ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยใช้
การศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา
ผู้วิจัย : เสกสัณห์ ลุนบง
ปีการศึกษา : 2565-2566
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) การศึกษาสภาพปัญหา และแนวทางการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยใช้การศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ 2) การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยใช้การศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ 3) ทดลองใช้รูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้ เชิงรุกของครู โดยใช้การศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ 4) ประเมินรูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยใช้การศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ การดำเนินการวิจัยในลักษณะของการวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) กลุ่มเป้าหมาย คือ ครูโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา ปีการศึกษา 2566 จำนวน 37 คน นักเรียนโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา ปีการศึกษา 2566 จำนวน 621 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบบันทึกการศึกษาเอกสาร ตำรา งานวิจัย 2) แบบสอบถามสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 3) แบบสัมภาษณ์แนวทางการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 4) รูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยใช้การศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ 5) คู่มือการใช้รูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยใช้การศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ 6) แบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู 7) แบบประเมินความเหมาะสมของคู่มือการใช้รูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู 8) แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู 9) แบบประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 10) แบบบันทึกการเรียนรู้ร่วมกัน 11) แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 12) แบบบันทึกคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน 13) แบบประเมินรูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า
1.ผลการศึกษาสภาพ ปัญหาการจัดการเรียนรู้ และแนวทางการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู สามารถสรุปผลการวิจัย ได้ดังนี้
1.1 กลุ่มตัวอย่างมีความคิดเห็นต่อสภาพการจัดการเรียนรู้ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (Mean = 3.55, S.D. = 0.66) และมีความคิดเห็นต่อปัญหาการจัดการเรียนรู้ภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง (Mean = 2.59, S.D. = 0.77)
1.2 แนวทางการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู คือ การเรียนรู้ร่วมกันผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการพัฒนาครูให้ทำงานร่วมกัน ซึ่งมีกระบวนการของการศึกษาชั้นเรียน ประกอบด้วย 1) การวิเคราะห์สภาพ ปัญหา เลือกปัญหาเกี่ยวกับการเรียนรู้ของผู้เรียน และกำหนดเป้าหมาย 2) การวางแผนพัฒนาบทเรียนร่วมกัน ออกแบบและเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ 3) การจัดการเรียนสอนและสังเกตการสอนเกี่ยวกับพฤติกรรมการเรียนรู้และการคิดของผู้เรียน 4) การประเมินปรับปรุงและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งเป็นกระบวนการพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูให้สูงขึ้น
2. ผลการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยใช้การศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สามารถสรุปผลการวิจัยได้ดังนี้
2.1 ผลการสร้างรูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโดยใช้การศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ มี 5 องค์ประกอบ คือ หลักการของรูปแบบ วัตถุประสงค์ของรูปแบบ เนื้อหาของรูปแบบ กระบวนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบ การวัดและประเมินรูปแบบ โดยกระบวนการจัดการเรียนรู้มี 4 ขั้น ได้แก่ ขั้น 1 สร้างความเข้มแข็งของทีม ขั้น 2 พัฒนางานร่วมกัน ขั้น 3 ปฏิบัติการจัดการเรียนรู้ ขั้น 4 สะท้อนคิดและแลกเปลี่ยน
2.2 ผลการตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยใช้การศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยผู้ทรงคุณวุฒิ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (Mean = 4.55, S.D. = 0.52) และคู่มือการใช้รูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู พบว่า มีความเหมาะสมภาพรวมอยู่ในระดับมาก (Mean = 4.46, S.D. = 0.56)
