ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่าน เชิงวิเคราะห์ของนักเรียน โรงเรียนนานาชาติเทศบาลนครนครศรีธรรมราช

การวิจัยนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development )โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพและข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียน 2) การสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียน 3) การทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียน 4) การปรับปรุงรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียน แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ครูที่สอนสังกัดเทศบาล ครูที่สอนสำนักงานเขตพื้นที่ ครูที่สอนสำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษา และครูที่สอนในกลุ่มเอกชน 2) เอกสารพระราชบัญญัติการศึกษา หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย การวิจัยที่เกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนและเอกสารการอ่านเชิงวิเคราะห์ 3) ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและสถิติด้านการจัดการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ 4) กลุ่มประชากรได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนนานาชาติเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จำนวน 4 ห้องเรียนจำนวน 108 คน และได้เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 1 ห้องเรียนได้แก่ ชั้นป1/1 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสอบถามผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาความสามารถการอ่านเชิงวิเคราะห์ 2) แบบวิเคราะห์เอกสารข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน 3) รูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียน 4) แบบตรวจสอบความสมเหตุสมผลเชิงทฤษฎีความเป็นไปได้และความสอดคล้องของรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียน 5) แบบทดสอบวัดความสามารถด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลจะใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) และใช้โปรแกรมสำเร็จรูปวิเคราะห์ข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ประกอบด้วยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และการทดสอบค่าที (t-test Dependent)

ผลการวิจัยพบว่า

1.สภาพและข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนพบว่านักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยทั้งในภาพรวมของประเทศและสังกัดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ต่ำกว่าร้อยละ 50 ซึ่งจากการที่ผู้เรียน มีทักษะการอ่านต่ำ ส่งผลให้ทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ต่ำไปด้วยและยังส่งผลกระทบต่อคุณภาพผู้เรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆตามมาด้วยผลการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงนโยบายการศึกษาสรุปได้ว่าการพัฒนากระบวนการคิดวิเคราะห์เป็นสิ่งสำคัญ และเป็นเป้าหมายเชิงนโยบายในการพัฒนาศักยภาพคนของประเทศชาติผลการศึกษาวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551การจัดกระบวนการเรียนการสอนพัฒนาทักษะการอ่านที่จะต้องมีกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียได้อ่านตามขั้นตอนดังนี้ 1) อ่านจับใจความสำคัญ 2) คิดวิเคราะห์วิจารณ์เรื่องที่อ่าน 3) ตัดสินใจเสนอทางเลือก 4) นำไปใช้ในการดำเนินชีวิต การศึกษาแนวคิดทฤษฎีในการพัฒนาและนำเสนอรูปแบบการสอน พบว่า การออกแบบที่เป็นระบบ ที่สอดคล้องกับหลักการ แนวคิด ทฤษฎี และผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ จะส่งผลให้ผู้เรียนบรรลุเป้าหมาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพ การศึกษาวิเคราะห์แนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการคิดวิเคราะห์ พบว่า การคิดวิเคราะห์มีองค์ประกอบที่สำคัญ 3 ประการ คือ 1 ) วิเคราะห์เนื้อหา 2) วิเคราะห์ความสัมพันธ์ 3) วิเคราะห์หลักการ การศึกษาวิเคราะห์แนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวกับการอ่านเชิงวิเคราะห์ พบว่า การอ่าน เชิงวิเคราะห์เป็นการอ่านที่ฝึกให้ผู้เรียนอ่านหนังสือหรือบทอ่าน อย่างมีวิจารณญาณ รู้จักแยกแยะองค์ประกอบ สรุปความสำคัญของเรื่อง สามารถวิเคราะห์ถึงหลักการข้อคิด วิเคราะห์เชิงสัมพันธ์เชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆ อย่างมีเหตุผลและเชื่อมโยงสัมพันธ์กับชีวิตจริงได้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง การศึกษาวิเคราะห์แนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนา การอ่านเชิงวิเคราะห์ พบว่า การอ่านและการคิดวิเคราะห์เป็นทักษะที่ควบคู่กับ การสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจึงต้องสอนควบคู่กับการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การศึกษาวิเคราะห์หลักการแนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ 21 พบว่าทักษะการเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ 21 เน้นทักษะที่สำคัญ 3 ทักษะ ได้แก่ ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมทักษะด้านสารสนเทศสื่อ และเทคโนโลยี และทักษะชีวิตและงานอาชีพ

