แบบรายงานผลการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)
ประเภท ผู้ขับเคลื่อนระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
(OBEC Content Center) สถานศึกษา
โครงการผลิตสื่อนวัตกรรม
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
ชื่อผลงาน การบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล
(OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
ชื่อสถานศึกษา โรงเรียนบ้านบุกระสัง
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3
1. ความเป็นมาและความสำคัญ
1.1 การวิเคราะห์สภาพปัญหาและความต้องการที่นำไปสู่การใช้ระบบ OBEC Content Center
กระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายด้านการพลิกโฉมระบบการศึกษาไทยด้วยการนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการจัดการศึกษาทุกระดับการศึกษา เพื่อให้สถาบันการศึกษาทุกแห่งนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ ทันสมัยมาใช้ในการจัดการศึกษาผ่านระบบดิจิทัล การจัดการเรียนรู้ แบบ "Anywhere Anytime" หรือ "เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา" ที่มุ่งเน้นการขยายโอกาสทางการศึกษาให้ครอบคลุมผู้เรียนทุกระดับ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือสำคัญ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงแหล่งเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้จัดทำระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBEC Content Center) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่เป็นชุดโปรแกรมรวบรวม เนื้อหาใน 4 ประเภทเนื้อหา ได้แก่ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ แอปพลิเคชัน วีดิทัศน์ เสียง ภาพ ข้อสอบ เทมเพลต และมัลติมีเดีย รองรับการค้นหาและการกรองเนื้อหาตามหมวดหมู่เนื้อหาอิเล็กทรอนิกส์ ทั้ง 3 หมวดหมู่ ได้แก่ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ระดับชั้น และระบบทศนิยมดิวอี้ โดยเผยแพร่ให้กับผู้เรียน ครูผู้สอน บุคลากรทางการศึกษา และประชาชนผู้สนใจทั่วไป สามารถเข้าถึงการใช้งานเนื้อหาต่าง ๆ โดยใช้ได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วน บุคคล (Personal Computer) และเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา (Mobile Devices) สำหรับการเรียนรู ้ได้ ทุกที่ ทุกเวลา ใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนในห้องเรียน หรือเรียนรู้จากที่บ้านด้วยการใช้สื่อเทคโนโลยีดิจิทัล เป็นเครื่องมือทั้งระบบ Online และ Offline
กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ได้กำหนดเป้าหมายและยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของคนและสังคมไทยให้เป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของประเทศให้มีความพร้อม มีทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล หากจะพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวต้องอาศัยผู้สอนที่มีทักษะในการจัดการเรียนรู้ มีเจตคติต่อวิชาชีพครูที่ดีมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์สูง แนวทางหนึ่งที่สามารถนำมาใช้เพื่อส่งเสริมความเป็นมืออาชีพ และส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกคือ การสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) ซึ่งเป็นกระบวนการสร้างการเปลี่ยนแปลงโดยเรียนรู้จากการปฏิบัติงานของกลุ่มบุคคลที่มารวมตัวกันเพื่อทำงานร่วมกัน และสนับสนุนซึ่งกันและกัน
โรงเรียนบ้านบุกระสัง เป็นโรงเรียนขยายโอกาสและเป็นสถานศึกษาขนาดกลาง เปิดการเรียนการสอนระดับชั้นอนุบาล 2 ถึง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีจำนวนนักเรียน 269 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 18 คน จากการวิเคราะห์ สังเคราะห์ โรงเรียนด้วยกระบวนการ SWOT Analysis ผลจากการประเมินคุณภาพภายนอกของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ) จากการประเมินตนเอง SAR ประจำปีการศึกษา 2567 และการนิเทศชั้นเรียน พบว่า ครูผู้สอนใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนเชิงรุกในชั้นเรียน ค่อนข้างน้อย ทำให้การจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนขาดประสิทธิภาพในการจัดการเรียนการสอน