ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

“การบริหารแบบมีส่วนร่วมโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน โรงเรียนสมนึกพิทยา ระดับปฐมวัย รูปแบบ CARE Model ”

๑.ชื่อผลงาน “การบริหารแบบมีส่วนร่วมโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน โรงเรียนสมนึกพิทยา ระดับปฐมวัย

รูปแบบ CARE Model ”

๒.ชื่อผู้นำเสนอผลงาน

นางเสาวลักษณ์ โซ่พิมาย ตำแหน่ง ผู้จัดการโรงเรียนสมนึกพิทยา อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร

๓. ความสำคัญของผลงานนวัตกรรมหรือวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ

๓.๑ แนวคิดการจัดการศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมตามหลักการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School Based Management : SBM)

แนวคิด เรื่องการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานนั้น ได้รับอิทธิพลมาจากกระแส การเปลี่ยนแปลงของ โลกธุรกิจอุตสาหกรรมที่ประสบความสำเร็จจาก หลักการ วิธีการ และกลยุทธ์ในการทำให้องค์การมี ประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล ผลการปฏิบัติงานมีคุณภาพ สร้างกำไรและสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าและ ผู้เกี่ยวข้องยิ่งขึ้นความสำเร็จดังกล่าวนี้ทำให้ ประชาชนและผู้เกี่ยวข้องเห็นว่าการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ดี ขึ้นนั้น ต้องปรับกระบวนการ และวิธีการที่เคยเน้นแต่เรื่องการเรียนการสอนปรับไปสู่การบริหารโดยการ กระจายอำนาจไปยังครู บุคลากร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผู้ปกครอง ชุมชน ทั้งภาครัฐและเอกชน

โรงเรียนสมนึกพิทยา ผ่านการรับรองคุณภาพภายนอก รอบ ๓ ระดับปฐมวัย เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๖ มีการนิเทศติดตาม กับการจัดการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน โดยศึกษานิเทศก์ จากสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดยโสธร เป็นประจำและต่อเนื่อง จากการนิเทศ ติดตาม เพื่อยกระดับคุณภาพการจัดการ เรียนการสอน ส่งเสริมสนับสนุน เพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็ก สร้างความเชื่อมั่นแก่ ผู้ใช้บริการและสังคม ติดตามประเมินผลการดำเนินการ อย่างเข้มแข็ง เพื่อประโยชน์สูงสุด คือ คุณภาพการจัดการเรียนรู้ เพื่อเด็กได้พัฒนาตนเองอย่างเต็มศักยภาพ

โรงเรียนสมนึกพิทยาได้รับการประเมินคุณภาพภายนอกจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (ส.ม.ศ.) รอบสาม เมื่อวันที่ ๕ – ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ผลการประเมินคุณภาพภายนอกระดับปฐมวัยของโรงเรียนซึ่งสรุปผลการประเมินโดยรวม ดังนี้

มาตรฐานที่ ๑ มาตรฐานว่าด้วยผลการจัดการศึกษา (คุณภาพเด็ก) ระดับคุณภาพ ดีมาก กลุ่มตัวบ่งชี้อัตลักษณ์ ตัวบ่งชี้ที่ ๙ ผลการพัฒนาให้บรรลุตามปรัชญา ปณิธาน/วิสัยทัศน์ พันธกิจและวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสถานศึกษา ระดับคุณภาพ ดีมาก ตัวบ่งชี้ที่ ๑๐ ผลการพัฒนาตามจุดเน้นและจุดเด่นที่ส่งผลสะท้อนเป็นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา ระดับคุณภาพ ดีมาก ตัวบ่งชี้ที่ ๑๑ ผลการดำเนินงานโครงการพิเศษเพื่อส่งเสริมบทบาทของสถานศึกษา ระดับคุณภาพ ดี มาตรฐานที่ ๒ มาตรฐานที่ว่าด้วยการบริหารจัดการศึกษา ตัวบ่งชี้ที่ ๗ ประสิทธิภาพของการบริหารจัดการและพัฒนาสถานศึกษา ระดับคุณภาพ ดีมาก ตัวบ่งชี้ที่ ๑๒ ผลการส่งเสริมพัฒนาสถานศึกษาเพื่อยกระดับมาตรฐาน รักษามาตรฐาน และพัฒนาสู่ความเป็นเลิศที่สอดคล้องกับแนว ทางการ ปฏิรูปการศึกษา ระดับคุณภาพ ดีมาก มาตรฐานที่ ๓ มาตรฐานที่ว่าด้วยการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตัวบ่งชี้ที่ ๖ ประสิทธิผลการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ระดับคุณภาพ ดีมาก ข้อเสนอแนะของ สมศ. ด้านผลการจัดการศึกษา สถานศึกษาส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน โดยมีจุดเน้นที่เป็นอัตลักษณ์ของผู้เรียน คือ “เด็กดีศรีสมนึก” จัดโครงการเพื่อส่งเสริมได้แก่ โครงการเด็กดีศรีสมนึก เพื่อพัฒนาให้มีความประพฤติดี มีวินัย ใฝ่ผู้เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง เสริมสร้างให้ผู้เรียนมีคุณธรรม ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนตามจุดเน้นและจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา คือ “โครงการเด่น เน้น สองภาษา” ให้ผู้เรียนมีความใฝ่เรียนใฝ่รู้ รักการอ่าน บูรณาการ สองภาษา

