ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

แบบรายงานวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best practice) การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) ที่ส่งเสริมพหุปัญญาของผู้เรียน เรื่องการพัฒนาศักยภาพตามพหุปัญญา โดยใช้รูปแบบ APAC MODEL

แบบรายงานวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best practice) การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) ที่ส่งเสริมพหุปัญญาของผู้เรียน เรื่อง การพัฒนาศักยภาพตามพหุปัญญาโดยใช้รูปแบบ APAC MODEL

กระบวนการ/ขั้นตอนการดำเนินการวิธีและนวัตกรรมที่เป็น Best Practice

แนวทางการดำเนินงานโรงเรียนบ้านน้ำลัด การพัฒนาศักยภาพตามพหุปัญญา โดยใช้รูปแบบ APAC MODEL เพื่อพัฒนาด้านพหุปัญญา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนบ้านน้ำลัด ให้มีผลการพัฒนาด้านพหุปัญญา นำไปสู่โรงเรียนดีมีคุณภาพ ดังนี้

๑. A(Analysis) คือการวิเคราะห์สภาพปัญหา

ผู้บริหารและคณะครูร่วมกันวิเคราะห์สภาพปัญหาจากการติดตามการสำรวจแววความสามารถพิเศษ ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนบ้านน้ำลัด ปีการศึกษา ๒๕๖๗ นั้นพบว่านักเรียนได้ดำเนินการเข้าวัดแววจำนวน ๗๔ คน ปรากฎว่านักเรียนมีผลการวัดแววความสามารถพิเศษ มีผลการประเมินไม่ถึงร้อยละ ๕๐ ทั้งหมด ๓ ด้านดังนี้ ๑) ด้านภาษาซึ่งผ่านการวัดแววน้อยสุด จำนวน ๓๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๓.๒๔ ๒) ด้านคณิตศาสตร์ ผ่านการประเมิน ๓๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๔.๕๙ ๓) ด้านเครื่องกลและอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านการประเมิน ๓๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๗.๓๐ จาการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าว โรงเรียนได้เล็งเห็นความสำคัญ และได้ร่วมกันวางแผนการพัฒนาศักยภาพตามพหุปัญญา โดยใช้รูปแบบ APAC MODEL

๒. P(plan a solution) คือการวางแผนการแก้ปัญหาร่วมกัน

จากการวิเคราะห์สภาพปัญหาดังกล่าว ผู้บริหารและคณะครูจึงร่วมกันวางแผนการจัดการเรียน

การสอนเพื่อพัฒนาด้านพหุปัญญา โดยผู้บริหารได้สนับสนุนและส่งเสริมให้ครูศึกษาข้อมูลเรื่อง แนวทางพัฒนาพหุปัญญาในสถานศึกษา คือ การจัดการเรียนรู้ที่เน้นการส่งเสริมศักยภาพของผู้เรียนในด้านต่างๆ ตามทฤษฎีพหุปัญญาของ Howard Gardner ซึ่งเชื่อว่ามนุษย์มีความฉลาดหลายด้าน ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความฉลาดทางด้านสติปัญญา (IQ) เพียงอย่างเดียว การพัฒนาพหุปัญญาในสถานศึกษาจึงต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนทั้งในส่วนของหลักสูตร วิธีการสอน การวัดและประเมินผล รวมถึงการสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ โดยร่วมกันวางแผนออกแบบการเรียนรู้แนวทางการส่งเสริมความสามารถทางพหุปัญญา ให้แก่นักเรียน ดังนี้

๑) จัดกิจกรรมโดยให้นักเรียนได้เรียนรู้และทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อให้นักเรียนมีความสุขในการร่วมการจัดกิจกรรม อาจจะเป็นกลุ่มใหญ่หรือกลุ่มเล็ก โดย เน้นการเรียนรู้แบบบูรณาการและฝึกความสามารถในด้านต่าง ๆ ให้กับนักเรียน เช่น ความสามารถด้านดนตรี ความสามารถด้านภาษา ความสามารถด้านตรรกะและคณิตศาสตร์ความสามารถด้านการเคลื่อนไหวและ ร่างกาย ความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ความสามารถด้านมนุษย์สัมพันธ์ความสามารถด้านการเข้าใจตนเอง ความสามารถด้านธรรมชาติวิทยา

๒) นักเรียนและครูร่วมกันวางแผนการเรียนรู้ของตนเอง เพื่อเป็นการพัฒนาความสามารถในด้านที่ ตนเองถนัดหรือมีความสามารถพิเศษ

