ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ เพื่อส่งเสริมความซื่อสัตย์ ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์

เพื่อส่งเสริมความซื่อสัตย์ ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2

ผู้วิจัย นางสาวสโรชา ยาวะโนภาส

สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๓ ห้าธันวาคม ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร

สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองยโสธร

ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ 2) เพื่อสร้างและตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้ 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของเด็กปฐมวัยที่มีต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์แบบเน้นประสบการณ์ เพื่อส่งเสริมความซื่อสัตย์ ของเด็กปฐมวัย

การดำเนินการวิจัยเป็นแบบวิจัยและพัฒนา 4 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 ขั้นศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์ ขั้นที่ 2 ขั้นสร้างและตรวจสอบรูปแบบการจัดประสบการณ์ ขั้นที่ 3 ขั้นทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์ และขั้นที่ 4 ขั้นศึกษาความพึงพอใจของเด็กปฐมวัยที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ เด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2/1 โรงเรียนเทศบาล ๓ ห้าธันวาคม กองการศึกษา เทศบาลเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 31 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ทำการทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น ใช้เวลาในการทดลองทั้งสิ้น 8 สัปดาห์ โดยใช้แบบแผนการวิจัย One-Group Pretest-Posttest Design ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วย แบบประเมินความซื่อสัตย์ ของเด็กปฐมวัย และแบบสังเกตพฤติกรรมความซื่อสัตย์ของเด็กปฐมวัย แล้ววิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติทดสอบที (t-test แบบ Dependent)

ผลการวิจัยปรากฏดังนี้

1. ผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่านเห็นความสำคัญของการพัฒนาความซื่อสัตย์ในเด็กปฐมวัย เพราะเป็นวัยที่มีความสำคัญในการพัฒนาจริยธรรม เป็นระยะที่สำคัญที่สุดของการพัฒนาในทุกด้าน ครูควรเน้นพัฒนาความซื่อสัตย์ด้วยการสอนเด็กให้พูดความจริง ไม่โกหก รักษาคำพูด ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ไม่เอาของคนอื่นมาเป็นของตนเอง มีความยุติธรรม การพัฒนาความซื่อสัตย์ในเด็กปฐมวัย ควรมี การใช้วิธีการที่หลากหลาย จัดประสบการณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อม การสร้างกิจกรรมให้เด็ก มีปฏิสัมพันธ์ สอนแบบธรรมชาติ ใช้ประสบการณ์จริง สถานการณ์จริง ให้เด็กมีโอกาสฟัง เดิน สังเกต ทดลอง เน้นการลงมือกระทำ ฝึกในเรื่องของชีวิตประจำวัน และโยงให้เข้ากับจริยธรรมที่ครูต้องการพัฒนา

2. รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น คือ รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ เพื่อส่งเสริมความซื่อสัตย์ ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ สาระ กระบวนการจัดประสบการณ์ และ การประเมินผล โดยกระบวนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้มี 4 ขั้นตอน ตามกระบวนการของ CTCA คือ 1) สร้างประสบการณ์รูปธรรม 2) ร่วมคิดร่วมทำ 3) สรุป และ 4) นำไปใช้ เมื่อนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคุณภาพ พบว่า โดยภาพรวมรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ มีความเหมาะสม ในระดับมากที่สุดและเมื่อนำไปทดลองนำร่องพบว่า รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่สร้างขึ้น มีความเหมาะสม สามารถนำไปทดลองได้

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ พบว่า ความซื่อสัตย์ของเด็กปฐมวัยหลังการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์ที่พัฒนาขึ้นสูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. เด็กปฐมวัยส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดประสบการณ์ที่พัฒนาขึ้น เด็กอยากเรียนรู้และมีความสนใจในกิจกรรมที่ครูจัดให้ เด็กได้ร่วมกิจกรรมกับครู โดยผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย สนองตอบความต้องการของตนเองและยังส่งเสริมความซื่อสัตย์ให้กับเด็กปฐมวัยอีกด้วย

โพสต์โดย ครูมัม : [17 ส.ค. 2562 เวลา 16:10 น.]
อ่าน [3420] ไอพี : 171.4.25.28
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 18,594 ครั้ง
เคล็ดลับ จำง่าย การอ่านหนังสือเตรียมสอบครูผู้ช่วย
เคล็ดลับ จำง่าย การอ่านหนังสือเตรียมสอบครูผู้ช่วย

เปิดอ่าน 15,678 ครั้ง
ไทยปรับเวลาใหม่ ให้ตรงกันทั่ว ปท. บังคับใช้เริ่ม 23สค.
ไทยปรับเวลาใหม่ ให้ตรงกันทั่ว ปท. บังคับใช้เริ่ม 23สค.

