ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก เพื่อส่งเสริมความ สามารถในการคิดวิเคราะห์และความพอเพียง เรื่อง ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ในชีวิ

ชื่อเรื่อง การพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก เพื่อส่งเสริมความ

สามารถในการคิดวิเคราะห์และความพอเพียง เรื่อง ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ

ในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้วิจัย นายไพฑูรย์ รัตนานุกูล ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนเทศบาลวัดนิโครธาราม สังกัดเทศบาลเมืองพัทลุง

อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง

ปีพุทธศักราช 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก เพื่อส่งเสริมความ สามารถในการคิดวิเคราะห์และความพอเพียง เรื่อง ความสัมพันธ์ ทางเศรษฐกิจในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และความพอเพียง เรื่อง ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในชีวิตประ จำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อศึกษาผลการใช้กิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และความพอเพียง เรื่อง ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อกิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และความพอเพียง เรื่อง ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถม- ศึกษาปีที่ 6

ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดนิโคร- ธาราม สังกัดเทศบาลเมืองพัทลุง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการ ศึกษา 2560 จำนวน 30 คน ด้วยวิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling)

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) กิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก จำนวน 7 กิจกรรม 2) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก เรื่อง ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ในชีวิตประ จำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 7 แผน 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ 5) แบบวัดและประเมินความพอเพียง จำนวน 10 ข้อ 6) แบบสอบถามความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก เรื่อง ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถม -ศึกษาปีที่ 6 แบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scaie) ชนิด 5 ระดับของ Likert แบ่งเป็น 3 ด้านๆละ 4 ข้อ จำนวน 12 ข้อ 7)สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน/หลังเรียน และการทดสอบค่าสถิติ t-test

ผลจากการวิจัย พบว่า

1. จากการสัมภาษณ์สภาพปัญหาในการจัดการเรียนการสอนของครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองพัทลุงทั้ง 4 โรงเรียน จำนวน 9 ท่าน พบว่า นักเรียนมีความเข้าใจในเนื้อหาของสาระการเรียนรู้ที่ 3 เศรษฐศาสตร์ แต่ไม่สามารถคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

2. ผลการพัฒนาชุดการเรียนแบบร่วมมือจากสื่อในชีวิตประจำวัน เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนและจิตสาธารณะ เรื่อง พุทธธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ(E1/E2) เท่ากับ 89.86 / 91.25 ซึ่งมีประสิทธิภาพ สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 เป็นไปตามสมมุติฐาน

3. ผลการใช้กิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก เพื่อส่งเสริมความสามารถ ในการคิดวิเคราะห์และความพอเพียง เรื่อง ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และความพอเพียง เรื่อง ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถม-ศึกษาปีที่ 6 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.71 S.D. = 0.14)

โพสต์โดย ครูไพฑูรย์ รัตนานุกูล : [27 ธ.ค. 2561 เวลา 07:31 น.]
อ่าน [3665] ไอพี : 61.7.218.50
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,642 ครั้ง
ทำโยคะบนใบหน้าตนเอง เพื่อใบหน้าเต่งตึง
ทำโยคะบนใบหน้าตนเอง เพื่อใบหน้าเต่งตึง

เปิดอ่าน 24,645 ครั้ง
ลายมือคนที่บั้นปลายของชีวิตมีเงินทอง มีหลักฐานมั่นคง
ลายมือคนที่บั้นปลายของชีวิตมีเงินทอง มีหลักฐานมั่นคง

เปิดอ่าน 10,537 ครั้ง
รายงานการวิจัยพัฒนาการจัดค่ายอย่างสร้างสรรค์
รายงานการวิจัยพัฒนาการจัดค่ายอย่างสร้างสรรค์

เปิดอ่าน 11,231 ครั้ง
ตำแหน่ง "สิว" บอกสุขภาพ
ตำแหน่ง "สิว" บอกสุขภาพ

เปิดอ่าน 2,100 ครั้ง
"กระชายขาว" สมุนไพรไทยยอดนิยม สรรพคุณเด่น "เสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย"
"กระชายขาว" สมุนไพรไทยยอดนิยม สรรพคุณเด่น "เสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย"

เปิดอ่าน 19,787 ครั้ง
ประกันสังคมสิทธิที่คนวัยทำงานควรรู้ ประโยชน์ที่ได้คุณภาพชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม
ประกันสังคมสิทธิที่คนวัยทำงานควรรู้ ประโยชน์ที่ได้คุณภาพชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 34,279 ครั้ง
กินเจ-มังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร
กินเจ-มังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร

เปิดอ่าน 650 ครั้ง
การอาบน้ำเกิน 10 นาที สามารถทำลายเกราะป้องกันผิวหนังได้
การอาบน้ำเกิน 10 นาที สามารถทำลายเกราะป้องกันผิวหนังได้

เปิดอ่าน 25,998 ครั้ง
การศึกษาและเปรียบเทียบสาเหตุการย้ายของข้าราชการครู
การศึกษาและเปรียบเทียบสาเหตุการย้ายของข้าราชการครู

เปิดอ่าน 17,050 ครั้ง
พุทธคุณ 9
พุทธคุณ 9

เปิดอ่าน 12,711 ครั้ง
12 เคล็ดลับที่ช่วยให้หนุ่ม ๆ ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น
12 เคล็ดลับที่ช่วยให้หนุ่ม ๆ ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น

เปิดอ่าน 6,783 ครั้ง
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก

เปิดอ่าน 37,960 ครั้ง
9 สายงานไทย เทรนด์ใหม่มาแรง
9 สายงานไทย เทรนด์ใหม่มาแรง

เปิดอ่าน 11,873 ครั้ง
ข้อคิดเห็นต่อการปรับโครงสร้าง กระทรวงศึกษาธิการ
ข้อคิดเห็นต่อการปรับโครงสร้าง กระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 27,640 ครั้ง
การพิมพ์หนังสือราชการภาษาไทยด้วยโปรแกรมการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (ตามระเบียบสำนักนายกฯ)
การพิมพ์หนังสือราชการภาษาไทยด้วยโปรแกรมการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (ตามระเบียบสำนักนายกฯ)

เปิดอ่าน 59,658 ครั้ง
ระเบียบ เบิกค่าใช้จ่าย ในการเดินทางไปราชการ 50
ระเบียบ เบิกค่าใช้จ่าย ในการเดินทางไปราชการ 50
เปิดอ่าน 9,562 ครั้ง
"มิเชล โอบามา" สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของอเมริกา มีวันนี้ได้เพราะความเสียสละของแม่
"มิเชล โอบามา" สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของอเมริกา มีวันนี้ได้เพราะความเสียสละของแม่
เปิดอ่าน 161,579 ครั้ง
"ปฏิรูปการสอบครูผู้ช่วย ถึงเวลาหรือยัง?" : ควันหลงสอบครูผู้ช่วย
"ปฏิรูปการสอบครูผู้ช่วย ถึงเวลาหรือยัง?" : ควันหลงสอบครูผู้ช่วย
เปิดอ่าน 19,930 ครั้ง
ประโยชน์จากฟักเขียว
ประโยชน์จากฟักเขียว
เปิดอ่าน 21,487 ครั้ง
คุณสมบัติของ e-Learning
คุณสมบัติของ e-Learning

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