๓) การเรียนรู้ของนักเรียนเกิดจากความต้องการที่ต่อเนื่องจากการเรียนรู้ในเรื่องหนึ่งไปอีกเรื่องหนึ่งที่ นักเรียนสนใจครูควรจะช่วยเหลือหรือให้คำแนะนำ นอกจากนี้อาจจะเกิดจากความต้องการที่จะเรียนรู้ด้วย ตนเอง โดยที่ครูไม่ได้กระตุ้น

๔) เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงออกตามความสามารถที่มีอยู่อย่างเต็มที่ โดยส่งเสริมให้มีการจัดมุม ประสบการณ์สำหรับเด็กได้เลือกทำกิจกรรมที่สนใจ และแสดงความสามารถด้านที่ตนเองถนัดทั้ง ๘ ด้าน

จากการศึกษาแนวทางส่งเสริมความสามารถทางพหุปัญญาให้แก่นักเรียน ดังกล่าวนั้น จึงได้นำรูปแบบ ACACA (เยาวพา เดชะคุปต์ .๒๕๕๑) เป็นรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนา พหุปัญญา โดยมีพื้นฐานจากแนวคิดพหุปัญญาเพื่อการเรียนรู้การจัดประสบการณ์ตามแนวรูปแบบพหุปัญญา เพื่อการเรียนรู้เป็นการดำเนินการตามหลักการ ๕ ขั้น โดยใช้ ACACA ดังนี้

ขั้นที่ ๑ ขั้นการให้ผู้เรียนปฎิบัติกิจกรรมการเรียนรู้อย่างมีชีวิตชีวา (A=Active Learning)

ขั้นที่ ๒ ขั้นการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ในกลุ่มย่อย(C=Cooperation Learning)

ขั้นที่ ๓ ขั้นการวิเคราะห์กิจกรรมการเรียนรู้ (A=Analysis)

ขั้นที่ ๔ ขั้นการสรุปและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง (C=Constructivism)

ขั้นที่ ๕ ขั้นการประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง (A=Application)

๓. A ( Act ) คือการลงมือปฏิบัติ

๑) ส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูศึกษารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนา พหุปัญญา โดยมีพื้นฐานจากแนวคิดพหุปัญญาเพื่อการเรียนรู้การจัดประสบการณ์ตามแนวรูปแบบพหุปัญญา เพื่อการเรียนรู้เป็นการดำเนินการตามหลักการ ๕ ขั้น โดยใช้ ACACA มาใช้ในการดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนา พหุปัญญา ของนักเรียน

ขั้นที่ ๑ ขั้นการให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้อย่างมีชีวิตชีวา (A=Active Learning)

ขั้นที่ ๒ ขั้นการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ในกลุ่มย่อย(C=Cooperation Learning)

ขั้นที่ ๓ ขั้นการวิเคราะห์กิจกรรมการเรียนรู้ (A=Analysis)

ขั้นที่ ๔ ขั้นการสรุปและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง (C=Constructivism)

ขั้นที่ ๕ ขั้นการประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง (A=Application)

๒) ประชุมสร้างความเข้าใจให้กับครูผู้สอนทุกท่าน ในการดำเนินการตามหลักการ ๕ ขั้น โดยใช้ ACACA มาใช้ในการดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนา พหุปัญญา ของนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ตามเทคนิคของแต่ละคน

๓) ส่งเสริมและสนับสนุนให้ครู นำหลักการ ๕ ขั้น ACACA มาใช้ในการดำเนินการจัดกิจกรรม

เพื่อพัฒนา พหุปัญญา ของนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖

๔) สนับสนุนให้ครู จัดทำแฟ้มนักเรียนรายบุคคล

๕) ด้านการเตรียมการสอน

๕.๑) สนับสนุนให้ครู ศึกษาหลักสูตร โครงสร้าง มาตรฐาน ตัวชี้วัด แต่ละรายวิชา เพื่อให้สอดคล้องการจัดการเรียนการสอน ในขั้นตอน ๕ ขั้น ACACA

๕.๒) สนับสนุนให้ครู จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้และบันทึกผลหลังสอนทุกครั้ง

๕.๓) ส่งเสริมสนับสนุนให้ครู เตรียมสื่อการเรียนการสอน โดยการสนับสนุนงบประมาณในการจัดทำสื่อการเรียนการสอน

