|
Advertisement
|
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์จากการจัดการเรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบ IMPROVE ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีบทสรุปดังนี้
จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเรื่อง เส้นขนาน โดยวิธีการสอนแบบ IMPROVE ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบ IMPROVE สูงกว่าก่อนเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้ โดยวิธีการสอนแบบ IMPROVE ทั้งนี้อาจเป็นเพราะนักเรียนเข้าใจกระบวนการคิดของตนเอง ขั้นตอนการสอนที่เป็นระบบตั้งแต่การนำเสนอความรู้ใหม่ การถามคำถามที่เน้นการรู้คิด การฝึกปฏิบัติ และการทบทวนแก้ไขข้อผิดพลาด ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้อย่างเข้าใจลึกซึ้งและจดจำได้นาน นอกจากนี้ การเรียนรู้แบบร่วมมือในกลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถแตกต่างกันช่วยเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และมุมมองที่หลากหลาย พร้อมทั้งการได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที เมื่อพบความไม่เข้าใจหรือความสับสน ซึ่งสอดคล้องกับ กุลวงศ์ พุทธสังฆ์ (2563) ที่ได้ศึกษาเรื่อง การพัฒนาความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ เรื่อง เส้นขนาน ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยวิธี IMPROVE ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยวิธี IMPROVE เรื่อง เส้นขนาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 84.09/80.30 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 และความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ของนักเรียน มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งคิดเป็นจำนวนนักเรียนร้อยละ 65.95 ของนักเรียนทั้งหมด สอดคล้องกับ ศุภมาส ทองคำ (2564) ได้ศึกษาเรื่อง การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์และความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์จากการจัดการเรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบ IMPROVE ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์หลังจากการจัดการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้ และสอดคล้องกับ สุกัญญา สีปูน (2563) ได้ศึกษาเรื่อง ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการ IMPROVEร่วมกับการใช้คำถามระดับสูงเพื่อส่งเสริมความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการ IMPROVE ร่วมกับการใช้คำถามระดับสูง มีความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ในภาพรวมและแยกองค์ประกอบย่อย หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ระดับความพึงพอใจของนักเรียนต่อคุณภาพการสอนของครู แยกประเด็นเป็นแต่ละด้าน พบว่า ระดับความพึงพอใจของนักเรียนต่อคุณภาพการสอนของครูหลังได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบ IMPROVE ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ทั้งนี้อาจเป็นเพราะครูมีบุคลิกภาพที่ดี และมีการนำเข้าสู่บทเรียน เพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ซึ่งสอดคล้องกับศุภมาส ทองคำ (2564) ได้ศึกษาเรื่อง การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์และความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์จากการจัดการเรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบ IMPROVE ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต พบว่า ความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนหลังการจัดการเรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบ IMPROVE อยู่ในระดับดีเยี่ยม และสอดคล้องกับ อัจจนา สงจันทร์ (2566) ที่ได้ศึกษาเรื่อง ผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้วิธี IMPROVE ที่มีต่อความสามารถ ในการเชื่อมโยงความรู้ทางคณิตศาสตร์และเจตคติต่อคณิตศาสตร์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ระดับเจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้วิธี IMPROVE อยู่ในระดับมาก
|
โพสต์โดย Nattapong : [19 มี.ค. 2568 (19:12 น.)] อ่าน [59402] ไอพี : 171.4.243.4
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
| |
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
| |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 35,321 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 43,836 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,300 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,066 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,621 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 71,815 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,707 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 105,535 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 2,772 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 24,600 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,975 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 39,800 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,200 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,147 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 22,246 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 10,063 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,712 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 2,203 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,057 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,273 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|