จากปัญหาดังกล่าวโรงเรียนบ้านบุกระสังร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายจึงได้ จัดให้นำนโยบายเข้าสู่การปฏิบัติผ่านแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา จัดมีโครงการ กิจกรรม การใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ดังนั้นทางโรงเรียนจึงดำเนินการใช้โครงการผลิตสื่อนวัตกรรมขึ้นให้เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของครูผู้สอน นักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน และสภาพปัญหาอันจะนำไปสู่การยกระดับการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนากระบวนการจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา
1.2 การกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ชัดเจนสอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
การบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
1. เพื่อส่งเสริมการนำนโยบายขับเคลื่อนระบบ OBEC Content Center ระดับสถานศึกษา
2. เพื่อส่งเสริมให้ครูผู้สอนสามารถการใช้สื่อ ผลิตสื่อการเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center
3. เพื่อส่งเสริมการบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
เป้าหมายเชิงผลผลิต (Output)
เชิงปริมาณ
1. ร้อยละ 100 ของครูผู้สอน มีความรู้ ความสามารถการเข้าใช้ระบบ OBEC Content Center เพื่อจัดการเรียนรู้เชิงรุก
2. ร้อยละ 100 ของครูผู้สอน ผลิตสื่อการเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้าสู่ระบบ OBEC Content Center เพื่อจัดการเรียนรู้เชิงรุก
3. ร้อยละ 100 ของผู้บริหาร ครูผู้สอนใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
เชิงคุณภาพ
1. ครูผู้สอนสามารถใช้ระบบ OBEC Content Center เพื่อจัดการเรียนรู้เชิงรุกอย่างมี ประสิทธิภาพ
2. ครูผู้สอนสามารถผลิตสื่อการเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center เพื่อประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกอย่างมีคุณภาพ
3. ผู้บริหาร ครูผู้สอนใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
เป้าหมายเชิงผลลัพธ์ (Outcome)
1. ผู้บริหาร ครูผู้สอน นักเรียน ชุมชนมีส่วนร่วมในการดำเนินการขับเคลื่อน ระบบ OBEC Content Center ทั้งในรูปแบบ Online และ Onsite
2. เพิ่มประสิทธิภาพการเรียนเชิงรุกด้วยระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยให้ครูและนักเรียน สามารถเข้าถึงสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลายและมีคุณภาพ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกระบวนการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. สร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการเรียนรู้ที่ยั่งยืน การใช้ระบบคลังสื่อดิจิทัลจะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) โดยนักเรียนและครูสามารถเข้าถึงข้อมูลและสื่อการเรียนรู้ได้ตลอดเวลาและจากทุกที่
4. การสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษา ระบบคลังสื่อดิจิทัลจะช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อการ เรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใด ทำให้ลดช่องว่างทางการศึกษา
2. การพัฒนาแนวทางและการขับเคลื่อนระบบ OBEC Content Center
รูปแบบหรือโมเดลของสถานศึกษาในการขับเคลื่อน
โรงเรียนบ้านบุกระสัง ได้มี รูปแบการบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ดังนี้
การบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยแบ่งเป็นระยะรอบศึกษาดังนี้
ขั้นที่ 1 การวางแผน (Planning) เป็นการรวมกลุ่มดำเนินงานร่วมกันของผู้บริหารและครูผู้สอนร่วมกันวางแผนนำการบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกไปใช้ ร่วมกันการสร้างความตระหนัก สร้างความเข้าใจร่วมกัน ร่วมกันวิเคราะห์ข้อดีและข้อควรพึงระวัง ร่วมหาแนวทางการดำเนินงาน ร่วมวางแผนดำเนินงาน ร่วมกำหนดปฏิทินการดำเนินงาน
ขั้นที่ 2 การปฏิบัติการ (Action) เป็นการรวมกลุ่มดำเนินงานร่วมกันของผู้บริหารและครูผู้สอนร่วมกันดำเนินการตามแผนการดำเนินงานการบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ตามปฏิทินดำเนิน