๕.๔) ส่งเสริมสนับสนุนให้ครูจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาพหุปัญญา ให้กับนักเรียน

๕.๕) สนับสนุนงบประมาณในการจัดทำแบบฝึก/ใบงาน เพื่อพัฒนาพหุปัญญา ให้กับนักเรียนของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ - ประถมศึกษาปีที่ ๖

๖) ส่งเสริมสนับสนุนให้ครูนำแบบฝึก/ใบงาน ไปใช้กับนักเรียน ตามขั้นตอน ๕ ขั้น ACACA ดังนี้

ขั้นที่ ๑ ขั้นการให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้อย่างมีชีวิตชีวา (A=Active Learning)

ขั้นที่ ๒ ขั้นการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ในกลุ่มย่อย(C=Cooperation Learning)

ขั้นที่ ๓ ขั้นการวิเคราะห์กิจกรรมการเรียนรู้ (A=Analysis)

ขั้นที่ ๔ ขั้นการสรุปและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง (C=Constructivism)

ขั้นที่ ๕ ขั้นการประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง (A=Application)

๔. C (Check and evaluation) คือการนิเทศ ติดตาม ประเมินผล

เมื่อครูได้นำ ขั้นตอนการดำเนินการตามหลักการ ๕ ขั้น โดยใช้ ACACA มาใช้ในการดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนา พหุปัญญา ของนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ตามเทคนิคของแต่ละคนไปปฏิบัติแล้ว ผู้บริหาร นิเทศ ติดตาม ประเมินผล เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน และให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเพื่อเสริมแรงในการทำงาน

๔. ผลการดำเนิน/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่ได้รับ

๔.๑ ผลการดำเนินงาน

๑. จากผลการนำการพัฒนาศักยภาพตามพหุปัญญา โดยใช้รูปแบบ APAC MODEL มาพัฒนา

ความสามารถพิเศษพหุปัญญาของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ทั้ง ๘ ด้านนั้น พร้อมส่งเสริมให้นักเรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ทางโรงเรียนจัดให้ เช่น กิจกรรมตามโครงการเศรษฐกิจพอเพียง โครงการพัฒนาคุณภาพภาพการศึกษาสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ โครงการโรงเรียนวิถีพุทธ โครงการส่งเสริมทักษะด้านกีฬา โครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข โครงการส่งเสริมทักษะ ๑ ชั้น ๑ อาชีพ โครงการส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียน นักเรียนมีทักษะในการใช้ชีวิต และสามารถมารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างดียิ่งและมีความสุขในการเรียนรู้ ส่งผลให้นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนบ้านน้ำลัด มีผลการพัฒนาพหุปัญญาทั้ง ๘ ด้านดังนี้

๑) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

๒) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ มีผลการประเมิน การทดสอบความสามารถพื้นฐานของ

ผู้เรียนระดับชาติ (National Test : NT) ปีการศึกษา ๒๕๖๗ สูงกว่าปีการศึกษา ๒๕๖๖

๓) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มีผลการทดสอบทางการศึกษารับระดับชาติขั้นพื้นฐาน

(O-NET)ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ปีการศึกษา ๒๕๖๗ สูงกว่าระดับประเทศ และสูงกว่าปีการศึกษา ๒๕๖๖

๔) นักเรียนโรงเรียนบ้านน้ำลัด มีผลการเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน และผลการ

ประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ปีการศึกษา ๒๕๖๗ ผ่านเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับดีเยี่ยม

๔.๒ ประโยชน์ที่ได้รับ

๑) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ - ๖ โรงเรียนบ้านน้ำลัด ได้รับการพัฒนาโดยใช้รูปแบบ APAC MODEL

๒) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ - ๖ โรงเรียนบ้านน้ำลัด ได้รับการพัฒนา ความสามารถพิเศษพหุปัญญาทั้ง ๘ ด้าน

๓) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ - ๖ โรงเรียนบ้านน้ำลัดมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น และมีทักษะในการใช้ชีวิต และสามารถมารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างดียิ่ง และมีความสุขในการเรียนรู้

๕. ปัจจัยความสำเร็จ

๑) ข้าราชการครูและบุคลกรทางการศึกษาโรงเรียนบ้านน้ำลัด ร่วมวางแผนและขับเคลื่อนการ

ดำเนินงาน ตามรูปแบบ APAC MODEL

๒) คณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านน้ำลัด ให้การสนับสนุนส่งเสริมการดำเนินงานตาม

