ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
แบบเสนอผลงาน/นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ชื่อผลงาน การพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียน เรียนรู้ตัวสะกด โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบ Active Learning ด้วยชุดแบบฝึกทักษะการ

1. ชื่อผู้เสนอผลงาน นางสาวจันทร์ทิพย์ แก้วก่า. ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียน อนุบาลพรรณานิคม สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 2

โทรศัพท์ 096-0573153

2. ความสำคัญของผลงาน

การสอนภาษาไทยในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ประสบปัญหาหลายอย่างเพราะเป็นชั้นเริ่มแรกเป็นรากฐานสำคัญในการเรียน ผู้เรียนยังไม่มีประสบการณ์ในด้านการอ่านเขียน วุฒิภาวะยังเด็กเมื่อได้เริ่มฝึกทักษะการอ่านและ การเขียนจะรู้สึกว่ายุ่งยาก ซับซ้อน ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับครูผู้สอนที่จะหาเทคนิควิธีให้ประสบผลสำเร็จ การอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ตั้งแต่เริ่มต้นในชั้นต่อไปก็จะเรียนกลุ่มสาระอื่นๆ ไม่เข้าใจ จึงควรได้รับการเอาใจใส่เป็นพิเศษ การฝึกทักษะภาษาไทยต้องอาศัยองค์ประกอบหลายๆอย่าง เช่น การฝึกย้ำซ้ำทวน ฝึกบ่อยๆ จึงจะทำให้ผู้เรียนจำได้ ฟังเข้าใจ พูด อ่านและเขียนได้ถูกต้อง วิธีที่จะฝึกทักษะทางภาษาให้ได้ผลดีอีกวิธีหนึ่งคือได้ลงมือปฏิบัติจริงเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจและทักษะเพิ่มขึ้น การสอนภาษาไทยที่ครูใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นการสอนแบบบรรยายนักเรียนอ่านตามครู เขียนตามครูยึดเนื้อหาในหนังสือเรียนเป็นหลัก ไม่มีสิ่งเร้าใจ ใช้เทคนิคเดิม ๆ ผู้เรียนเบื่อหน่ายไม่สนใจการเรียน ดังนั้น จากการศึกษาค้นคว้าผู้ศึกษาพบว่า การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เป็นกระบวนการเรียนการสอนที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในชั้นเรียน สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูผู้สอนกับผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ โดยมีครูเป็นผู้อำนวยความสะดวก สร้างแรงบันดาลใจ ให้คำปรึกษา ดูแล แนะนำ จัดวิธีการเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความหมาย สร้างองค์ความรู้ได้ มีความเข้าใจในตนเอง ใช้สติปัญญา คิด วิเคราะห์ สร้างสรรค์ผลงาน มีสมรรถนะสำคัญ มีทักษะวิชาการ ทักษะชีวิต บรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ตามระดับช่วงวัย การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยแบบฝึกทักษะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจในบทเรียนได้ดีขึ้นเพราะแบบฝึกทักษะเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการสอนภาษา แบบฝึกทักษะจะทำให้เด็กเกิดความแม่นยำ คล่องแคล่วในแต่ละทักษะ สามารถใช้ภาษาสื่อความหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความคิดและเหตุผล และยังสามารถเร้าความสนใจของนักเรียนได้เป็นอย่างดีและสร้างความสนุกสนานโดยไม่เกิดความเบื่อหน่ายในการฝึกซ้ำ ดังนั้นการสอนภาษาไทยให้นักเรียนมีทักษะในการฟัง พูด อ่านและเขียนภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่ว รวดเร็วและถูกต้อง เครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งที่ใช้ฝึกทักษะทางภาษา คือ แบบฝึก ดังที่กรมวิชาการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การสอนภาษาไทยให้สนุกต้องให้นักเรียนได้ทำแบบฝึกหัดให้มากที่สุด ในแบบฝึกหัดนั้นย่อมมีคำตอบที่ถูกและผิด เมื่อครูชี้แจงให้ทราบว่าข้อไหนถูกและข้อไหนผิดจะทำให้นักเรียนรู้สึกสนุกยิ่งขึ้น การใช้แบบฝึกเป็นสื่อการสอนที่จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้เรียนได้ศึกษาทำความเข้าใจ ฝึกฝนจนเกิดแนวคิดที่ถูกต้องและเกิดทักษะในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง นอกจากนี้แบบฝึกหัดยังเป็นเครื่องช่วยบ่งชี้ให้ครูทราบว่าผู้เรียนหรือผู้ใช้แบบฝึกมีความรู้ความเข้าใจบทเรียนและสามารถนำความรู้ไปใช้ได้มากน้อยเพียงใด แบบฝึกมีความสำคัญในการพัฒนาการเรียนการสอน และมีความสำคัญในการช่วยเหลือให้นักเรียนพัฒนาทักษะทางภาษา ซึ่งในการฝึกทักษะจำเป็นต้องอาศัยแบบฝึกทักษะในการฝึกฝน หรือฝึกปฏิบัติเพื่อให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้จากการปฏิบัติด้วยตนเองและช่วยให้ผู้เรียนสามารถเขียนได้ถูกต้องแม่นยำ สื่อความหมายได้และเกิดการเรียนรู้ได้ดี