ส่งเสริมพัฒนาการจัดการเรียนการสอนที่เน้นประสบการณ์เด็กเป็นสำคัญ ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีทางการศึกษาและระบบเครือข่ายสารสนเทศมาใช้ในการบริหารและจัดการเรียนการสอน พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถทันต่อการเปลี่ยนแปลงและศรัทธาในวิชาชีพครู จากแนวคิดสรุปได้ว่า การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานคือกระบวนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ ได้คุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของชุมชน สังคม หลักการ สำคัญในการบริหารแบบ (School-Based Management) ตามแนวคิดของ อุทัย บุญ ประเสริฐ (๒๕๔๒:๑๕๔ – ๑๕๖) ได้แก่ ๑) หลักการกระจายอำนาจ (Decentralization) ซึ่งเป็นการกระจายอำนาจ การจัดการศึกษาจาก กระทรวงและส่วนกลางไปยังสถานศึกษาให้มากที่สุด โดยมีความเชื่อว่าโรงเรียนเป็น หน่วยสำคัญในการ เปลี่ยนแปลงและพัฒนาการศึกษาเด็ก ๒) หลักการมีส่วนร่วม (Participation or Collaboration or Involvement) เปิดโอกาส ให้ ผู้เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้มีส่วนร่วมในการบริหาร ตัดสินใจ และร่วมจัดการศึกษา ทั้งครู ผู้ปกครอง ตัวแทนศิษย์เก่าและตัวแทนนักเรียนการที่บุคคลมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา จะเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของ และจะรับผิดชอบในการจัดการศึกษามากขึ้น

ทฤษฎีที่นำมาใช้ในการพัฒนา Best Practice ได้แก่ ทฤษฎี y (Theory y) ของแมคเกรเกอร์ (Mc Gregor ๑๙๖๐) ที่มีแนวคิดว่าผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพ จะต้องพยายามสนับสนุนและพัฒนาการทำงานของผู้ร่วมงาน ให้เข้ามามีส่วนร่วมตัดสินใจในส่วนที่มีผลกับตัว เขา เพิ่มโอกาสด้านความพึงพอใจทางสังคม เพิ่มความรับผิดชอบ เพื่อให้เห็นว่าเขาเป็นบุคคลคนสำคัญ และ เชื่อมั่นในความสามารถ และเพิ่มการมีส่วนร่วมในกิจกรรมขององค์การ ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการ (Need Hirachy Theory) และทฤษฎีสองปัจจัย(Motivation Hygien Theory) ของอับบราฮัม มาสโลว์ (Abraham Maslow) และเฟรเดอริคเฮิรซ์เบอร์ก (Frederick Herzberg) ซึ่งกล่าวไว้สอดคล้องกันว่า งานขั้นแรกของผู้บริหาร คือ การทำให้องค์การทำหน้าที่ให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนด ไว้ซึ่งการที่จะทำเช่นนั้นได้ ผู้บริหารจะต้องใช้ความสามารถทุกวิถีทางที่จะทำให้ผู้ร่วมงานได้ปฏิบัติงานอย่างมี ประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดผลดีต่อสถานศึกษา วิธีหนึ่งที่ผู้บริหารสามารถนำมาใช้ได้อย่างดี คือ การจูงใจบุคลากร ในโรงเรียนทำงาน นั่นคือ ผู้บริหารต้องรู้และเข้าใจลำดับขั้นความต้องการของผู้ร่วมงาน เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ ผู้ร่วมงานให้บรรลุผลสำเร็จ

หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ได้กำหนดปรัชญาการศึกษาปฐมวัยว่า การศึกษา ปฐมวัยเป็นการพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง ๖ ปีบริบูรณ์ บนพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูและการส่งเสริม กระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อธรรมชาติและพัฒนาการตามวัยของเด็กแต่ละคนให้เต็มตามศักยภาพภายใต้ บริบทสังคมและวัฒนธรรมที่เด็กอาศัยอยู่ด้วยความรัก ความเอื้ออาทร และความเข้าใจของทุกคน เพื่อสร้าง รากฐานคุณภาพชีวิตให้เด็กพัฒนาไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เกิดคุณค่าต่อตนเอง ครอบครัวสังคม และ ประเทศชาติ จากความสำคัญดังกล่าว จึงจำเป็นจะต้องจัดการศึกษาให้เด็กปฐมวัยตามหลักจิตวิทยา พัฒนาการเด็กในช่วงอายุ ๓-๖ ปีจะเรียนรู้ซึมซับลักษณะพฤติกรรมจากบุคคลใกล้ชิด และสิ่งแวดล้อมจนเกิด เป็นคุณลักษณะที่ถาวร หากเด็กได้รับการเลี้ยงดูที่ดีได้รับความรักความอบอุ่นจะทำให้เด็กเป็นคนสดชื่นแจ่มใส มองโลกในในแง่ดีรู้จักรักคนอื่น เด็กจะมีความสมบูรณ์ทั้งร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม สติปัญญา ความรู้และ คุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข

สถานศึกษาเป็นหน่วยงานในการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นความสำคัญทั้งด้านความรู้ความคิด ความสามารถ คุณธรรมกระบวนการเรียนรู้และความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อพัฒนาคนให้มีความสมดุล โดยยึดหลักผู้เรียนสำคัญที่สุด ทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถ พัฒนาตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ ให้ความสำคัญต่อความรู้เกี่ยวกับตนเองได้และความสัมพันธ์ของตนเอง กับสังคม สถานศึกษาจึงต้องจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นการฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการเผชิญ สถานการณ์และการประยุกต์ความรู้มาใช้ป้องกันและแก้ไขปัญหา ฝึกปฏิบัติให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ จากประสบการณ์จริง ผสมผสานสาระความรู้ด้านต่าง ๆ อย่างได้สัดส่วน สมดุล ปลูกฝังคุณธรรมค่านิยมที่ดีงาม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ไว้ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้อย่างเท่าเทียมกัน การบริหารสถานศึกษาให้มีความ สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของสังคม จะต้องมีการติดตาม กำกับการดำเนินงานให้เกิดผลตามเป้าหมาย ตลอดจนการนำความรู้ที่มีอยู่หรือเรียนรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสถานศึกษา ซึ่งต้องอาศัยความรู้และ ทักษะในการบริหารจัดการของผู้บริหาร

ข้าพเจ้า ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารสถานศึกษา จึงเป็น เหมือนตัวกลางในการช่วยกำหนดนโยบาย และนำนโยบายสู่การปฏิบัติ เพื่อให้เกิดผลตามเป้าหมาย ดังนั้น ในการบริหารงาน จึงนำหลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม (Participative Management) มาเป็น กลไกหลักในการบริหารงานการศึกษาปฐมวัย สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ และหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย โรงเรียนสมนึกพิทยา โดยใช้รูปแบบ CARE Model ซึ่งเป็น รูปแบบการบริหารที่มีความสอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน ที่มุ่งสู่การพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาปฐมวัย ของโรงเรียนอย่างสมดุลรอบด้าน เพื่อให้นักเรียนที่เป็นผลผลิต เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เป็นคนดีมีความสามารถ มีความสุข มีพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา โดยมีความโดดเด่นในพัฒนาการ ด้านความพร้อมในการใช้ภาษา ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษและภาษาต่างประเทศอื่น ทั้งนี้ข้าพเจ้าได้ศึกษา ค้นคว้า นำองค์ความรู้ตลอดจนเทคโนโลยี ใหม่ ๆ ในวงวิชาการและวิชาชีพมาพัฒนา ได้วิเคราะห์สภาพปัจจุบัน ปัญหา จุดเด่น จุดด้อย โอกาสและอุปสรรค เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ผล แล้วกำหนดเป็นวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย และกลยุทธ์ในการพัฒนาการศึกษา จัดทำแผนปฏิบัติงานประจำปี แผนการใช้จ่ายประจำปี งบประมาณโดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารสถานศึกษา มีปฏิทินการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง มีการประกันคุณภาพ มีการนำข้อมูล ที่ได้จากการวิเคราะห์ จัดทำาเป็นสารสนเทศแล้วนำไปใช้ในการปรับปรุง พัฒนาให้ดีขึ้น ซึ่งการบริหารที่ดีส่งผลให้เด็กระดับปฐมวัยเกิดการพัฒนาอย่างเต็มตามศักยภาพ

รูปแบบที่นำมาใช้ในการพัฒนา Best Practice ใช้รูปแบบการบริหารการศึกษาแบบมีส่วนร่วม โดยใช้เทคนิค ๕ ขั้นตอน และ ๕ ร่วม คือ การร่วมคิด การร่วมวางแผน การร่วมปฏิบัติ การร่วมประเมินผล และร่วมชื่นชม

๔.จุดประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน

๔.๑ จุดประสงค์

๑) เพื่อบริหารสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพ ด้วยกระบวนการบริหารโรงเรียนแบบมีส่วนร่วม (Participative Management) : ๕ ร (ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมปฏิบัติ ร่วมประเมินและร่วมชื่นชม)