โครงการกิจกรรมของโรงเรียน

๓) นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบ้านน้ำลัด ให้ความร่วมมือในการดำเนินการตาม

กิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางโรงเรียนดำเนินการจัดขึ้น

๔) ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ในตำบลพุทธบาท อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมส่งเสริม

พร้อมสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการจัดกิจกรรมภายในโรงเรียน

๕) ผู้บริหาร กลุ่มเพชรชนแดน ส่งเสริมความร่วมมือในการดำเนินการจัดกิจกรรมร่วมกัน

๖) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์เขต ๑ ส่งเสริมสนับสนุนพร้อมให้ความรู้

กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

๖. บทเรียนที่ได้รับ

๖.๑ ข้อสรุปและข้อสังเกตในการดำเนินงาน

จากการดำเนินการพัฒนาศักยภาพตามพหุปัญญา โดยใช้รูปแบบ APAC MODEL เพื่อพัฒนาด้านพหุปัญญา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โดยนำหลักการ ๕ ขั้น ACACA มาเป็นขั้นตอนในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน หรือกิจกรรมที่ส่งเสริมด้านการพัฒนาพหุปัญญานั้น พบว่า

๑) ในการนำขั้นตอนการจัดกิจกรรมไปใช้ในการดำเนินการทั้ง ๕ ขั้นตอน มาใช้ในการจัด

กิจกรรม ครูผู้สอนยังขาดความเข้าใจในการดำเนินการจัดกิจกรรมทั้ง ๕ ขั้นตอน

๒) นักเรียนมีความพร้อม ในการพัฒนาความสามารถพิเศษพหุปัญญาที่แตกต่างกัน

ครูผู้สอนควรออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาพหุปัญญา ที่หลากหลายตามความเหมาะสมและความามารถของนักเรียนแต่ละคน

๓) การจัดหาสื่อการเรียนการสอนให้สอดคล้องในการดำเนินงานตามหลักการ ๕ ขั้นตอนยัง

ขาดความหลากหลาย

๔) ควรให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ตาม ๕ ขั้นตอนเพื่อสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง และ

เพื่อให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ต่อไป

๖.๒ ข้อเสนอแนะ และข้อควรระวัง แนวทางในการนำผลงานไปใช้

๑) ครูผู้สอนควรวางแผนการดำเนินงาน และศึกษาแนวทางการดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ตามหลักการ ๕ ขั้นให้ชัดเจน เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เกิดประสิทธิภาพในการพัฒนาความสามารถพหุปัญญาทั้ง ๘ ด้านของนักเรียน

๒) ครูผู้สอนควรวางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ที่หลากหลายตามความสามารถของนักเรียนแต่ละคน

๓) ครูผู้สอนควรจัดหาสื่อการเรียนรู้ หรือสื่อในการจัดกิจกรรมที่หลากหลายให้สอดคล้อง ตามหลัก ๕ ขั้นตอน

๔) ควรรูปแบบการจัดกิจกรรมเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้จากสถานการณ์จริง และสามารถลงมือปฏิบัติได้จริงเพื่อให้นักเรียนได้เกิดองค์ความรู้ และสามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันต่อไป

๖.๓ แนวทางการพัฒนาให้ประสบความสำเร็จ

๑) ส่งเสริมการให้ความรู้กับคุณครู ในการนำรูปแบบ APAC MODEL เพื่อพัฒนาด้านพหุปัญญา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โดยนำหลักการ ๕ ขั้น ACACA ไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อให้นักเรียนเกิดการพัฒนาความสามารถ ด้านพหุปัญญาทั้ง ๘ ด้าน

๒) ส่งเสริมในการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยการนำปัญหา ที่เกิดขึ้นในการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาพหุปัญญาให้กับนักเรียน มาร่วมกันหาวิธีการแก้ปัญหา เพื่อนำไปพัฒนาความสามารถพิเศษ ด้านพหุปัญญาของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ต่อไป

โพสต์โดย Parichat : [19 มิ.ย. 2568 (10:20 น.)]
อ่าน [58348] ไอพี : 1.10.214.202
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,955 ครั้ง
มากกว่า Like! เฟซบุ๊กเตรียมเปิดตัวปุ่ม "Want" เร็ว ๆ นี้
มากกว่า Like! เฟซบุ๊กเตรียมเปิดตัวปุ่ม "Want" เร็ว ๆ นี้

