บทที่ 1
บทนำ
1.ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
การศึกษาเป็นกระบวนการที่พัฒนาคุณภาพของคนในชาติ แม้ว่ากระแสโลกาภิวัตน์จะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อสังคมไทยเพียงใด การจัดการศึกษาให้แก่คนไทยในชาติยังมีความสำคัญที่จะต้องพัฒนาให้เหมาะสมกับสถานการณ์โลก เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา มีความรู้คู่คุณธรรม มีวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข (สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ 2537 ก : บทนำ. อ้างใน วิชาญ พละพร. 2545 :1 ) โดยในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตราที่ 26 ได้มุ่งให้พัฒนาผู้เรียนให้มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ คิดวิจารณญาณ คิดสร้างสรรค์ และมีวิสัยทัศน์ เนื่องจากว่าการคิดช่วยพัฒนาผู้เรียนให้เป็นพลเมืองที่มีประสิทธิภาพ มีความสามารถในการแก้ปัญหาสามารถดำรงชีวิตได้สอดคล้องกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับปัจจุบันในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนซึ่งเป็นกำลังของชาติให้เป็นมนุษย์ที่มีความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้งเจตคติที่จำเป็นต่อการศึกษาการประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเชื่อว่าทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ การพัฒนาที่สำคัญ คือ การพัฒนาที่สมดุลอย่างเป็นองค์รวมทุกด้านเพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มีพื้นฐานทางจริยศาสตร์ความเป็นคนดีทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม ผู้เรียนทุกคนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานต้องสร้างองค์ความรู้ ทักษะหรือกระบวนการเรียนรู้ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (กระทรวงศึกษาธิการ 2551 : 2) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม นั้นเป็นกลุ่มรายวิชาหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นกลุ่มวิชาที่มุ่งพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนให้สามารถเรียนรู้การดำรงชีวิตอยู่ในสังคม และการอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นได้อย่างมีความสุข ตลอดจนสามารถนาเอาความรู้ความเข้าใจนั้นไปปรับใช้ให้เข้ากับสภาพสังคมที่แปรเปลี่ยนได้อย่างเหมาะสม สมดุล ยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และที่สำคัญในปัจจุบันได้เกิดประชาคมอาเซียนขึ้นมาโดยจัดให้อยู่ในกลุ่มสาระสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ทำให้จึงต้องมีการจัดการเรียนรู้ในเรื่องอาเซียนด้วย นอกจากนี้กลุ่มสาระสังคมศึกษายังมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้มีทักษะหลายๆ ด้าน ทั้งทักษะทางสังคม ทักษะทางการคิด ทักษะการตัดสินใจ และทักษะการแก้ปัญหา อีกทั้งยังเป็นวิชาที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ผู้เรียนเป็นพลเมืองดีของสังคม ตั้งแต่ระดับครอบครัว ไปจนถึงพลโลก ดังนั้นการจัดการเรียนรู้ในวิชาสังคมศึกษา หรือที่ในปัจจุบันเรียกว่า สาระการเรียนรู้สังคมสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม จึงต้องเป็นวิธีการเรียนรู้ที่จะช่วยสร้างเสริมเติมเต็มประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้ใช้สติปัญญา ความรู้ความคิด และความสามารถต่าง ๆ อย่างเต็มที่ ตลอดจนต้องจัดให้เหมาะสมกับวัยและวุฒิภาวะของผู้เรียน ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมจัดการเรียนรู้ของตนเอง พัฒนาและขยายความคิดของตนเองจากความรู้ที่ได้เรียน การจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นรูปแบบการสอนที่เน้นนักเรียนเป็นสำคัญรูปแบบของการเรียนรู้นี้พัฒนาองค์ความรู้และทักษะผ่านภาระงานซึ่งจะกระตุ้นความอยากรู้ของนักเรียนและเกิดการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงโดยใช้คำถามสำคัญเป็นตัวขับเคลื่อนกระบวนการของการเรียนรู้โดยที่โครงงานนั้นต้องสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูงของผู้เรียน ซึ่งการสอนแบบ PBL คือหัวใจของการเรียนการสอนที่ดีเพราะเป็นการรวมตัวกันสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมทางปัญญามาตรฐานโลกแห่งความจริงอย่างเข้มงวดและมีส่วนร่วมของนักเรียนในการทำงานที่เกี่ยวข้องและมีความหมายมันเป็นรูปแบบการเรียนการสอนที่ครอบคลุมในที่ทำงานโครงการเป็นศูนย์กลางของความเข้าใจของนักเรียน ที่สำคัญของแนวคิดและหลักการของสาขาวิชา ด้วยเหตุผลนี้ ผู้วิจัยจึงได้ ทำการศึกษาเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Based Learning: PBL) เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองม่วงวิทยาคาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 7 เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้และพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ให้นักเรียนได้คิดและลงมือปฏิบัติในการเรียนรู้ อันจะเป็นการทำให้ความรู้อยู่คงทนจนทำให้เกิดความรู้ขั้นสูง และกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ของนักเรียน จึงได้นำเอาการจัดการเรียนแบบโครงงานมาปรับในการจัดการเรียนรู้
2. วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อพัฒนาการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Based Learning: PBL) เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองม่วงวิทยาคาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปรถมศึกษานครราชสีมา เขต 7 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2. เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Based Learning: PBL) เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองม่วงวิทยาคาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปรถมศึกษานครราชสีมา เขต 7
3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Based Learning: PBL) เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองม่วงวิทยาคาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปรถมศึกษานครราชสีมา เขต 7
3. ความสำคัญของการวิจัย
1. ได้แผนการจัดการเรียนรู้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Based Learning: PBL) เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองม่วงวิทยาคาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปรถมศึกษานครราชสีมา เขต 7 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2. ได้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับการสอนของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
3. ได้ทราบถึงความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Based Learning: PBL) เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองม่วงวิทยาคาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปรถมศึกษานครราชสีมา เขต 7
4. ขอบเขตของการวิจัย
4.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองม่วงวิทยาคาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปรถมศึกษานครราชสีมา เขต 7 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 30 คน จำนวน 2 ห้องเรียน
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองม่วงวิทยาคาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปรถมศึกษานครราชสีมา เขต 7 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 15 คน จำนวน 1 ห้องเรียน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง
4.2 ตัวแปรที่ศึกษา
4.2.1 ตัวแปรอิสระ ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Based Learning: PBL)
4.2.2 ตัวแปรตาม ได้แก่
1. ประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Based Learning: PBL)
2. ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Based Learning: PBL)
5. นิยามศัพท์เฉพาะ
1. การจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Based Learning: PBL) หมายถึง การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ที่เน้นให้ผู้เรียนได้เลือกศึกษาค้นคว้าหาความรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่สนใจอย่างลึกซึ้ง จากสื่อและแหล่ง เรียนรู้ แล้วนำมาสรุปเป็นองค์ความรู้โดยมีครูคอยกระตุ้น แนะนำ และให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด โดยมีกระบวนการในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน แบบโครงงาน 5 ขั้นตอน คือ การหัวข้อเลือกปญหาที่จะศึกษา การวางแผนจัดทำโครงงาน ลงมือทําโครงงาน การเขียนรายงาน การนําเสนอโครงงาน
2. ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ หมายถึง ระดับความสามารถในการพัฒนานักเรียนให้เกิดการเรียนรู้โดยแบบโครงงาน (Project Based Learning: PBL) ซึ่งผู้วิจัยได้กำหนดชั้น ซึ่งเป็นประสิทธิภาพของกระบวนการต่อประสิทธิภาพของผลลัพธ์ โดยกำหนดเกณฑ์ไว้ คือ 80/80
ตัวเลข 80 ตัวแรก คือ ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนที่เกิดขึ้นระหว่างเรียน เป็นคะแนนกระบวนการเรียนในบทเรียนย่อย ซึ่งประกอบด้วยคะแนนจากการทำโครงงาน คะแนนนำเสนอโครงงาน และคะแนนจากการสรุปบทเรียน
ตัวเลข 80 ตัวหลัง คือ ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนที่ได้จากบททดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน
3. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้ (Effectiveness Index: E.I.) หมายถึง ค่าตัวเลขที่แสดงความก้าวหน้าของนักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Based Learning: PBL)
4. หลักเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) หมายถึง หลักปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดรวมถึงการพัฒนาและบริหารประเทศ ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ ทางสายกลาง คำนึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจ และการกระทำ 5. นักเรียน หมายถึง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองม่วงวิทยาคาร อำเภอลำทะเมนชัย จังหวัดนครราชสีมา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 7