|
|
|
การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีค่าประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนนาหมื่นพิทยาคม อ.นาหมื่น จ.น่าน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 37 จำนวน 31 คน โดยวิธีสุ่มอย่างง่าย ใช้หน่วยสุ่มเป็นห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ คือ 1) บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนและแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาประสิทธิภาพ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (x̄ ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ทดสอบค่าเฉลี่ยก่อนเรียนและหลังเรียน (t-test) พบว่า
1) บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่สร้างขึ้น มีคุณภาพในภาพรวมมีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด ( x̄=4.70, S.D.=0.46) ผลการหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีคะแนนเฉลี่ยของแบบฝึกระหว่างเรียน (E1) และคะแนนเฉลี่ยของแบบทดสอบหลังเรียน (E2) เท่ากับ 88.55/81.05 ดังนั้น บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2) คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3) ในภาพรวมนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.70 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.52
|
โพสต์โดย หนึ่งฤทัย เจริญสุข : [3 มี.ค. 2561 เวลา 13:33 น.]
อ่าน [3822] ไอพี : 171.4.61.251
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก 
|
|
|
| |
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
| |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 14,309 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,971 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,389 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,810 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 7,758 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,282 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,171 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,193 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 77,329 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,837 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 30,427 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 102,496 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 24,576 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 36,999 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,020 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 8,494 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,823 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,881 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,807 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,253 ครั้ง 
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|
ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ตั้งกระทู้คำถามใหม่
กลับหน้าที่แล้ว
