึงจะยังหนุ่มสาว

เปิดอ่าน 2,047 ครั้ง
seo คืออะไร? เผยกลยุทธ์และเทคนิคสำคัญให้ติดหน้าแรก google
seo คืออะไร? เผยกลยุทธ์และเทคนิคสำคัญให้ติดหน้าแรก google

เปิดอ่าน 22,052 ครั้ง
สุนัขบ้ากัด
สุนัขบ้ากัด
เปิดอ่าน 796 ครั้ง
สินเชื่อส่วนบุคคล ตัวช่วยทุกความต้องการทางการเงินยามจำเป็น
สินเชื่อส่วนบุคคล ตัวช่วยทุกความต้องการทางการเงินยามจำเป็น
เปิดอ่าน 17,990 ครั้ง
ประวัติไข้หวัดใหญ่ที่เคยระบาดบนโลก
ประวัติไข้หวัดใหญ่ที่เคยระบาดบนโลก
เปิดอ่าน 22,318 ครั้ง
วีดิทัศน์ประกอบการสอนคณิตศาสตร์ชั้น ป.6 โดย สสวท.
วีดิทัศน์ประกอบการสอนคณิตศาสตร์ชั้น ป.6 โดย สสวท.
เปิดอ่าน 5,573 ครั้ง
กว่าจะเป็นครู : สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา EP.2
กว่าจะเป็นครู : สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา EP.2

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