จากหลักการและเหตุผลดังกล่าว ผู้ศึกษาจึงได้ดำเนินการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ด้านทักษะการอ่านและการเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ด้วยแบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านและการเขียนคำมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนเกิดการพัฒนาทางด้านการอ่านและการเขียนคำมาตราตัวสะกดได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นพื้นฐานสำคัญในการเรียนรู้ในระดับสูงขึ้นต่อไป

3. จุดประสงค์

1. เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนคำมาตราตัวสะกด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

2. เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนเรียนรู้ตัวสะกดก่อนและหลังเรียน โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

4. กระบวนการการจัดการเรียนรู้ด้วย Active Learning

4.1 ศึกษาเอกสารหลักสูตรสถานศึกษา แนวคิดทฤษฏีการเรียนการสอน

4.2 ศึกษาปัญหาของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลที่พบในการจัดการเรียนการสอน

4.3 ศึกษาเทคนิคการสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียน เพื่อให้เหมาะสมกับเนื้อหาและผู้เรียน

4.4 สร้างแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนสะกดคำ จำนวน 9 เล่ม ดังนี้

เล่มที่ 1 มาตราแม่ ก กา

เล่มที่ 2 มาตราตัวสะกดแม่กง

เล่มที่ 3 มาตราตัวสะกดแม่กม

เล่มที่ 4 มาตราตัวสะกดแม่กน

เล่มที่ 5 มาตราตัวสะกดแม่เกย

เล่มที่ 6 มาตราตัวสะกดแม่เกอว

เล่มที่ 7 มาตราตัวสะกดแม่กก

เล่มที่ 8 มาตราตัวสะกดแม่กด

เล่มที่ 9 มาตราตัวสะกดแม่กบ

4.5 สร้างแบบประเมินผลการอ่านก่อนเรียน - หลังเรียน 4.6 ประเมินผลการอ่านก่อนใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

4.7 ดำเนินการจัดกิจกรรมประจำวันระหว่างวันที่ 3-20 มิภุนายน 2565 โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

4.8 ประเมินผลการอ่านหลังใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

4.9 การเก็บรวบรวมข้อมูลในสถานการณ์จริงในชั้นเรียน โดยใช้แบบประเมินผลการอ่าน และการเขียนก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนระหว่างจัดกิจกรรมการเรียนการสอน

4.9 วิเคราะห์ข้อมูล ข้อมูลที่รวบรวมได้จากแบบทดสอบอ่านคำพื้นฐานก่อนเรียนและหลังเรียน นำมาวิเคราะห์ หาค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) แล้วเปรียบเทียบคะแนนความก้าวหน้าของนักเรียนแต่ละคน

5. ผลการดำเนินการ/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่ได้รับ

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/2 โรงเรียนอนุบาลพรรณานิคม ทั้งหมดรวม 23 คน มีการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน แล้วจึงดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หลังจากนั้นจึงทำการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียน แล้วจึงนำผลมาเก็บรวบรวม ข้อมูลก่อนเรียนและหลังเรียนที่รวบรวมได้ สรุปได้ว่านักเรียนทั้ง 23 คน มีความก้าวหน้าในการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำมาตราตัวสะกด ดังนี้

ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของนักเรียนในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning

ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

การฝึก จำนวนนักเรียน ผลรวม

X ค่าเฉลี่ย

X

ร้อยละ

ค่า S.D

ก่อนเรียน 23 คน 301 13.09 43.62 3.74

หลังเรียน 23 คน 607 26.33 87.97 2.90

จากตารางสรุปได้ว่าการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและ การเขียนคำมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 43.62 หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 87.97 จะเห็นได้ว่าคะแนนของค่าเฉลี่ยหลังเรียนมีค่ามากกว่าคะแนนเฉลี่ย

ก่อนเรียน และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของก่อนเรียนมีค่าเท่ากับ 3.74 ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานหลังเรียนมีค่าเท่ากับ 2.90 แสดงว่าข้อมูลมีค่าคะแนนใกล้เคียงกัน ผลของการจัดการเรียนครั้งนี้ทำให้ได้วิธีการสอนคำมาตราตัวสะกด โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อันจะเป็นแนวทางสำหรับครูผู้สอนได้นำไปใช้พัฒนากระบวนการเรียนการสอนภาษาไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผลที่เกิดกับโรงเรียน จากการวัดและประเมินผล ความสามารถในการอ่านและการเขียน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปี่ที่ 1/2 เมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 พบว่า มีคะแนนการอ่านออกเสียงโดยเฉลี่ย 19.43 คะแนน คิดเป็นคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 93.35 มีคะแนนการเขียนโดยเฉลี่ย 16.17 คะแนน คิดเป็นคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 80.87 รวมความสามารถทั้งสองด้าน 17.75 คะแนน คิดเป็นคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 88.11 ซึ่งผลสัมฤทธิ์ทางด้านการอ่านการเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ร้อยละ 85

ผลที่เกิดกับครู คือ จากการทำ นวัตกรรมวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ชุดแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียน โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ Active Learning เป็น นวัตกรรมที่ครูสามารถนำมาใช้จัดกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และนวัตกรรม นี้สามารถนำไปเผยแพร่ให้คุณครูชั้นอื่นได้นำเอาวิธีการและหลักการในนวัตกรรมนี้ไปแก้ไขปัญหาเด็กอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ในแต่ละชั้นได้ จะทำให้แต่ละชั้นนั้นจะเป็นชั้นที่ปลอดนักเรียนอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ และส่งผลให้ ผลสัมฤทธิ์ทางด้านการเรียนในแต่ละวิชาเพิ่มสูงขึ้น

ผลที่เกิดกับนักเรียน คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความสามารถด้านการอ่านและการเขียน อยู่ในระดับที่สูงมาก และจากผลการวัดและประเมินผล “ความสามารถในการอ่านและเขียน” ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาลพรรณานิคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 2 ในเดือนกรกฎาคม 2565 พบว่า นักเรียนมีความสามารถด้านการอ่าน และเขียน อยู่ในระดับที่สูง เป็นที่น่าพึงพอใจของผู้บริหาร คณะครูและผู้ปกครองเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ นักเรียนยังมีระเบียบวินัย ใฝ่เรียนรู้

6. ปัจจัยความสำเร็จ

จากการดำเนินงานพัฒนาการอ่าน การเขียนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาลพรรณานิคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 2 โดยใช้นวัตกรรมวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ชื่อ การพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียน เรียนรู้ตัวสะกด โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยชุดแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนคำมาตราตัวสะกด สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โดยการบูรณาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทย นั้นข้าพเจ้าได้นำหลักการและทฤษฎีที่คิดค้นขึ้นมา นอกจากนั้นข้าพเจ้าได้รับการ สนับสนุนและให้ความร่วมมือกับบุคคล หน่วยงาน และภาคีเครือข่าย ดังนี้

หน่วยงานต้นสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 2 ได้ส่งเสริมให้ความรู้การพัฒนาสื่อ การจัดทำนวัตกรรม ผู้บริหาร ครู และนักเรียนโรงเรียนอนุบาลพรรณานิคม เป็นแรงขับเคลื่อนในการดำเนินการพัฒนา นวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการอ่านและการเขียน

มีการปรึกษา ประชุมและวางแผนการร่วมกิจกรรมสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) กับคณะครูในโรงเรียน