๒) เพื่อให้บุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาได้เข้ามามีส่วนคิด ตัดสินใจ ร่วมวางแผน ร่วมทำงาน และตกลงใจร่วมกันในการบริหารโรงเรียนให้บรรลุเป้าหมาย (Team)

๓) เพื่อให้ครูผู้สอนมีความรู้ ทักษะและกระบวนการในการจัดประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัยและมีความรู้ในการทำงานวิจัยในชั้นเรียน (Teacher)

๔) พัฒนาผู้เรียนตามจุดเน้นและจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา คือ “โครงการเด่น เน้น สองภาษา” ให้มีความใฝ่เรียนใฝ่รู้ รักการอ่าน บูรณาการ สองภาษา ให้เด็กปฐมวัย ได้รับการพัฒนา ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคมและสติปัญญา มีความพร้อมในการใช้ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาต่างประเทศอื่น

๕) เพื่อให้เด็กปฐมวัย มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยมีจุดเน้นที่เป็นอัตลักษณ์ของผู้เรียน คือ “เด็กดีศรีสมนึก”พัฒนาให้เป็นเด็กดีศรีสมนึก ประกอบไปด้วย ๕ ด้าน คือ เด็กมีความประพฤติดี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ กตัญญู อยู่พอเพียง เสริมสร้างให้ผู้เรียน มีคุณธรรม

๔.๒ เป้าหมาย

๑) สถานศึกษามีกระบวนการบริหารแบบมีส่วนร่วมที่มีประสิทธิภาพ

๒) บุคลากรมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา มีส่วนคิด ตัดสินใจ ร่วมวางแผน ร่วมทำงาน ร่วมชื่นชม และตกลงในร่วมกันในการบริหารโรงเรียนให้บรรลุเป้าหมาย (Team) อย่างน้อยร้อยละ ๘๕

๓) ครูผู้สอน มีความรู้ ทักษะและกระบวนการในการจัดประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัยและมีความรู้ในการทำงานทำวิจัยในชั้นเรียน อย่างน้อยร้อยละ ๘๕

๔) เด็กระดับปฐมวัย มีพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคมและสติปัญญา และมีความพร้อมในการใช้ภาษา ตามโครงการเด่นเน้น สองภาษา อย่างน้อยร้อยละ ๘๕

๕. กระบวนการผลิตผลงาน/ ขั้นตอนการดำเนินงาน

กระบวนการบริหารโรงเรียนแบบมีส่วนร่วม (Participative Management) : CARE Model เป็นรูปแบบการบริหารที่เกิดจากกระบวนการมีส่วนร่วมของบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ทุกภาคส่วน ที่ใช้ในการบริหารและการจัดการศึกษาตามบริบทของโรงเรียน โดยการสังเคราะห์สภาพ ของปัญหา ความต้องการพัฒนา จุดแข็ง และจุดอ่อนของโรงเรียน ตลอดจนนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด พร้อมทั้งนำหลักการบริหาร ทฤษฎี และประสบการณ์การบริหารของผู้บริหารมาใช้ในการพัฒนา ปรับปรุง อย่างต่อเนื่อง มีการดำเนินงานของฝายบริหารที่จูงใจให้โอกาสแก่ คณะกรรมการบริหารสถานศึกษา องค์กร ชุมชน คณะครู นักเรียน ผู้ปกครอง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝาย ได้มีส่วนร่วมในการเสนอแนะ ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมวางแผน ร่วมทำ ร่วมแก้ไข และพัฒนางาน และร่วมชื่นชม ด้วยความเต็มใจ ที่มุ่งสู่การพัฒนาคุณภาพของโรงเรียนอย่างสมดุลรอบด้าน เพื่อให้ผู้เรียนที่เป็น ผลผลิต เติบโตเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เป็นคนดีมีความสามารถ และมีความสุข จากการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และ ประสบการณ์ในการบริหารสถานศึกษา ทำให้ได้นวัตกรรม รูปแบบการบริหารที่สอดคล้องกับการพัฒนาคุณภาพ ของโรงเรียน โดยใช้การบริหารแบบมีส่วนร่วม (Participative Management) มาเป็นกลไกหลัก ในการบริหารงาน ประกอบกับการใช้ทฤษฎีระบบ (system theory) ในการกำหนดรูปแบบการบริหารงาน การใช้กระบวนการวงจรคุณภาพ P-D-C-A หรือวงจรเดมมิ่ง ในการดูแล ควบคุม และกำกับติดตามการ ดำเนินงาน โดยยึดหลักการบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล ส่งผลให้การดำเนินการบริหารจัดการศึกษา บรรลุตามเป้าหมาย มีรายละเอียดของกระบวนการพัฒนานวัตกรรมการบริหารโรงเรียนให้มีคุณภาพ ดังนี้

๑) INPUT (ปัจจัยนำเข้า) – การบริหารงานของโรงเรียนสมนึกพิทยา มีปัจจัยนำเข้าที่สำคัญ ๔

