ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี 5 โรงเรียนโนนกอกวิทยา 2) พัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี 5 โรงเรียนโนนกอกวิทยา 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี 5 โรงเรียนโนนกอกวิทยาและ 4) ประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี 5 โรงเรียนโนนกอกวิทยา กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนโนนกอกวิทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) 1 ห้องเรียน จำนวน 45 คน ที่กำลังศึกษาภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนโนนกอกวิทยา การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยใช้แบบแผนการวิจัยแบบ One-Group Pretest - Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี 5 โรงเรียนโนนกอกวิทยา 2) คู่มือการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี 5 โรงเรียนโนนกอกวิทยา 3) แผนการจัดการเรียนรู้ 4) แบบสัมภาษณ์ 5) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 6) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา และ 7) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ยค่า ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ สถิติทีแบบไม่อิสระ และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัย พบว่า

1. การศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี 5 โรงเรียนโนนกอกวิทยา พบว่า รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี 5 โรงเรียนโนนกอกวิทยา มีความจำเป็น เนื่องจากการศึกษาเอกสาร ตำรา งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สัมภาษณ์อย่างไม่เป็นทางการ การสอบถามความคิดเห็นของนักเรียน ครูผู้สอน ผู้เชี่ยวชาญ ในทุกขั้นตอน ผู้วิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลและนำแนวทางมาสังเคราะห์ นำมาพัฒนาเป็นรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี 5 โรงเรียนโนนกอกวิทยา ขึ้นใหม่เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของนักเรียนและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งในด้านรูปแบบ เนื้อหา การจัดกิจกรรมการเรียน และการวัดผลประเมินผล ตามแนวทางการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

2. รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี 5 โรงเรียนโนนกอกวิทยาที่พัฒนาขึ้นมีชื่อว่า “PURKSSEPE Model” โดยมีองค์ประกอบ 4 องค์ประกอบ ประกอบด้วย 1) องค์ประกอบเชิงหลักการและวัตถุประสงค์ หลักการคือ เชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ นำไปสู่การสร้างความรู้ของตนเองด้วยกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์และการร่วมมือกันเรียนรู้ วัตถุประสงค์คือ เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียน และเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน 2) องค์ประกอบเชิงกระบวนการ กระบวนการเรียนการสอนมี 6 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นการกำหนดปัญหา (Problem determination : P) 2) ขั้นทำความเข้าใจกับปัญหา (Understand the problem : U) 3) ขั้นการดำเนินการศึกษาค้นคว้าและกิจกรรมนอกเวลาเรียน (Research : R) 4) ขั้นสังเคราะห์ความรู้ (Knowledge Synthesis : KS) 5) ขั้นสรุปและประเมินค่าของคำตอบ (Summarize and Evaluate : SE) และ 6) ขั้นนำเสนอและประเมินผลงาน (Presentation and Evaluation : PE) 3) การวัดและประเมินผล วัดและประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความสามารถในการแก้ปัญหา และ 4) องค์ประกอบเชิงเงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ คือ ปัจจัยที่เอื้อต่อการเรียนรู้ : การเตรียมความพร้อมในการเรียน สมาธิในการเรียนอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศการเรียนการสอน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และก่อนการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบ ผู้เรียนต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานสำหรับการเรียนรู้เนื้อหาใหม่ (Prerequisite Knowledge) ปัจจัยสนับสนุน : การเตรียมความพร้อมก่อนนำรูปแบบไปใช้ 1) ผู้สอนต้องศึกษาทำความเข้าใจองค์ประกอบของรูปแบบการเรียนการสอนและกระบวนการต่างๆ ทุกขั้นตอน พร้อมทั้งทำความเข้าใจกับผู้เรียน ให้ผู้เรียนเข้าใจองค์ประกอบของรูปแบบการเรียนการสอนและกระบวนการต่างๆ ทุกขั้นตอน 2) ผู้สอนต้องมีความรู้ความสามารถในด้านเทคนิควิธีสอนที่ใช้ในรูปแบบการเรียนการสอน มีทักษะการสอน การบริหารจัดการชั้นเรียนและสามารถประเมินผลตามสภาพจริง และ 3) ผู้สอนต้องมีทักษะการเชื่อมโยง ทักษะการให้เหตุผล ทักษะการใช้กระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการใช้คำถามและสามารถถ่ายทอดทักษะเหล่านี้สู่ผู้เรียน พบว่ารูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 81.03/82.32 มีค่าสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80

3. ทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี 5 โรงเรียนโนนกอกวิทยา จำนวน 45 คน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 ทดลองใช้ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2561 – 28 สิงหาคม 2561 รวมเวลาในการดำเนินการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนทั้งหมด 9 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง และอีก 1 ชั่วโมง ในสัปดาห์ที่ 10 รวม 28 ชั่วโมง ได้ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอน เท่ากับ 80.06/81.85 มีค่าสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80

4. การประเมินประสิทธิผลและปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา (PURKSSEPE Model) มีดังนี้

4.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เรื่อง ฟังก์ชันตรีโกณมิติก่อนและหลัง

การใช้รูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา (PURKSSEPE Model) แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยคะแนนเฉลี่ยหลังจากการใช้รูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา (PURKSSEPE Model) สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา (PURKSSEPE Model)

4.2 ความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียน เรื่อง ฟังก์ชันตรีโกณมิติ ก่อนและหลังการใช้รูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา (PURKSSEPE Model) แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยคะแนนเฉลี่ยหลังจากการใช้รูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา (PURKSSEPE Model) สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา (PURKSSEPE Model)