ผู้บริหารให้การสนับสนุนด้านสื่อ อุปกรณ์ งบประมาณบางส่วนในการจัดกิจกรรมพัฒนาด้านการอ่าน การเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เพื่อแก้ไขปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ และ ยังมีการนิเทศติดตาม ประเมินผลทุกภาคเรียนเพื่อนำผลมาถอดบทเรียนและวางแผนร่วมกันในภาคเรียนต่อไป ทำ ให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ภาคเครือข่ายผู้ปกครอง ผู้ปกครองมีการสนับสนุนและมีการเข้าร่วมประชุมวางแผนในการจัด กระบวนการเรียนการสอนที่แก้ไขปัญหานักเรียนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ มีการเข้าร่วมพูดคุยและหาแนวทางแก้ไข รวมไปถึงรับทราบแนวทางในการปฏิบัติและให้ความร่วมมือกับคุณครูอย่างเต็มที่ ครูได้จัดทำแบบฝึกอ่าน ฝึกเขียนเรียนรู้ตัวสะกด แจกให้นักเรียนคนละ 1 เล่ม เพื่อให้ผู้ปกครองได้ช่วยฝึกทักษะการอ่าน และการเขียนที่บ้าน พร้อมทั้งส่งคลิปการอ่านเข้ามาในกลุ่มไลน์ จากการปฏิบัติกิจกรรมดังกล่าว พบว่า ผู้ปกครองมีความใส่ใจในการพัฒนาพร้อมๆกับคุณครูเป็นอย่างมาก ทำให้ การดำเนินงานพัฒนานวัตกรรมการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

7. บทเรียนที่ได้รับ ปรับปรุงคุณภาพมุ่งพัฒนาต่อไป

- ระบุข้อสรุป ข้อสังเกต /ข้อเสนอแนะ และข้อควรระวัง ที่เป็นแนวทางในการนำผลงานไปใช้/

พัฒนาต่อ หรือดำเนินการให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นต่อไป

ผลการจัดการเรียนรู้ในครั้งนี้ปรากฏว่า ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของนักเรียนหลังการใช้แบบฝึกทักษะ การอ่านและการเขียนคำมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีคุณภาพและประสิทธิภาพอย่างดียิ่ง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1. การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็น

ศูนย์กลาง มุ่งให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง มีส่วนร่วมในรูปแบบของความร่วมมือกัน ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น

2. แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

เป็นสื่อที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพตามผลของการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าว

3. แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

ชุดนี้สร้างขึ้นอย่างถูกวิธี ได้ผ่านขั้นตอนการสร้างและพัฒนาอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่เอกสารหลักสูตรและเอกสารที่เกี่ยวข้องในการใช้หลักสูตร และยังได้รับการแนะนำ ข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านเนื้อหาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ความเหมาะสมของเนื้อหา

4. การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำมาตรา

ตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 นักเรียนเกิดความสนุกสนานในการเรียนรู้

5. การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เรื่องคำมาตราตัวสะกด ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ได้เรียงลำดับความยากง่ายสอดคล้องตามธรรมชาติการเรียนรู้ ทำให้เรียนรู้สึกว่าตนเองประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ จึงสรุปได้ว่าแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง สามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

ข้อเสนอแนะ

จากผลการจัดการเรียนรู้ในครั้งนี้มีข้อเสนอแนะเพื่อประโยชน์ต่อวงการศึกษาดังนี้

1. ก่อนนำแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ไปใช้ประกอบการสอน ผู้สอนควรศึกษารายละเอียดของทุกกิจกรรมก่อนนำไปใช้

2. แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา

ปีที่ 1 นี้ จะเกิดความสมบูรณ์ครูผู้สอนต้องใช้ควบคู่ไปกับแผนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้จัดทำผลงานจัดทำขึ้น

จัดกิจกรรมให้ครบทุกขั้นตอน ต้องตรวจแบบฝึกอย่างเป็นปัจจุบันให้ผู้เรียนรู้ผลทันที พร้อมกับเฉลยคำตอบที่ถูกต้องให้ผู้เรียนได้รู้ทุกครั้ง

โพสต์โดย ครูปู : [25 ก.ย. 2565 เวลา 23:35 น.]
อ่าน [1874] ไอพี : 223.24.158.107
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,579 ครั้ง
เผยอีโคไลตัวใหม่ ทนยาปฏิชีวนะ ถึงตายได้
เผยอีโคไลตัวใหม่ ทนยาปฏิชีวนะ ถึงตายได้