ประการ ที่เรียกว่า ๔ M’s ได้แก่

- Man ในกระบวนการบริหารโรงเรียนสมนึกพิทยาเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัด การศึกษาได้เข้ามามีส่วนคิด ตัดสินใจ ร่วมวางแผน ร่วมทำงาน ร่วมชื่นชม และตกลงใจร่วมกันในการบริหารโรงเรียนให้ บรรลุเป้าหมาย ดังนี้

(๑) ฝ่ายกำหนดนโยบาย ประกอบด้วยคณะกรรมการบริหารโรงเรียน ซึ่งประกอบด้วยผู้รับใบอนุญาต ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้อำนวยการโรงเรียน รองผู้อำนวยการโรงเรียน ตัวแทนครู ตัวแทนผู้ปกครอง ตัวแทนชุมชน และที่ปรึกษา ฝ่ายบริหารทุกกลุ่มมี ส่วนร่วม ในการกำหนดนโยบาย และทิศทางของสถานศึกษา

(๒) ฝ่ายปฏิบัติการ ประกอบด้วย หัวหน้างานวิชาการ หัวหน้างานแผนงาน หัวหน้างานประกันคูณภาพการศึกษา ระดับปฐมวัย ครู และบุคลากรในโรงเรียน การบริหารโดยครูมีส่วนร่วมเป็นการเปิดโอกาสให้ครูได้ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมประเมินผล ร่วมพัฒนาผลงาน เพื่อปรับปรุงงานให้ดีขึ้น และร่วมชื่นชม โดยให้ครูมีส่วนร่วมในรูปองค์คณะบุคคล ซึ่งมีดังนี้ การจัดให้มีครูเป็นคณะ กรรมการบริหารโรงเรียน คณะกรรมการบริหารวิชาการ เพื่อให้คณะครูมีส่วนร่วมในการบริหาร คณะกรรมการ พัฒนาครูและบุคลากร เพื่อให้ครูได้มีส่วนร่วมคิด ร่วมทำ เพื่อการพัฒนาครู พัฒนางาน เพื่อความก้าวหน้า ของครู

(๓) บุคคลภายนอก ประกอบด้วย ผู้ปกครอง ชุมชนรอบโรงเรียน องค์กร หน่วยงานราชการ และ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง การบริหารโดยผู้ปกครองมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในการประชุมผู้ปกครอง การเป็นวิทยากรพิเศษในห้องเรียนของบุตรหลาน ตลอดจนการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่โรงเรียนจัดขึ้น การบริหารโดยชุมชนรอบโรงเรียน องค์กรมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมภายในสถานศึกษา การบริหารโดย หน่วยงานราชการ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมีส่วนร่วมและมีบทบาทในการให้คำปรึกษา นิเทศด้านการบริหารแก่ ผู้บริหาร และด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแก่ครูผู้สอน

- Money งบประมาณที่ใช้ในการบริหาร โรงเรียนสมนึกพิทยา ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากเงิน อุดหนุนรายหัวนักเรียน ซึ่งไม่เพียงพอต่อการบริหาร ดังนั้น จึงเกิดความร่วมมือร่วมใจจากผู้ปกครอง ในการระดมทุนทรัพย์เพื่อใช้พัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรียนให้มีความ เจริญก้าวหน้า

- Materials จัดสื่อ วัสดุอุปกรณ์เทคโนโลยีรวมถึงสื่อในท้องถิ่น สื่อจากธรรมชาติที่จำเป็นต่อการ จัดการศึกษา ซึ่งมีการจัดซื้อ จัดหาให้มีความเหมาะสม หลากหลาย และเพียงพอกับความต้องการของเด็ก

- Management นำหลักการบริหารจัดการ ด้านการวางแผน การจัดองค์การ การจัดคน การสั่งการ การประสานความร่วมมือ การรายงาน และงบประมาณ มาควบคุมและกำกับดูแลการดำเนินงานภายใน ของโรงเรียนสมนึกพิทยา โดยยึดแนวทางการบริหารจัดการที่ดี (Good Governance) หรือหลักธรรมาภิบาล ซึ่งประกอบไปด้วย หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า

๒. PROCESS (กระบวนการ) สถานศึกษาดำเนินงานตาม CARE Model ดังนี้

team and network การทำงานเป็นทีมและสร้างเครือข่ายการจัดการศึกษา เป็นการทำงานโดยผู้บริหารสถานศึกษากระจายอำนาจ ให้ครู บุคลากรทางการศึกษาได้มีโอกาสเป็นผู้นำและ ผู้ตามในการทำงาน มีบรรยากาศในการทำงานที่เป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สร้างทีมงานที่มีความเข้มแข็งทาง วิชาการ มีคุณภาพและสมรรถนะสูง ส่งเสริมการเรียนรู้ของทีมงานเพื่อขับเคลื่อนการจัดการศึกษาของ สถานศึกษาให้มีคุณภาพ บรรลุเปูาหมายที่กำหนดไว้ดังนี้