ขั้นที่ 3 การสังเกตการณ์ (Observation) เป็นการรวมกลุ่มดำเนินงานร่วมกันของผู้บริหารและครูผู้สอนร่วมกันเข้าร่วมสังเกตการณ์การบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ร่วมกันนิเทศติดตามการดำเนินงาน ร่วมให้คำแนะนำ แก้ปัญหากิจกรรมที่ติดขัด
ขั้นที่ 4 การสะท้อนผล (Reflection) เป็นการรวมกลุ่มดำเนินงานร่วมกันของผู้บริหารและครูผู้สอนร่วมกันการสะท้อนกลับการบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก เป็นการนำข้อมูลจากขั้นที่ 3 ขั้นตอนการสังเกตการณ์ (Observation) มาส่งเสริม ปรับเปลี่ยนในการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเป็นข้อมูลในการสะท้อนผลย้อนกับในการแก้ไปปรับปรุงการบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ให้ดียิ่งขึ้นในรอบปีการศึกษาถัดไป
การบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก หมายถึง การรวมกลุ่มดำเนินงานร่วมกันของผู้บริหารและครูผู้สอนเพื่อพัฒนาครูให้มีความรู้ ทักษะ ความสามารถการจัดการเรียนตามกระบวนการ ผลิตสื่อ นวัตกรรม ใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) และการวัดและประเมิน ให้บรรลุตามต้องการศึกษาในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยผ่านกระบวนการ ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ดังนี้
1. การปฏิบัติที่มีเป้าหมายร่วมกัน หมายถึง การดำเนินงานร่วมกันของผู้บริหารและครูในการเป็นทีมที่ได้เปิดรับการเรียนรู้ร่วมกัน จากเพื่อนครูที่เข้ามามีบทบาทในการทำงาน เพื่อกำหนดเป้าหมายในปัญหาที่ควรแก้ไขหรือพัฒนาที่สามารถดำเนินการได้ เป็นเป้าหมายย่อยๆ เป็นเหมือนขั้นบันไดที่ก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จของภาพรวมใหญ่ จะเป็นก้าวเป้าหมายย่อยร่วมกันที่ทุกคนจะสร้างความสำเร็จร่วมกัน
2. การร่วมมือรวมพลังของทีม หมายถึง การดำเนินงานร่วมกันของผู้บริหารและครู ในการทำงานและสร้างพลังในการเรียนรู้ บนพื้นฐานความสมัครใจร่วมกัน ซึ่งเป็นทีมที่มีเป้าหมายในการแก้หรือพัฒนาไปในเรื่องเดียวกัน เป็นกลุ่มย่อยที่สมัครใจร่วมทำงานในทีมเดียวกัน โดยร่วมการแสวงหาความรู้
3. การเปิดรับการชี้แนะการปฏิบัติงาน หมายถึง การดำเนินงานร่วมกันของผู้บริหารและครู ในการเปิดใจกว้าง รับฟังความรู้ สร้างองค์ความรู้ การเรียนรู้บนความเข้าใจ จากผู้เชี่ยวชาญ นักการศึกษา ศึกษานิเทศก์ โดยมีขั้นตอน 2 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 การพัฒนาแผนจัดการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อ การวัดผล ประเมินผล มีการร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในผลการปฏิบัติงาน และการจัดการเรียนรู้เชิงรุก จากประสบการณ์ ร่วมเสนอแผนจัดการเรียนรู้ ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ สื่อ นวัตกรรม คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) เทคนิคการการสอน การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แล้วผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ คณะครูเสนอแนะแผนจัดการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อ การวัดผลประเมินผลให้กับครูผู้สอนก่อนนำไปใช้สอน
ขั้นตอนที่ 2 การนำแผนจัดการเรียนรู้ปฏิบัติจริงในการจัดการเรียนการสอนซึ่งเป็นการศึกษาชั้นเรียนหรือมีการเยี่ยมชมการปฏิบัติงานจริงในห้องเรียน ในการจัดการเรียนการสอนในสภาพจริงเพื่อศึกษาว่าการใช้แผนจัดการเรียนรู้ ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ สื่อ นวัตกรรม เทคนิคการการสอน การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ บุคลิกภาพ บรรยายกาศมีความเหมาะสมกระตุ้นในการเรียนรู้
4. การสนทนาที่มุ่งสะท้อนผลการปฏิบัติงาน หมายถึง การดำเนินงานร่วมกันของผู้บริหารและครู ในการสะท้อนการเรียนรู้เกี่ยวกับประเด็นปัญหาต่างๆ ในการจัดการเรียนรู้ โดยมีขั้นตอน 2 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 การร่วมรับฟังความคิดเห็นจากผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ คณะครูผู้สอนที่มาศึกษาชั้นเรียนหรือเยี่ยมชมชั้นเรียน หรือร่วมรับชม เข้าร่วมสังเกตการสอน เป็นการสื่อสารสองทาง ระหว่างครูผู้สอนกับผู้เยี่ยมชมชั้นเรียน เป็นการชี้แนะความรู้ ทักษะ ทัศนคติ เพื่อนำข้อมูลหรือแนวความคิดที่ได้ ไปปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ด้วยสุนทรียสนทนา การเรียนรู้มีความเกื้อกูลแบบครอบครัว