เปิดอ่าน 9,796 ครั้ง
ล้างมืออย่างไร ให้สะอาดสูงสุด
ล้างมืออย่างไร ให้สะอาดสูงสุด

เปิดอ่าน 11,485 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง การประชุมทางไกล "เครือข่ายโรงเรียนดีใกล้บ้าน" 2 ธันวาคม 2559
รับชมย้อนหลัง การประชุมทางไกล "เครือข่ายโรงเรียนดีใกล้บ้าน" 2 ธันวาคม 2559

เปิดอ่าน 10,841 ครั้ง
ความลับของชาเขียว
ความลับของชาเขียว

เปิดอ่าน 16,747 ครั้ง
ชาวเน็ตร่วมพิสูจน์! คลิปพญานาคโผล่เล่นน้ำสกลนคร...จริงหรือ?
ชาวเน็ตร่วมพิสูจน์! คลิปพญานาคโผล่เล่นน้ำสกลนคร...จริงหรือ?

เปิดอ่าน 12,732 ครั้ง
ฮอร์โมนสังเคราะห์รักษาโรคอ้วนได้
ฮอร์โมนสังเคราะห์รักษาโรคอ้วนได้

เปิดอ่าน 30,185 ครั้ง
สัมภาษณ์ "น้องเรนนี่" เด็กไทยอัจฉริยะ สอบได้คะแนนอันดับที่ 1 ของโลก
สัมภาษณ์ "น้องเรนนี่" เด็กไทยอัจฉริยะ สอบได้คะแนนอันดับที่ 1 ของโลก

เปิดอ่าน 25,880 ครั้ง
พายุสุริยะ คืออะไร
พายุสุริยะ คืออะไร

เปิดอ่าน 36,031 ครั้ง
6 ข้อต้องรู้! รบ.แจงผ่อนปรน นั่งแค็บ-ท้ายกระบะ
6 ข้อต้องรู้! รบ.แจงผ่อนปรน นั่งแค็บ-ท้ายกระบะ

เปิดอ่าน 12,081 ครั้ง
ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (1)
ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (1)

เปิดอ่าน 18,255 ครั้ง
ไม่ยากเกินความพยายาม 10 วิธีง่ายๆ ช่วยให้ลูกเก่งภาษา
ไม่ยากเกินความพยายาม 10 วิธีง่ายๆ ช่วยให้ลูกเก่งภาษา

เปิดอ่าน 18,666 ครั้ง
เกร็ดความรู้ เกี่ยวกับน้ำตาลในผัก
เกร็ดความรู้ เกี่ยวกับน้ำตาลในผัก

เปิดอ่าน 12,336 ครั้ง
มาจัดโครงการพัฒนาศักยภาพให้แก่บุคลากรในองค์กรกัน
มาจัดโครงการพัฒนาศักยภาพให้แก่บุคลากรในองค์กรกัน

เปิดอ่าน 30,074 ครั้ง
กินให้ผอมใน 14 วัน! ลองทำดูสิ
กินให้ผอมใน 14 วัน! ลองทำดูสิ

เปิดอ่าน 15,685 ครั้ง
ไหว้ "ตรุษจีน" อย่างถูกต้อง รวม "เคล็ด-ของ" ทำพิธีไหว้เจ้า!!
ไหว้ "ตรุษจีน" อย่างถูกต้อง รวม "เคล็ด-ของ" ทำพิธีไหว้เจ้า!!

เปิดอ่าน 77,646 ครั้ง
กาลามสูตร
กาลามสูตร
เปิดอ่าน 12,353 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการครูฯ เพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์
หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการครูฯ เพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์
เปิดอ่าน 16,658 ครั้ง
มุขตลกของเด็กๆ ในห้องเรียน จำลองห้องเป็นรถเมล์
มุขตลกของเด็กๆ ในห้องเรียน จำลองห้องเป็นรถเมล์
เปิดอ่าน 11,009 ครั้ง
กินแคลเซียมป้องกันโรคกระดูกผุ กลับไปเสี่ยงให้เกิดหัวใจวายขึ้น
กินแคลเซียมป้องกันโรคกระดูกผุ กลับไปเสี่ยงให้เกิดหัวใจวายขึ้น
เปิดอ่าน 8,498 ครั้ง
เทคนิคดูแลเด็กให้สนุกกับการเรียน
เทคนิคดูแลเด็กให้สนุกกับการเรียน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