ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร)

ชื่อเรื่อง รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร)

ผู้วิจัย นางตติยา นาครังสรรค์

สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

ปีการศึกษา 2567

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับสร้างรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร) (2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร) (3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร) (4) เพื่อประเมินรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร) กลุ่มเป้าหมายในการทดลองใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วม ในการส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร) ได้แก่ ศึกษานิเทศก์ จำนวน 1 คน ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 4 คน ครู จำนวน 61 คน พนักงานจ้างและลูกจ้างประจำ จำนวน 21 คน ตัวแทนกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 1 คน ตัวแทนผู้ปกครอง จำนวน 4 คน ตัวแทนชุมชน จำนวน 4 คน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จำนวน 1 คน ปีการศึกษา 2567 รวมทั้งสิ้น 97 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพ แบบสอบถาม แบบบันทึก แบบประเมิน และประเด็นสนทนากลุ่ม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ข้อมูลพื้นฐานสำหรับสร้างรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพโรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร) ประกอบด้วย สภาพปัญหาเกี่ยวกับการบริหารในการส่งเสริม สุขภาพ โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร) โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.54, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.63) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีระดับปัญหาที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านโครงการร่วมระหว่างโรงเรียนและชุมชน (ค่าเฉลี่ย = 4.66, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.56) รองลงมาคือ ด้านการจัดสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนที่เอื้อต่อสุขภาพ(ค่าเฉลี่ย = 4.63, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.61) และด้านบริการอนามัยโรงเรียน (ค่าเฉลี่ย = 4.56, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.60) ตามลำดับ ส่วนระดับความต้องการรูปแบบการบริหารในการส่งเสริมสุขภาพ

โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร) โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.68, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.57) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีระดับความต้องการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านโครงการร่วม ระหว่างโรงเรียนและชุมชน (ค่าเฉลี่ย = 4.78, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.48) รองลงมาคือ ด้านบริการอนามัยโรงเรียน (ค่าเฉลี่ย = 4.73, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.52) และด้านการให้คำปรึกษาและสนับสนุนทางสังคม (4.72, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.54) ตามลำดับ

ส่วนหลักการของการบริหารการศึกษาในการส่งเสริมสุขภาพจากเอกสาร งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ตำรา บทความ และการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ สรุปได้ว่า การบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมสุขภาพในสถานศึกษาตั้งอยู่บนหลักการสำคัญหลายประการ ประการแรก การมีภาวะผู้นำที่เข้มแข็งของผู้บริหารสถานศึกษาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนกระบวนการสร้างเสริมสุขภาพให้บรรลุเป้าหมาย ประการที่สอง การสร้างเครือข่ายความร่วมมือและการมีส่วนร่วมจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งรวมถึงครู บุคลากร ผู้ปกครอง และชุมชน นอกจากนี้ การจัดการสิ่งแวดล้อมด้านสุขภาพที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีของนักเรียนก็เป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งรวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้ถูกสุขลักษณะ มีความมั่นคง แข็งแรง และปลอดภัย รวมถึงการให้ความรู้และพัฒนาทักษะการเข้าถึง การสร้างความเข้าใจ และการนำความรู้ด้านสุขภาพไปใช้ในชีวิตประจำวัน และการป้องกันโรคและการแก้ไขปัญหาสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

2. รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร) ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ (Principles) วัตถุประสงค์ (Objectives) ขอบข่ายในการส่งเสริมสุขภาพ(Content) กระบวนการดำเนินการ (Process) ปัจจัยสนับสนุนความสำเร็จ (Success Factors) การวัดและประเมินผล (Measurement and Evaluation) โดยกระบวนการดำเนินการมี 5 ขั้นตอน ได้แก่การกำหนดนโยบายร่วมกัน (Policy : P ) การวางแผนร่วมกัน (Planning : P) การปฏิบัติร่วมกัน (Implementation : I) การประเมินผลร่วมกัน (Evaluation : E) และการรับผลประโยชน์ร่วมกัน (Benefits : B) ผลการประเมินความเหมาะสมรูปแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ ด้านการใช้ประโยชน์อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.24, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน= 0.72) ด้านความเป็นไปได้ในการนำไปใช้อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.17, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน= 0.79) ด้านความเหมาะสมเชิงจริยธรรมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.08, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน= 0.95) และด้านความถูกต้องอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.26, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน= 0.74)

3. ผลการดำเนินงานตามรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร) โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.61, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.60) เมื่อพิจารณารายด้านโดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก ดังนี้คือ ด้านโภชนาการและอาหารที่ปลอดภัย (ค่าเฉลี่ย = 4.75, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.56) รองลงมาด้านสุขศึกษาในโรงเรียน (ค่าเฉลี่ย = 4.70, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.56) และด้านการให้คำปรึกษาและสนับสนุนทางสังคม (ค่าเฉลี่ย = 4.66, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.59)ตามลำดับ และผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร) โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.65, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.59) เมื่อพิจารณารายด้าน โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก ดังนี้คือด้านนักเรียน (ค่าเฉลี่ย = 4.67, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.58) รองลงมาด้านชุมชนและสังคม (ค่าเฉลี่ย = 4.66, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.60) และด้านโรงเรียน (ค่าเฉลี่ย = 4.65, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.60) ตามลำดับ

4. ผลการประเมินรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร) พบว่า ผลการประเมินความพึงพอใจต่อรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร) โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.60, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.63) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อจากมากไปหาน้อยสามลำดับแรก ดังนี้คือ องค์ประกอบด้านหลักการและวัตถุประสงค์มีความเหมาะสม (ค่าเฉลี่ย = 4.69, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.58) รองลงมา โรงเรียนสามารถเป็นต้นแบบและแหล่งเรียนรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพให้กับโรงเรียนอื่นได้ (ค่าเฉลี่ย = 4.67, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.53) และขั้นตอนการประเมินผลร่วมกัน มีวิธีการที่หลากหลาย ครอบคลุม สามารถวัดและประเมินได้ตรงตามสภาพจริง (ค่าเฉลี่ย = 4.65, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.65) โรงเรียนเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมสุขภาพ ทำให้ความรู้ และพฤติกรรมสุขภาพที่ดีขยายจากนักเรียนไปสู่ครอบครัวและชุมชน (ค่าเฉลี่ย = 4.65, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.63) ตามลำดับ ส่วนผลการประเมินรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร) โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.62, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน= 0.58) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อจากมากไปหาน้อยสามลำดับแรก ดังนี้คือ ความสอดคล้องกับแนวคิดพื้นฐานที่นำมาพัฒนารูปแบบ (ค่าเฉลี่ย = 4.71, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน= 0.59) รองลงมาการวัดและประเมินผลมีความสอดคล้องกับหลักการ วัตถุประสงค์ และกระบวนการดำเนินงาน (ค่าเฉลี่ย = 4.70, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน= 0.63) และการใช้ภาษาและการเรียบเรียงถ้อยคำมีความชัดเจนและเข้าใจง่าย (ค่าเฉลี่ย = 4.67, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.57) การดำเนินงานตามขั้นตอนทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่วางไว้ (ค่าเฉลี่ย = 4.67, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน= 0.53) ตามลำดับ

โพสต์โดย รองติ่ง : [6 ต.ค. 2568 (23:46 น.)]
อ่าน [57055] ไอพี : 110.168.238.130
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 22,905 ครั้ง
ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์...ตลอดปี 2556
ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์...ตลอดปี 2556

เปิดอ่าน 11,749 ครั้ง
5 สูตรสวยด้วยเกลือ
5 สูตรสวยด้วยเกลือ

เปิดอ่าน 4,563 ครั้ง
แนะนำสถานที่ทำบุญตามวันเกิด รับวันพระใหญ่ "วิสาขบูชา"
แนะนำสถานที่ทำบุญตามวันเกิด รับวันพระใหญ่ "วิสาขบูชา"

เปิดอ่าน 7,064 ครั้ง
ผลการสอบไม่สามารถบอกได้ทุกอย่าง
ผลการสอบไม่สามารถบอกได้ทุกอย่าง

เปิดอ่าน 11,050 ครั้ง
อากาศแบบนี้จะปกป้องผิวหน้าอย่างไรดี?
อากาศแบบนี้จะปกป้องผิวหน้าอย่างไรดี?

เปิดอ่าน 7,210 ครั้ง
ยางอินเดีย ต้นไม้ปลูกในร่ม ดูแลง่าย ช่วยฟอกอากาศ
ยางอินเดีย ต้นไม้ปลูกในร่ม ดูแลง่าย ช่วยฟอกอากาศ

เปิดอ่าน 20,491 ครั้ง
MPEG คืออะไร
MPEG คืออะไร

เปิดอ่าน 48,552 ครั้ง
"วันครูโลก" 5 ตุลาคมของทุกปี
"วันครูโลก" 5 ตุลาคมของทุกปี

เปิดอ่าน 10,605 ครั้ง
"มิเชล โอบามา" สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของอเมริกา มีวันนี้ได้เพราะความเสียสละของแม่
"มิเชล โอบามา" สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของอเมริกา มีวันนี้ได้เพราะความเสียสละของแม่

เปิดอ่าน 15,617 ครั้ง
3G มาแล้ว พร้อมหรือยัง?
3G มาแล้ว พร้อมหรือยัง?

เปิดอ่าน 13,063 ครั้ง
การปฏิรูปการศึกษาไทยให้สำเร็จ ต้องปฏิรูปทั้งระบบ โดย เพชร เหมือนพันธุ์
การปฏิรูปการศึกษาไทยให้สำเร็จ ต้องปฏิรูปทั้งระบบ โดย เพชร เหมือนพันธุ์

เปิดอ่าน 14,826 ครั้ง
ลูกน้อยทานยาลดไข้หลายวัน เป็นอันตรายไหม
ลูกน้อยทานยาลดไข้หลายวัน เป็นอันตรายไหม

เปิดอ่าน 20,165 ครั้ง
พี่น้องร่วมสาบาน
พี่น้องร่วมสาบาน

เปิดอ่าน 5,465 ครั้ง
พิกเซล (Pixel)
พิกเซล (Pixel)

เปิดอ่าน 11,366 ครั้ง
อย่าแตกตื่น เสียงลือ! 22 ก.ค. ตะวันดับ สึนามิ ถล่มเอเชีย?
อย่าแตกตื่น เสียงลือ! 22 ก.ค. ตะวันดับ สึนามิ ถล่มเอเชีย?

เปิดอ่าน 22,824 ครั้ง
ภาษาและอักษรไทย
ภาษาและอักษรไทย
เปิดอ่าน 19,664 ครั้ง
อาการของมะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ
อาการของมะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ
เปิดอ่าน 57,130 ครั้ง
มารยาทในการพูดโทรศัพท์ (Phone Manners)
มารยาทในการพูดโทรศัพท์ (Phone Manners)
เปิดอ่าน 117,246 ครั้ง
การหาประสิทธิภาพสื่อ
การหาประสิทธิภาพสื่อ
เปิดอ่าน 23,449 ครั้ง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