2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนพบว่ารูปแบบการสอนประกอบด้วยหลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน เงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ได้แก่ ระบบสังคม ระบบสนุบสนุนและหลักการตอบสนองซึ่งกระบวนการเรียนการสอนในรูปแบบประกอบด้วย 7 ขั้นตอน 1. ขั้นการอ่าน เชิงสำรวจ (Survey ) 2. ขั้นการตั้งคำถามจากเรื่องที่อ่าน (Question) 3. ขั้นการอ่าน เพื่อหาคำตอบของคำถาม (Read) 4. ขั้นการเขียนเชิงสร้างสรรค์ (Record ) 5. ขั้นการคิดวิเคราะห์จากเรื่องที่อ่าน(Thinking) 6. ขั้นการเสนอแนวทางเพื่อการตัดสินใจปฏิบัติ (Decision Making) 7. ขั้นการตั้งใจนำไปปฏิบัติในชีวิตจริง (Intention to Act) และผลการตรวจสอบพบว่าความสมเหตุสมผลเชิงทฤษฎีมีดัชนีความสอดคล้องรายข้อมีค่าระหว่าง 0.80 – 1.00 ความเป็นไปได้ของรูปแบบการสอนมีค่าดัชนีความสอดคล้องรายข้อมีค่าระหว่าง 0.80 – 1.00 ความสอดคล้องของรูปแบบการสอนมีค่าดัชนีความสอดคล้องรายข้อมีค่าระหว่าง 0.80 – 1.00

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียน พบว่า 1) ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนมีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 84.12/83.17 2) ความสามารถในด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และความสามารถด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนจำแนกเป็นรายด้านตามทฤษฎีหมวกความคิด 6 ใบ พบว่าหลังการทดลองมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับคุณภาพสูงและเพิ่มขึ้นทุกด้าน

4. ผลการปรับปรุงรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนพบว่ารูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนจะต้องมีการปรับปรุงระบบสังคม ที่จะต้องให้นักเรียนกล้าที่จะตั้งคำถามเพื่อค้นหาคำตอบในสิ่งที่อยากรู้และจะต้องปรับปรุงระบบสนับสนุนที่ครูผู้สอนจัดหาสถานการณ์ เพื่อบทอ่านที่มีประเด็นและมุมมองหลากหลายและเหมาะสมกับวัยของนักเรียนและเพียงพอกับการศึกษาค้าคว้า อภิปราย และตัดสินใจ

โพสต์โดย ครูอรอุมา : [18 ก.ค. 2562 เวลา 08:02 น.]
อ่าน [4125] ไอพี : 61.7.191.179
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 18,980 ครั้ง
เกร็ดความรู้ เกี่ยวกับน้ำตาลในผัก
เกร็ดความรู้ เกี่ยวกับน้ำตาลในผัก

เปิดอ่าน 17,143 ครั้ง
ขั้นตอนการเวียนเทียนในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
ขั้นตอนการเวียนเทียนในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

เปิดอ่าน 8,872 ครั้ง
คุณธรรม จริยธรรม บทสะท้อนการศึกษาไทย จากกรณีหมอฟันหนีทุน โดย นพดล ปกรณ์นิมิตดี
คุณธรรม จริยธรรม บทสะท้อนการศึกษาไทย จากกรณีหมอฟันหนีทุน โดย นพดล ปกรณ์นิมิตดี