เปิดอ่าน 150,175 ครั้ง
ความหมายของครู
ความหมายของครู

เปิดอ่าน 11,658 ครั้ง
"IAU" ประกาศ 106 ชื่อดาวเคราะห์น้อยล่าสุด หนึ่งในนั้นมีชื่อ "คนไทย"
"IAU" ประกาศ 106 ชื่อดาวเคราะห์น้อยล่าสุด หนึ่งในนั้นมีชื่อ "คนไทย"

เปิดอ่าน 989 ครั้ง
เปิด 5 เทคนิคใหม่ของนักการตลาดโซเชียลยุค 2025 ที่คุณต้องลอง!
เปิด 5 เทคนิคใหม่ของนักการตลาดโซเชียลยุค 2025 ที่คุณต้องลอง!

เปิดอ่าน 35,331 ครั้ง
คู่มือการจัดทำแผนชั้นเรียนรายปีและแผนชั้นเรียนเต็มรูปของสถานศึกษา สังกัด สพฐ.
คู่มือการจัดทำแผนชั้นเรียนรายปีและแผนชั้นเรียนเต็มรูปของสถานศึกษา สังกัด สพฐ.

เปิดอ่าน 2,880 ครั้ง
50 คำถาม ที่ทำให้คุณหัวเราะได้แน่นอน
50 คำถาม ที่ทำให้คุณหัวเราะได้แน่นอน

เปิดอ่าน 5,219 ครั้ง
พฤติกรรมที่ทำให้หน้าแก่เร็ว
พฤติกรรมที่ทำให้หน้าแก่เร็ว

เปิดอ่าน 12,558 ครั้ง
แม่ยุคใหม่ ที่ลูกต้องการ
แม่ยุคใหม่ ที่ลูกต้องการ

เปิดอ่าน 11,307 ครั้ง
ใช้ มือถือ ขณะฝนฟ้าคะนอง จะมีโอกาสโดนฟ้าผ่าได้หรือไม่?
ใช้ มือถือ ขณะฝนฟ้าคะนอง จะมีโอกาสโดนฟ้าผ่าได้หรือไม่?

เปิดอ่าน 8,254 ครั้ง
จุดยืนของ มหาวิทยาลัยราชภัฏ
จุดยืนของ มหาวิทยาลัยราชภัฏ

เปิดอ่าน 13,885 ครั้ง
แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2558 ของกระทรวงศึกษาธิการ
แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2558 ของกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 21,082 ครั้ง
ตู้เก็บของจำเป็นต้องมีสำหรับโรงเรียนบ้านนอกหรือไม่
ตู้เก็บของจำเป็นต้องมีสำหรับโรงเรียนบ้านนอกหรือไม่

เปิดอ่าน 32,681 ครั้ง
การจัดลำดับอาวุโสในราชการ
การจัดลำดับอาวุโสในราชการ

เปิดอ่าน 16,752 ครั้ง
ไปรษณีย์ไทย เเจ้ง ส่งไปรษณีย์ต้องแสดงบัตรประชาชน เริ่ม 8เม.ย.นี้
ไปรษณีย์ไทย เเจ้ง ส่งไปรษณีย์ต้องแสดงบัตรประชาชน เริ่ม 8เม.ย.นี้

เปิดอ่าน 50,607 ครั้ง
เรื่องของเลนส์
เรื่องของเลนส์

เปิดอ่าน 37,566 ครั้ง
ผลศึกษา45ผักพื้นบ้าน ต้านมะเร็ง-กินแล้วไม่อ้วน
ผลศึกษา45ผักพื้นบ้าน ต้านมะเร็ง-กินแล้วไม่อ้วน
เปิดอ่าน 60,762 ครั้ง
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
เปิดอ่าน 19,378 ครั้ง
โรคมะเร็งจอประสาทตา (Retinoblastoma)
โรคมะเร็งจอประสาทตา (Retinoblastoma)
เปิดอ่าน 26,011 ครั้ง
มอบอำนาจให้ รอง กพฐ.ทำสัญญาการผ่อนชำระหนี้ รับสภาพหนี้ การดำเนินคดีฯ
มอบอำนาจให้ รอง กพฐ.ทำสัญญาการผ่อนชำระหนี้ รับสภาพหนี้ การดำเนินคดีฯ
เปิดอ่าน 17,237 ครั้ง
ถั่วเขียวขจัดรอยด่างดำ
ถั่วเขียวขจัดรอยด่างดำ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