ชื่อเรื่อง: การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีโดยใช้ HAW KHRK Model
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาที่นำไปฝึกอาชีพในสถานประกอบการ
ผู้วิจัย: นางอรวรรณ สังข์ทอง ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคระนอง
วิทยฐานะ รองผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ
ชื่อสถานศึกษา: วิทยาลัยเทคนิคระนอง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ปีที่ทำการวิจัย: ปีการศึกษา 2567
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแนวทางการบริหารจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีโดยใช้
HAW KHRK Model เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาที่นําไปฝึกอาชีพในสถานประกอบการ
2) สร้างรูปแบบการบริหารจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีโดยใช้ HAW KHRK Model เพื่อยกระดับ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาที่นําไปฝึกอาชีพในสถานประกอบการ 3) ทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการ
อาชีวศึกษาระบบทวิภาคีโดยใช้HAW KHRK Model เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาที่นําไป
ฝึกอาชีพในสถานประกอบการ และ 4) ประเมินผลหลังใช้รูปแบบการบริหารจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี
โดยใช้HAW KHRK Model เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาที่นําไปฝึกอาชีพในสถานประกอบการ
ผู้วิจัยแบ่งการดำเนินการออกเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาแนวทางการบริหารจัดการ
อาชีวศึกษาระบบทวิภาคีโดยใช้ HAW KHRK Model เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของรายวิชาที่นําไป
ฝึกอาชีพในสถานประกอบการ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ คณะกรรมการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี จำนวน 44 คน
และครูฝึกในสถานประกอบการ จำนวน 36 คน และการสัมภาษณ์ผู้บริหารสถานศึกษาและรองผู้อำนวยการ
ฝ่ายวิชาการ จำนวน 8 คน ของสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดระนอง ขั้นตอนที่ 2 การสร้างรูปแบบการบริหาร
จัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีโดยใช้ HAW KHRK Model เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาที่
นําไปฝึกอาชีพในสถานประกอบการ โดยการสนทนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน ขั้นตอนที่ 3 การทดลอง
ใช้รูปแบบการบริหารจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีโดยใช้ HAW KHRK Model เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนรายวิชาที่นําไปฝึกอาชีพในสถานประกอบการกับผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ครูผู้สอนระบบทวิภาคี จำนวน
42 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) วิทยาลัยเทคนิคระนอง ในภาคเรียนที่ 2
ปีการศึกษา 2567 ขั้นตอนที่ 4 การประเมินรูปแบบการบริหารจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีโดยใช้
HAW KHRK Model เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาที่นําไปฝึกอาชีพในสถานประกอบการ
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ คณะกรรมการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีครูฝึกในสถานประกอบการ และผู้เรียน
ระบบทวิภาคี รวมจำนวน 230 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึก
การสนทนากลุ่ม แบบประเมินความเป็นประโยชน์ ความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และความถูกต้องของ
รูปแบบ และแบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์โดยการหาความถี่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ
และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการศึกษาแนวทางการบริหารจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีโดยใช้ HAW KHRK Model
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาที่นําไปฝึกอาชีพในสถานประกอบการ โดยภาพรวม มีการปฏิบัติ
อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการพัฒนาหลักสูตร มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด
รองลงมา คือ ด้านการจัดทำแผนการนิเทศการฝึกอาชีพในสถานประกอบการ ด้านการจัดทำแผนการฝึกอาชีพ
ในสถานประกอบการ ด้านการพัฒนาและส่งเสริมแหล่งเรียนรู้ ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ และ
ด้านการพัฒนาสื่อ นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ตามลำดับ
2. ผลการสร้างรูปแบบการบริหารจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีโดยใช้ HAW KHRK Model เพื่อ
ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาที่นําไปฝึกอาชีพในสถานประกอบการ พบว่า มีองค์ประกอบที่สำคัญ
ได้แก่ หลักการของรูปแบบ วัตถุประสงค์ของรูปแบบ กระบวนการดำเนินงาน แนวทางการประเมิน และ
เงื่อนไขความสำเร็จ ตามความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิพบว่า โดยภาพรวมรูปแบบการบริหารจัดการ
อาชีวศึกษาระบบทวิภาคีรายวิชาที่นําไปฝึกอาชีพในสถานประกอบการมีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด และ
ผลการประเมินความเหมาะสมของคู่มือการใช้รูปแบบการบริหารจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีโดยใช้
HAW KHRK Model เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของรายวิชาที่นําไปฝึกอาชีพในสถานประกอบการ
โดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีโดยใช้ HAW KHRK Model
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาที่นําไปฝึกอาชีพในสถานประกอบการ พบว่า ครูที่สอนระบบทวิภาคี
วิทยาลัยเทคนิคระนอง สามารถปฏิบัติงานวิชาการจากการบริหารจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีโดยใช้
HAW KHRK Model เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาที่นําไปฝึกอาชีพในสถานประกอบการ
โดยรวม อยู่ในระดับการปฏิบัติมากที่สุด
4. ผลการประเมินรูปแบบการบริหารจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีโดยใช้ HAW KHRK Model
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาที่นําไปฝึกอาชีพในสถานประกอบการ ดังนี้ 1) ผลการประเมิน
ความเป็นประโยชน์ ความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และความถูกต้อง อยู่ในระดับมากที่สุด 2) ผลการ
เปรียบเทียบร้อยละของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนระบบทวิภาคีสูงกว่าค่าเป้าหมายที่ทาง
สถานศึกษากำหนดไว้ทุกสาขาวิชา คิดเป็นร้อยละ 88.35 และ 3) ผลการประเมินความพึงพอใจของ
คณะกรรมการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีครูฝึกในสถานประกอบการ และผู้เรียนระบบทวิภาคี
วิทยาลัยเทคนิคระนอง โดยภาพรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด
คำสำคัญ: รูปแบบการบริหารจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีโดยใช้ HAW KHRK Model