เปิดอ่าน 10,556 ครั้ง
ความลับ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงอายุยืนที่สุดในโลก
ความลับ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงอายุยืนที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 62,149 ครั้ง
คอมพิวเตอร์กราฟิกกับการประยุกต์ใช้ในงานด้านต่าง ๆ
คอมพิวเตอร์กราฟิกกับการประยุกต์ใช้ในงานด้านต่าง ๆ

เปิดอ่าน 40,902 ครั้ง
แนะครูกระตุ้นเด็กขี้สงสัย
แนะครูกระตุ้นเด็กขี้สงสัย

เปิดอ่าน 13,489 ครั้ง
โรคความดันโลหิตสูง รักษาได้ แค่หลีกให้ไกลจากโซเดียม
โรคความดันโลหิตสูง รักษาได้ แค่หลีกให้ไกลจากโซเดียม

เปิดอ่าน 30,813 ครั้ง
ศึกสายเลือด ศธ. : เกมชิงอำนาจที่มีแต่ “ผู้แพ้”?? ผู้เขียน จุไรรัตน์ พงศาภิชาติ
ศึกสายเลือด ศธ. : เกมชิงอำนาจที่มีแต่ “ผู้แพ้”?? ผู้เขียน จุไรรัตน์ พงศาภิชาติ

เปิดอ่าน 21,652 ครั้ง
รวยๆ เฮงๆ กับของมงคลรับวันตรุษจีน
รวยๆ เฮงๆ กับของมงคลรับวันตรุษจีน

เปิดอ่าน 25,814 ครั้ง
วิจัยชี้ 22ตำหรับอาหารไทยต้านโรคมะเร็ง
วิจัยชี้ 22ตำหรับอาหารไทยต้านโรคมะเร็ง

เปิดอ่าน 22,577 ครั้ง
ดูแลขั้นพื้นฐานสู่ผิวสุขภาพดี
ดูแลขั้นพื้นฐานสู่ผิวสุขภาพดี

เปิดอ่าน 1,710 ครั้ง
วิธีรับมือกับสายแคมป์ท้ายโซนในเกม Garena Free Fire
วิธีรับมือกับสายแคมป์ท้ายโซนในเกม Garena Free Fire

เปิดอ่าน 19,490 ครั้ง
(ก.ค.ศ.)ปัจจัยด้านขวัญของข้าราชการครูปฏิบัติการสอนฯ
(ก.ค.ศ.)ปัจจัยด้านขวัญของข้าราชการครูปฏิบัติการสอนฯ

เปิดอ่าน 5,155 ครั้ง
ภาษาอีสานน่ารู้
ภาษาอีสานน่ารู้

เปิดอ่าน 67,009 ครั้ง
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม(2560)
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม(2560)

เปิดอ่าน 22,036 ครั้ง
บิดาอีเลิร์นนิ่งไทย (Father of Thai E-learning)
บิดาอีเลิร์นนิ่งไทย (Father of Thai E-learning)
เปิดอ่าน 18,756 ครั้ง
เอกสารการใช้ผลสอบ O-NET เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียน 80:20
เอกสารการใช้ผลสอบ O-NET เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียน 80:20
เปิดอ่าน 18,660 ครั้ง
เผยวิธีหุงข้าว ที่กินแล้วไม่อ้วน
เผยวิธีหุงข้าว ที่กินแล้วไม่อ้วน
เปิดอ่าน 11,112 ครั้ง
"พอล"หมึกยักษ์..นักทำนาย ต้นตระกูลกำเนิดยุคแคมเบรียน
"พอล"หมึกยักษ์..นักทำนาย ต้นตระกูลกำเนิดยุคแคมเบรียน
เปิดอ่าน 48,882 ครั้ง
อะโดบีชี้ คนทำงานออฟฟิศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มองว่าเทคโนโลยีสำคัญกว่าสวัสดิการอื่นๆ ในที่ทำงาน
อะโดบีชี้ คนทำงานออฟฟิศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มองว่าเทคโนโลยีสำคัญกว่าสวัสดิการอื่นๆ ในที่ทำงาน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