4.3 ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา (PURKSSEPE Model) โดยรวมอยู่ในระดับมาก และความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) คือ นักเรียนบางคนมีความคิดเห็นว่าควรมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา (PURKSSEPE Model) ในวิชาฟิสิกส์ เคมี โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ เพราะทำให้ได้ทักษะในการแก้ปัญหา และยังช่วยให้เกิดทักษะการคิดวิเคราะห์และการเชื่อมโยงความรู้ไปยังศาสตร์อื่นๆ และการปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา (PURKSSEPE Model) โดยการนำผลการเรียนรู้ที่ได้จากการทำกิจกรรมระหว่างเรียน เรื่อง ฟังก์ชันตรีโกณมิติหลังการเรียนแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้มาจัดเสนอเป็นคะแนน และปรับปรุงรูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา (PURKSSEPE Model) ให้มีความเหมาะสมในการนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนครั้งต่อไป เช่น ใช้สื่อการเรียนรู้ที่พบในชีวิตประจำวัน การปรับใบกิจกรรม ใบงานและแบบทดสอบท้ายแผนแต่ละแผนให้กระชับและไม่มากจนเกินไป

โพสต์โดย ประมวล คิดควร : [25 เม.ย. 2563 เวลา 14:03 น.]
อ่าน [4340] ไอพี : 113.53.19.96
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 42,077 ครั้ง
พืชที่ใช้แต่งสีอาหาร หรือให้สีย้อม
พืชที่ใช้แต่งสีอาหาร หรือให้สีย้อม

เปิดอ่าน 9,960 ครั้ง
เด็กนั่งกลางที่เบาะหลังรถ มีแนวโน้มเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ
เด็กนั่งกลางที่เบาะหลังรถ มีแนวโน้มเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ

เปิดอ่าน 10,874 ครั้ง
"เดอะ เกรท ไฟร์วอลล์" กรณีศึกษา "อินเทอร์เน็ต เกตเวย์" จากจีน
"เดอะ เกรท ไฟร์วอลล์" กรณีศึกษา "อินเทอร์เน็ต เกตเวย์" จากจีน

เปิดอ่าน 18,136 ครั้ง
แนะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้คุณ "หมดไฟ" ในการทำงาน
แนะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้คุณ "หมดไฟ" ในการทำงาน

เปิดอ่าน 22,119 ครั้ง
16 ของมงคล แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย!!
16 ของมงคล แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย!!

เปิดอ่าน 9,173 ครั้ง
ประทับใจ! คลิปช่วยลูกช้างขึ้นจากหลุม ก่อนวิ่งหาแม่ด้วยความดีใจ
ประทับใจ! คลิปช่วยลูกช้างขึ้นจากหลุม ก่อนวิ่งหาแม่ด้วยความดีใจ

เปิดอ่าน 72,543 ครั้ง
เฉลยที่มาคำถาม ... "อยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน .. วันนี้จะได้เป็นวันศุกร์"
เฉลยที่มาคำถาม ... "อยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน .. วันนี้จะได้เป็นวันศุกร์"

เปิดอ่าน 19,186 ครั้ง
ร่างหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินการปฏิบัติงานของข้าราชการ และ[คำสั่งมอบอำนาจการสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือน
ร่างหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินการปฏิบัติงานของข้าราชการ และ[คำสั่งมอบอำนาจการสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือน

เปิดอ่าน 10,374 ครั้ง
จัดสิ่งแวดล้อมหน้าจอคอมพ์ ช่วยสุขภาพดี-ทำงาน มีสุข
จัดสิ่งแวดล้อมหน้าจอคอมพ์ ช่วยสุขภาพดี-ทำงาน มีสุข

เปิดอ่าน 9,834 ครั้ง
ใยอาหาร สำคัญกว่าที่คิด
ใยอาหาร สำคัญกว่าที่คิด

เปิดอ่าน 17,453 ครั้ง
วิธีการพับเสื้อยืดอย่างรวดเร็ว
วิธีการพับเสื้อยืดอย่างรวดเร็ว

เปิดอ่าน 139,796 ครั้ง
ศาสตราจารย์ศิลป์  พีระศรี
ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี

เปิดอ่าน 8,352 ครั้ง
พ่อแม่สามารถส่งความรู้สึกให้ลูกก่อนเกิดได้
พ่อแม่สามารถส่งความรู้สึกให้ลูกก่อนเกิดได้

เปิดอ่าน 18,538 ครั้ง
20 กันยายน วันเยาวชนแห่งชาติ
20 กันยายน วันเยาวชนแห่งชาติ

เปิดอ่าน 12,207 ครั้ง
ออกกำลังกายเป็นประจำทำให้เงินเดือนสูงขึ้น
ออกกำลังกายเป็นประจำทำให้เงินเดือนสูงขึ้น

เปิดอ่าน 15,501 ครั้ง
7 เคล็ดลับ รักษามือให้น่าหลงใหล
7 เคล็ดลับ รักษามือให้น่าหลงใหล
เปิดอ่าน 20,215 ครั้ง
ระกำ
ระกำ
เปิดอ่าน 15,143 ครั้ง
จำปี ดอกจำปี ต้นจำปี
จำปี ดอกจำปี ต้นจำปี
เปิดอ่าน 17,163 ครั้ง
ฮอร์โมนเพศชายDHT-ต้นตอศีรษะล้าน
ฮอร์โมนเพศชายDHT-ต้นตอศีรษะล้าน
เปิดอ่าน 13,093 ครั้ง
ข้อดี เคี้ยวช้าลง เสริมสุขภาพให้ดีขึ้นได้
ข้อดี เคี้ยวช้าลง เสริมสุขภาพให้ดีขึ้นได้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