ร่วมใจ (Heart) หมายถึง ความรู้สึกของสมาชิกที่รักและศรัทธาในหัวหน้าทีม งานที่ทำ และ เพื่อน ๆ

ร่วมทีม มีความเอื้อเฟื้อห่วงใยซึ่งกันและกัน มีความเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน และเกิดความ ไว้วางใจต่อกัน

ร่วมคิด (Head) หมายถึง การใช้ความคิด เหตุผลให้เพื่อนร่วมงานเชื่อมั่นว่าทำแล้วดี มีประโยชน์ต่อตัวเอง ต่อองค์กร โดยช่วยกันระดมสมอง กำหนด เป้าหมาย วางแผน แบ่งงาน แบ่งหน้าที่

ร่วมทำ (Hand) หมายถึง การร่วมมือ ลงมือทำงานซึ่งได้มีการวางแผนไว้ ซึ่งทุกคนมีพันธะ สัญญาที่จะต้องทำงานทุกคน เนื่องจากได้มีส่วนร่วมในการคิดร่วมกัน

C : Creative education การจัดการศึกษาอย่างสร้างสรรค์ โรงเรียนสมนึกพิทยา ได้ใช้แนวทาง การจัดการศึกษาอย่างสร้างสรรค์ โดยมี ๓ ปัจจัยหลัก ดังนี้

๑. คนสร้างสรรค์ หมายถึงมนุษย์ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการศึกษา เริ่มตั้งแต่พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ ผู้บริหารการศึกษา หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ถือเป็นปัจจัย แรกที่กระทบต่อเด็ก

๒. สื่อสร้างสรรค์ โรงเรียนให้ความสำคัญต่อการรับรู้ของเด็กในสังคมออนไลน์ซึ่งมีทั้งสื่อที่ดี และสื่อที่ไม่ดี ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะออกแบบสื่อที่มีความสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็น เกม, Social

Network, VDO on Demand บน You Tube, Google VDO ฯลฯ เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกการบริโภคสื่อ ที่ดีให้กับเด็ก ตลอดจนเป็นการกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนสนใจต่อสื่อที่ดี ๆ มากขึ้น โดยนำเสนอในรูปแบบ ที่ เด็กสามารถเข้าใจได้ง่าย สนุก และทันสมัย

๓. สภาพแวดล้อมสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่คนสร้างสรรค์ และสื่อสร้างสรรค์ โดย สภาพแวดล้อมในตัวมันเองนั้น ไม่สามารถจัดการตัวเองได้ ขึ้นอยู่กับคนที่จัดสรรเป็นหลัก ดังนั้น หากเริ่มต้นที่ “คนสร้างสรรค์” ผลิต “สื่อสร้างสรรค์” ในท้ายที่สุด “สภาพแวดล้อมก็จะสร้างสรรค์” ซึ่งเมื่อสภาพแวดล้อม สร้างสรรค์ จะเอื้อผลที่ดีให้กับคนที่สร้างสรรค์ และสื่อที่สร้างสรรค์ได้ในที่สุด

A : Activities การจัดกิจกรรมที่หลากหลาย โรงเรียนสมนึกพิทยา ได้วางแผนการจัดกิจกรรม ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการของเด็ก ที่สนองตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมายตามหลักสูตรการศึกษา ปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ และหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๓ โดยจัดประสบการณ์เล่นและเรียนรู้ อย่างหลากหลาย เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและสนองความต้องการ ความสนใจ ความแตกต่างระหว่าง บุคคลและตามสภาพแวดล้อมของสังคมที่เด็กอยู่อาศัย จัดให้เด็กได้รับการพัฒนา โดยให้ความสำคัญ กับกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาการของเด็ก จัดการประเมินพัฒนาการให้เป็นกระบวนการ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจัดประสบการณ์ พร้อมทั้งนำผลการประเมินมาพัฒนาเด็ก อย่างต่อเนื่อง และพ่อแม่ ผู้ปกครอง ชุมชน และผู้ที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็ก โดยในส่วน ของการจัดประสบการณ์ เพื่อให้เด็กมีความพร้อมทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจและสติปัญญา โรงเรียนสมนึกพิทยา ได้เน้นการจัดประสบการณ์แบบบูรณาการ (Integrate Teaching) จัดประสบการณ์ แบบโครงงาน จัดประสบการณ์การสอนแบบโครงการ ( Project Approach) และการเรียนรู้แบบลงมือ กระทำ (Active Learning) ทั้งนี้ในการพัฒนาความพร้อมด้านการใช้ภาษาทั้งการฟังและการพูด คือ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษและภาษาต่างประเทศอื่น เช่น ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น นั้น โรงเรียนได้ดำเนินการเป็นขั้นตอน ดังนี้