3.ผลการทดลองใช้รูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยใช้การศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครูกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 37 คน พบว่า
3.1 ผลการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษาของครูกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 37 คน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด (Mean = 4.71, S.D. = 0.48)
3.2 ผลการประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกตามรูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยใช้การศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครูกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 37 คน พบว่า อยู่ในระดับมาก
3.3 ผลการดำเนินการพัฒนางานร่วมกันผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพการปฏิบัติพัฒนางานร่วมกันผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 วิเคราะห์นำเสนอปัญหา เลือกปัญหาเกี่ยวกับการเรียนรู้ของผู้เรียน ขั้นที่ 2 กำหนดเป้าหมาย ขั้นที่ 3 ประชุมวางแผนพัฒนาบทเรียนร่วมกัน ออกแบบและเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ ขั้นที่ 4 นำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้จริงในชั้นเรียน สังเกตการจัดการเรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมการเรียนรู้ และการคิดของผู้เรียน เน้นให้ผู้เรียนปฏิบัติ บูรณาการให้มีทักษะการคิดขั้นสูง ขั้นที่ 5 การสะท้อนคิด ปรับปรุงการศึกษาชั้นเรียนประเมินผลการดำเนินการเพื่อรวบรวมผลการดำเนินการ ปัญหา อุปสรรคและการปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก และขั้นที่ 6 การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขยายผลการศึกษาชั้นเรียน
3.4 ผลการสัมภาษณ์ครูที่เข้าร่วมพัฒนารูปแบบ โดยสังเกตการแสดงออกถึงความสนใจขณะร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ตามขั้นตอนต่าง ๆ และสร้างข้อสรุปจากการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) พบว่า
ขั้น 1 สร้างความเข้มแข็งของทีม มีการกำหนดขั้นตอน และการประชุมชี้แจง แนวทางการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก เพื่อให้ทุกคนมีความหนักเห็นคุณค่าของการทำงานเป็นทีม มีความรู้ความเข้าใจในการศึกษาชั้นเรียน ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ และการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ให้บรรลุผลสำเร็จตามจุดมุ่งหมาย
ขั้น 2 พัฒนางานร่วมกัน เป็นกิจกรรมที่ให้ผู้อบรมวางแผนวิเคราะห์ปัญหา เลือกปัญหาเกี่ยวกับการเรียนรู้ของผู้เรียน และกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ หลักฐานการเรียนรู้และสร้างความรู้ความเข้าใจในการดำเนินการ ขั้นตอนในการดำเนินการมีการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก ครูร่วมกันเขียนแผนโดยใช้แนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
ขั้น 3 ปฏิบัติการจัดการเรียนรู้ ครูผู้สอนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม และใช้รูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูที่มีเนื้อหาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก สร้างความรู้ความเข้าใจในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกและทักษะที่จำเป็นของการจัดการเรียนรู้เชิงรุก รวมถึงการแสดงออกถึงปฏิบัติการสอน ที่ผ่านการอบรมรม
ขั้น 4 การสะท้อนคิดและแลกเปลี่ยน เป็นกิจกรรมที่ให้ผู้อบรมร่วมกันสรุปองค์ความรู้เพื่อนำเสนอแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในกลุ่มเพื่อเรียนรู้ร่วมกัน
3.5 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา ปีการศึกษา 2565 และปีการศึกษา 2566 ที่มีผลการเรียนระดับ 3 ขึ้นไป พบว่า นักเรียนเกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยสูงขึ้น คิดเป็นร้อยละ 4.51 และนักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์สูงขึ้น คิดเป็นร้อยละ 4.57
4.ผลการประเมินรูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโดยใช้การศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ กลุ่มเป้าหมาย จำนวน 37 คน พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (Mean = 4.57, S.D. = 0.55) และเมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านความเป็นประโยชน์อยู่ในระดับมากที่สุด (Mean = 4.60, S.D.= 0.49) ด้านความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด (Mean = 4.55, S.D. = 0.58) ด้านความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (Mean = 4.55, S.D. = 0.58) และด้านความถูกต้องครอบคลุมอยู่ในระดับมากที่สุด (Mean = 4.57, S.D. = 0.58)
คำสำคัญ : รูปแบบการบริหาร, ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ, การจัดการเรียนรู้เชิงรุก,
การศึกษาชั้นเรียน.