เปิดอ่าน 20,818 ครั้ง
จิงจูฉ่าย สุดยอดสมุนไพรจีนบำรุงเลือดลม
จิงจูฉ่าย สุดยอดสมุนไพรจีนบำรุงเลือดลม

เปิดอ่าน 21,350 ครั้ง
เป็นหนี้บัตรเครดิต ธนาคารยึดเงินจากบัญชีเงินเดือนลูกหนี้ได้หรือไม่?
เป็นหนี้บัตรเครดิต ธนาคารยึดเงินจากบัญชีเงินเดือนลูกหนี้ได้หรือไม่?

เปิดอ่าน 13,049 ครั้ง
กูเกิล เผยอันดับคำค้นสุดฮิตของไทย ประจำปี 2013
กูเกิล เผยอันดับคำค้นสุดฮิตของไทย ประจำปี 2013

เปิดอ่าน 20,595 ครั้ง
8 ตำรับใช้ข้าวเป็นยารักษาโรค
8 ตำรับใช้ข้าวเป็นยารักษาโรค

เปิดอ่าน 14,341 ครั้ง
ค่านิยม 12 ประการ "MV ลูกทุ่ง"
ค่านิยม 12 ประการ "MV ลูกทุ่ง"

เปิดอ่าน 10,591 ครั้ง
หญิงไทยอายุต่ำกว่า 40 ปีเป็นมะเร็งเต้านมร้อยละ 33.4 สูงกว่าหญิงมะกัน
หญิงไทยอายุต่ำกว่า 40 ปีเป็นมะเร็งเต้านมร้อยละ 33.4 สูงกว่าหญิงมะกัน

เปิดอ่าน 34,199 ครั้ง
หลักในการบริหารเวลาของคนเป็นครู
หลักในการบริหารเวลาของคนเป็นครู

เปิดอ่าน 12,537 ครั้ง
ยากับน้ำผลไม้ อันตรายกว่าที่คิด
ยากับน้ำผลไม้ อันตรายกว่าที่คิด

เปิดอ่าน 40,453 ครั้ง
รู้ไว้ใช่ว่า...อัตราค่าปรับตามกฎหมายจราจรทางบก
รู้ไว้ใช่ว่า...อัตราค่าปรับตามกฎหมายจราจรทางบก

เปิดอ่าน 20,748 ครั้ง
คลิป "สมรักษ์" แพ้ "จอมโหด"
คลิป "สมรักษ์" แพ้ "จอมโหด"

เปิดอ่าน 41,179 ครั้ง
ประโยชน์ของว่านหางจระเข้
ประโยชน์ของว่านหางจระเข้

เปิดอ่าน 12,186 ครั้ง
พืชพรรณธรรมชาติ ที่ดีต่อผิวพรรณ
พืชพรรณธรรมชาติ ที่ดีต่อผิวพรรณ

เปิดอ่าน 11,308 ครั้ง
คลิปซาบซึ้งความผูกพัน "ครูควรดู-นร.ควรชม"
คลิปซาบซึ้งความผูกพัน "ครูควรดู-นร.ควรชม"

เปิดอ่าน 129,955 ครั้ง
เล่นฮูลาฮูป ลดน้ำหนักได้จริงหรือ?
เล่นฮูลาฮูป ลดน้ำหนักได้จริงหรือ?
เปิดอ่าน 27,001 ครั้ง
องค์ประกอบของมัลติมีเดีย
องค์ประกอบของมัลติมีเดีย
เปิดอ่าน 14,414 ครั้ง
15 วิธีกับ 15 นาที ออกกำลังกายสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา
15 วิธีกับ 15 นาที ออกกำลังกายสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา
เปิดอ่าน 15,136 ครั้ง
ประโยชน์ของ "ตะไคร้หอม"
ประโยชน์ของ "ตะไคร้หอม"
เปิดอ่าน 34,554 ครั้ง
ฝนดาวตกเจมินิดส์
ฝนดาวตกเจมินิดส์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