๑) จัดทำโครงการ/กิจกรรมภาษาวันละคำ

๒) การจัดประสบการณ์ในชั้นเรียนโดย มีครูชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมจัด กิจกรรม

๓) การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวันทั้งในโรงเรียน บ้านและในชุมชน

R : Research การวิจัย โรงเรียนสมนึกพิทยา ได้ใช้กระบวนการวิจัยเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหา และพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก โดยจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ครูได้มีความรู้ในการทำงานวิจัยในชั้นเรียน โดยใช้วิธีการสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ในโรงเรียน

E : Evaluation การประเมิน สรุปและรายงานผล ในการดำเนินงานโครงการ กิจกรรมมีการ ประเมิน สรุปและรายงานผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล

๓. OUTPUT (ผลผลิต) team, teacher

๑) บุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษามีส่วนคิด ตัดสินใจ ร่วมวางแผน ร่วมทำงาน และ ตกลงใจร่วมกันในการบริหารโรงเรียนให้บรรลุเป้าหมาย (team)

๒) ครูผู้สอนมีความรู้ ทักษะและกระบวนการในการจัดประสบการณ์สำหรับเด็กระดับปฐมวัย และมี ความรู้ในการทำงานวิจัยในชั้นเรียน ( teacher)

๔. OUTCOME = student ( Language)

๑) เด็กระดับปฐมวัยมีพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา และมีความ พร้อมในการใช้ภาษา คือภาษาไทย ภาษาอังกฤษและภาษาต่างประเทศอื่น

ภาพประกอบ กระบวนการบริหารโรงเรียนแบบมีส่วนร่วม (Participative Management) : CARE Model

สถานศึกษามีการบริหารจัดการเป็นระบบคุณภาพ ทำงานประสานสัมพันธ์กันและดำเนินการแบบ องค์รวม สามารถพัฒนางานได้ทั้งระบบครบวงจร โดยใช้การบริหารงานด้วยวงจรคุณภาพ (PDCA) ตามแนวคิดของ เดมมิ่ง ซึ่งช่วยให้ผู้บริหาร ติดตามและทบทวนปรับปรุงการบริหารงานอย่างต่อเนื่อง และทำให้บุคลากรทุกคนมี ส่วนร่วมในการแก้ไข/ปรับปรุง วิธีการทำงานเพื่อพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน โดยโรงเรียนได้นำวงจรคุณภาพ (PDCA) หรือวงจรเดมมิ่งไปสู่การปฏิบัติประกอบด้วย ๕ ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ ๑ ร่วมวางแผน : ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากร ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการในการพัฒนา

ขั้นตอนที่ ๒ ร่วมปฏิบัติงานตามแผน : พิจารณาทางเลือกในการแก้ปัญหาที่เหมาะสมไปสู่การปฏิบัติ

ขั้นตอนที่ ๓ ร่วมประเมินผล : ร่วมกันประเมินผล โดยใช้กระบวนการ ตรวจสอบ

ขั้นตอนที่ ๔ ร่วมแก้ไข/ปรับปรุง : แก้ไขและปรับปรุงสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้วหากไม่บรรลุผลสำเร็จ กลับไปทบทวน และวางแผนการดำเนินงานและการพัฒนาซ้ำจนกว่าจะบรรลุผลสำเร็จตามเปูาหมายที่ กำหนด

ขั้นตอนที่ ๕ ร่วมชื่นชม คณะกรรมการบริหารโรงเรียน ครูบุคลากร ทุกกลุ่ม ทุกคน ร่วมชื่นชม และให้กำลังใจ ในการทำงาน / กิจกรรม

๖. ผลการดำเนินการ/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่ได้รับ

จากการบริหารแบบมีส่วนร่วม โดยกำหนดนโยบายได้เข้าใจทิศทางการจัดการศึกษา จึงมีการ กำหนดนโยบายต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบันและความต้องการในอนาคต ทำให้สถานศึกษามีความ พร้อมในทุก ๆ ด้าน ส่งผลให้สถานศึกษาเกิดสัมฤทธิ์ผลได้รับรางวัลในการบริหาร เช่น รางวัลผู้บริหารดีเด่น ครูดีเด่น รางวัลนวัตกรรมการบริหารดีเด่น ระดับชาติ ปลูกพลังบวกเพื่อสร้างจิตสำนึกภูมิคุ้มกันปัจจัยเสี่ยง เหล้า บุหรี่ สำหรับเด็กปฐมวัย ปีพุทธศักราช ๒๕๖๒ และโรงเรียนยังได้รับโอกาสที่ดี ดังนี้

- โรงเรียนได้ไปร่วมจัดนิทรรศการแสดงผลงานโรงเรียนในคราวต้อนรับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ณ ศูนย์การศึกษานอกระบบ ฯ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร

โพสต์โดย ครูอาย : [8 ม.ค. 2568 (20:22 น.)]
อ่าน [59302] ไอพี : 27.145.216.26
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,196 ครั้ง
สรุปผลการวิจัยเรื่องค่าใช้จ่ายเอกชนทางการศึกษาของนักเรียนไทย
สรุปผลการวิจัยเรื่องค่าใช้จ่ายเอกชนทางการศึกษาของนักเรียนไทย

เปิดอ่าน 15,599 ครั้ง
12 วิธีอยู่อย่างไรให้ห่างไกลมะเร็ง
12 วิธีอยู่อย่างไรให้ห่างไกลมะเร็ง

เปิดอ่าน 20,786 ครั้ง
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : จับตามองครูในศตวรรษที่ 21 "ครูหัวใจสะเต็ม"
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : จับตามองครูในศตวรรษที่ 21 "ครูหัวใจสะเต็ม"

เปิดอ่าน 15,386 ครั้ง
กล้วยหอมชนะเครื่องดื่มบำรุงกำลัง มีสารอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระในตัว
กล้วยหอมชนะเครื่องดื่มบำรุงกำลัง มีสารอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระในตัว

เปิดอ่าน 13,807 ครั้ง
มิติใหม่การศึกษา ... เดินหน้า TEPE Online พัฒนา "ครู" สนับสนุน "ครูตู้" พัฒนาเด็กไทยอย่างเท่าเทียม
มิติใหม่การศึกษา ... เดินหน้า TEPE Online พัฒนา "ครู" สนับสนุน "ครูตู้" พัฒนาเด็กไทยอย่างเท่าเทียม

เปิดอ่าน 17,416 ครั้ง
7 เหตุผลที่ทำให้คุณหิวโหยและอ้วน
7 เหตุผลที่ทำให้คุณหิวโหยและอ้วน

เปิดอ่าน 12,215 ครั้ง
"เจตพังคี" คืออะไร?
"เจตพังคี" คืออะไร?

เปิดอ่าน 29,720 ครั้ง
หนังสือดีเด่น 2559 ที่พ่อแม่ควรให้ "ลูก" อ่าน
หนังสือดีเด่น 2559 ที่พ่อแม่ควรให้ "ลูก" อ่าน

เปิดอ่าน 207,086 ครั้ง
หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) / หน่วยแสดงผลข้อมูล (Output Unit)
หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) / หน่วยแสดงผลข้อมูล (Output Unit)

เปิดอ่าน 27,546 ครั้ง
วิธีลดต้นขา แบบญี่ปุ่น ง่ายๆ ไม่เสียตังค์
วิธีลดต้นขา แบบญี่ปุ่น ง่ายๆ ไม่เสียตังค์

เปิดอ่าน 4,864 ครั้ง
แนะนำอาหารสำหรับผู้ป่วยลองโควิด (Long COVID)
แนะนำอาหารสำหรับผู้ป่วยลองโควิด (Long COVID)

เปิดอ่าน 147,730 ครั้ง
วิธีปฐมพยาบาลบาดแผลไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก
วิธีปฐมพยาบาลบาดแผลไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก

เปิดอ่าน 189,681 ครั้ง
ระบบข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับข้าราชการ สำหรับตรวจสอบวันเดือนปีที่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ระบบข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับข้าราชการ สำหรับตรวจสอบวันเดือนปีที่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์

เปิดอ่าน 179,372 ครั้ง
หลักการออกแบบของ ADDIE model
หลักการออกแบบของ ADDIE model

เปิดอ่าน 13,664 ครั้ง
เลขท้ายทะเบียนบ้านใด "มีเสนห์ - มีคนช่วยเหลือ"
เลขท้ายทะเบียนบ้านใด "มีเสนห์ - มีคนช่วยเหลือ"

เปิดอ่าน 2,076 ครั้ง
SEO คืออะไร? การแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับดี ๆ บน Google
SEO คืออะไร? การแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับดี ๆ บน Google
เปิดอ่าน 18,090 ครั้ง
"จันทรุปราคา"กับ"ทางช้างเผือก" 15มิถุนาฯ-ค่ำคืนมองฟ้าสุดอัศจรรย์
"จันทรุปราคา"กับ"ทางช้างเผือก" 15มิถุนาฯ-ค่ำคืนมองฟ้าสุดอัศจรรย์
เปิดอ่าน 3,825 ครั้ง
รับทำ seo ให้กับทุกเว็บไซต์ติดอันดับ Google 1 วันรู้ผล
รับทำ seo ให้กับทุกเว็บไซต์ติดอันดับ Google 1 วันรู้ผล
เปิดอ่าน 19,179 ครั้ง
วางตำแหน่งถ่ายภาพแบบไหนจึงสวย
วางตำแหน่งถ่ายภาพแบบไหนจึงสวย
เปิดอ่าน 88,285 ครั้ง
ประเภทของใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ประเภทของใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