ขั้นตอนที่ 2 การนำผลสะท้อนแก้ไขข้อบกพร่องในการปฏิบัติงาน ตามการแก้ไขปัญหาตามความจำเป็น โดยรวมกลุ่มกันตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ ระดับชั้นเรียน และระดับโรงเรียน ฝึกฝนทักษะความรู้ความสามารถ
5. การมีภาวะผู้นำร่วม หมายถึง การดำเนินงานร่วมกันของผู้บริหารและครู ในการเป็นผู้นำที่สามารถทำให้สมาชิกในชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเกิดการเรียนรู้ เป็นต้นแบบให้สมาชิกพร้อมเรียนรู้ตาม พัฒนาตนเอง และปรับเปลี่ยนสมาชิกสามารถเป็นผู้นำร่วม
6. โครงสร้างสนับสนุนชุมชน หมายถึง การดำเนินงานร่วมกันของผู้บริหารและครูในการมีชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ด้วยคำสั่งหรือระเบียบกฎเกณฑ์ที่เอื้ออำนวยต่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สนับสนุนการก่อเกิดและคงอยู่ของชุมชนแห่งการเรียนรู้ การจัดสรรปัจจัยสนับสนุนให้เอื้อต่อการดำเนินการของชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
3. ผลการดำเนินงานการขับเคลื่อนระบบ OBEC Content Center
7.1 หลักฐานเชิงประจักษ์แสดงผลการดำเนินงาน
เป้าหมายเชิงผลผลิต (Output)
เชิงปริมาณ
1. ครูผู้สอน มีความรู้ ความสามารถการเข้าใช้ระบบ OBEC Content Center เพื่อจัดการเรียนรู้เชิงรุก
โรงเรียนบ้านบุกระสังได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของครูผู้สอนทุกคนในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยโรงเรียนบ้านบุกระสัง ได้จัดกิจกรรม อบรมเชิงปฏิบัติการ "การใช้ระบบ OBEC Content Center เพื่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุก" เน้นการฝึกปฏิบัติจริงเกี่ยวกับการสืบค้น การเข้าถึง และการดาวน์โหลดสื่อจากระบบอย่างละเอียด
จากการประเมินผลและติดตามการใช้งาน พบว่า ครูผู้สอน โรงเรียนบ้านบุกระสัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 มีความรู้ ความสามารถการเข้าใช้ระบบ OBEC Content Center มีการเข้าใช้งานอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอเพื่อจัดการเรียนรู้เชิงรุก คิดเป็น ร้อยละ 100
2. ครูผู้สอน ผลิตสื่อการเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้าสู่ระบบ OBEC Content Center เพื่อจัดการเรียนรู้เชิงรุก และผลิตสื่อนวัตกรรมลงในระบบ OBEC Content Center
จากการดำเนินงานพัฒนาและสนับสนุนอย่างเข้มข้น พบว่าครูผู้สอน โรงเรียนบ้านบุกระสัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้ครูผู้สอนเป็นผู้สร้างสรรค์และผลิตสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลที่มีคุณภาพ และผลิตสื่อการเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัลนำเข้าสู่ระบบ OBEC Content Center เพื่อจัดการเรียนรู้เชิงรุก รวมทั้งสิ้น 20 ชิ้น คิดเป็นผู้สร้างสื่อ ร้อยละ 100 ของครูผู้สอนทั้งหมด
ตารางจำนวนครูโรงเรียนบ้านบุกระสังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 ลงในระบบ OBEC Content Center
ปีการศึกษา ประเภทครูผู้ใช้สื่อ ประเภทครูผู้สร้างสื่อ
2567 17 17
2568 17 17
3. ผู้บริหาร ครูผู้สอนใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
ผู้บริหารและครูผู้สอนโรงเรียนบ้านบุกระสังได้ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เป็นกลไกสำคัญในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และส่งเสริมการใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลจาก OBEC Content Center เพื่อยกระดับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
จากการดำเนินงานส่งเสริมกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ PLC อย่างต่อเนื่องอย่างเป็นระบบ พบว่า ผู้บริหาร ครูผู้สอน โรงเรียนบ้านบุกระสัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3
ใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก คิดเป็น ร้อยละ 100
เชิงคุณภาพ
1. ครูผู้สอน สามารถใช้ระบบ OBEC Content Center เพื่อจัดการเรียนรู้เชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพ
จากการ ดำเนินการ นำคลังสื่อ OBEC Content Center เพื่อยกระดับห้องเรียนสู่การเรียนรู้เชิงรุกขั้นสูง และการนิเทศภายในอย่างสม่ำเสมอ พบว่าครูผู้สอนของโรงเรียนบ้านบุกระสังสามารถใช้ระบบ OBEC Content Center เพื่อจัดการเรียนรู้เชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับ "ยอดเยี่ยม"
และจากผลการประเมินแสดงให้เห็นว่าครูผู้สอนมีความสามารถโดดเด่นในการ เลือกสรรสื่อ จากคลัง OBEC Content Center ที่ตรงตามวัตถุประสงค์และบริบทของผู้เรียนได้อย่างแม่นยำ รวมถึงการ บูรณาการสื่อ เข้ากับกิจกรรม Active Learning ได้อย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติ ซึ่งช่วย กระตุ้นความสนใจ และ การมีส่วนร่วมของนักเรียน ได้อย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้น ผลสำรวจจากนักเรียนยังสะท้อนว่าสื่อที่ครูนำมาใช้ช่วยให้พวกเขาเข้าใจบทเรียนและสนุกกับการเรียนรู้มากขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
2. ครูผู้สอน สามารถผลิตสื่อการเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center เพื่อประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกอย่างมีคุณภาพ
จากการที่ครูผู้สอนนำคลังสื่อดิจิทัล OBEC Content Center ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ผลการดำเนินงานแสดงให้พบว่าสื่อการเรียนรู้ที่ครูผู้สอนผลิตขึ้นมี คุณภาพสูง เป็นที่น่าพอใจ โดยเน้นที่ความถูกต้องของเนื้อหาทางวิชาการ ความเหมาะสมกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก และคุณภาพด้านเทคนิคและการออกแบบที่น่าสนใจ สื่อเหล่านี้ช่วยเสริมให้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกมีความหลากหลายและน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับนักเรียน
3. ผู้บริหาร ครูผู้สอนใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
ผู้บริหาร และครูผู้สอนใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อส่งเสริมการใช้คลังสื่อดิจิทัล OBEC Content Center อย่างสม่ำเสมอ และการจัดทำคลังนวัตกรรมและ Best Practice แสดงให้เห็นว่ากระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิผลสูงในการพัฒนาครูผู้สอน ให้สามารถจัดการเรียนรู้เชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้บริหารและครูผู้สอนได้ร่วมกันวิเคราะห์ แลกเปลี่ยน และสะท้อนผลการนำสื่อไปใช้ในห้องเรียน ก่อให้เกิดแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) และนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่ใช้สื่อดิจิทัลได้อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับการใช้ OBEC Content Center แต่ยังสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ร่วมกันและการพัฒนาวิชาชีพอย่างยั่งยืนในโรงเรียน
3.2 สถิติการใช้งานระบบของครูและบุคลากรทางการศึกษา
3.3 สถิติการใช้งานระบบของผู้เรียนทะเบียนสมาชิกระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน(OBEC Content Center)
โรงเรียนบ้านบุกระสัง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 3
นักเรียนชั้น : มัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 41 คน
ครูที่ปรึกษา : 1) นางสาวพาชื่น เพ็งประโคน 2) นางสาวพันวษา คลังกูล
เลขที่ ชื่อ-สกุล ทะเบียนสมาชิก
1
ด.ญ. อัญรินทร์ นามหล่า
2
ด.ช. เกริกชัย ดีด้วยชาติ
3 ด.ญ. วรันธร นานอก
4 ด.ญ.อังคณา นามเหล่า
3.4 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหรือการพัฒนาทักษะของผู้เรียนที่สอดคล้องกับสื่อ
การนำสื่อการเรียนรู้จากระบบ OBEC Content Center มาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของโรงเรียนบ้านบุกระสัง ได้ส่งผลเชิงบวกโดยตรงต่อ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการพัฒนาทักษะที่สำคัญของผู้เรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายวิชาและกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่มีการใช้สื่อจากระบบ OBEC Content Center อย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพ ดังแผนภาพต่อไปนี้
1. ผลการประเมินคุณภาพนักเรียน (RT) ปีการศึกษา 2566 2567
2. ผลการประเมินคุณภาพนักเรียน (NT) ปีการศึกษา 2566 2567
4. ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (O-NET) ปีการศึกษา 2566 - 2567
5. ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (O-NET) ปีการศึกษา 2566 - 2567
จากการติดตามและประเมินผลอย่างเป็นระบบ โรงเรียนพบว่า ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นรวมทั้งผลสัมฤทธิ์ในระดับชาติ NT,RTและO-NET โดยเฉพาะในรายวิชา ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษมี ผลต่างที่เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษาก่อนหน้า และในหลายวิชามีค่าเฉลี่ยสูงกว่าระดับประเทศ ในประเด็นเนื้อหาหรือหน่วยการเรียนรู้ที่ครูผู้สอนได้บูรณาการสื่อจาก OBEC Content Center เข้าไปในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผู้เรียนแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในแนวคิดที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น สามารถเชื่อมโยงองค์ความรู้ได้หลากหลายมิติ และมีความสามารถในการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลจากสื่อที่ได้รับ
4.5 ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ผลของการประเมินความพึงพอใจของครูผู้สอนและนักเรียนจากการใช้การบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก จากครู จำนวน 18 คน นักเรียน 44 คน โดยการสุ่มแบบช่วงชั้น
รายการประเมิน คะแนน
S.D. แปลผล
1. การใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก เร้าหรือกระตุ้นความสนใจ ให้เกิดการใฝ่รู้กับผู้เรียน 4.51 0.76 มาก
2. การใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ง่ายสามารถให้นักเรียนเข้าแหล่งความและสื่อได้ง่าย 4.53 0.64 มาก
3. การใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์ตรงแก่นักเรียน 4.66 0.53 มาก
4. การใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ /กระตุ้นกระบวนการคิดของผู้เรียน 4.48 0.69 มาก
5. การใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกช่วยให้ผู้เรียนสรุปความคิดรวบยอดในเรื่องที่เรียนได้ถูกต้อง 4.55 0.49 มาก
6. การใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกมีความทันสมัยแปลกใหม่แตกต่างไปจากการเรียนปรกติ 4.50 0.67 มาก
โดยรวม 4.52 0.14 มาก
พบว่า ของการประเมินความพึงพอใจของครูผู้สอนและนักเรียนจากการใช้การบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยรวมอยู่ระดับมากที่สุด ( = 4.52) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้ออยู่ระดับมากทุกข้อ โดยข้อที่ 3 การใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์ตรงแก่นักเรียน ( = 4.66) มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาข้อที่ 5 การใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกช่วยให้ผู้เรียนสรุปความคิดรวบยอดในเรื่องที่เรียนได้ถูกต้อง ( = 4.55) และข้อที่ 2 การใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ง่ายสามารถให้นักเรียนเข้าแหล่งความและสื่อได้ง่าย ( = 4.53)
ซึ่งเกิดจากการที่ครูผู้สอนได้ใช้สื่อ ผลิตสื่อจากคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ที่มีความหลากหลาย มาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ครูสามารถเหลือกสื่อที่เหมาะสมกับช่วงวัยนักเรียนและมีความหลากหลายในการนำเสนอให้ความรู้ ทำให้นักเรียนเกิดความสนใจ นักเรียนสามารถเลือกใช้สื่อที่ส่งผลเรียนรู้ได้ทุกที่ ตลอดเวลา โดยผู้ปกครองมีส่วนในการช่วยการเรียนรู้ได้ด้วย มีความหลากหลายที่จะให้นักเรียนรู้ความรู้ที่นักเรียนต้องการ
ข้อควรระวัง การใช้คลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) ควรอยู่ในการดูแลของครูและผู้ปกครอง หัวใจสำคัญของการเรียนรู้ของนักเรียนจะต้องสรุปองค์ความรู้และประการณ์ในการเรียนรู้ให้ครูและผู้ปกครองฟังได้และเข้าใจ ส่วนครูผู้สอนต้องเห็นคุณค่า ตระหนักในการใช้หรือผลิตสื่อ และต้องใช้สื่อ ผลิตสื่อจากคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) อย่างต่อเนื่องจึงจะเกิดประโยชน์ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สูงสุด
ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ตั้งกระทู้คำถามใหม่
กลับหน้าที่แล้ว
