ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคม (STS) และการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชื่อวิจัย การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคม (STS)

และการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ผู้วิจัย ดวงฤทัย อุดทุม

ปีที่วิจัย 2564-2565

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อสร้างและตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการเรียนการสอน 2) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอน และ 3) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอน ขั้นตอนการดำเนินการวิจัย มี 4 ขั้นตอน คือ 1) การศึกษาเอกสาร แนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง 2) สร้างและตรวจสอบคุณภาพรูปแบบโดยผู้เชี่ยวชาญประเมินความเหมาะสมของรูปแบบและนำไปทดลองนำร่องกับนักเรียนที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 30 คน 3) ทดลองใช้รูปแบบที่พัฒนาขึ้นกับ กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 2 ของโรงเรียนรัตนบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวนนักเรียน 38 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ใช้เวลาทดลอง 14 ชั่วโมง และ 4) ประเมินผลการใช้รูปแบบ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติทดสอบค่าที (t-test Dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. รูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคม (STS) และการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่พัฒนาขึ้น มี 7 องค์ประกอบหลัก คือ หลักการและแนวคิด วัตถุประสงค์ ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ หลักการตอบสนอง ระบบสนับสนุน เงื่อนไขของการนำรูปแบบไปใช้ การวัดและประเมินผล ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ มี 5 ขั้น ได้แก่ ขั้นที่ 1 กำหนดเป้าหมาย ขั้นที่ 2 สืบค้น ขั้นที่ 3 สังเคราะห์ความรู้ ขั้นที่ 4 แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และขั้นที่ 5 สรุปและประเมินผลงาน ผลการประเมินคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า รูปแบบการเรียนการสอน มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด ( = 4.56, S.D. = 0.50) และผลการทดลองนำร่องกับนักเรียนที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง ได้ค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ 79.83/78.92

2. ผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอน พบว่า

2.1 นักเรียนมีคะแนนการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เซลล์และการทำงานของเซลล์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

2.2 นักเรียนมีคะแนนผลการประเมินทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ โดยรวมหลังเรียน คิดเป็นร้อยละ 58.95 และระดับดี ร้อยละ 41.05 สูงกว่าคะแนนก่อนเรียนที่อยู่อยู่ในระดับพอใช้ ร้อยละ 64.74 และระดับดี ร้อยละ 24.74 องค์ประกอบที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ด้านการวางแผนในการแก้ปัญหา รองลงมาคือ ด้านการทดสอบ ประเมิน และปรับปรุงวิธีการแก้ปัญหาและด้านการระบุปัญหา ตามลำดับ

3. ผลการประเมินรูปแบบการเรียนการสอน พบว่า

3.1 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคม (STS) และการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในระดับ พึงพอใจมากที่สุด ( = 4.55, S.D. = 0.51)

3.2 ครูผู้สอนมีความคิดเห็นว่า รูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคม (STS) และการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด ( = 4.53, S.D. = 0.50)

โพสต์โดย ต่าย : [27 มิ.ย. 2566 เวลา 12:54 น.]
อ่าน [1474] ไอพี : 61.19.68.230
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,258 ครั้ง
3 ปัจจัย ให้ได้งานเมื่อเรียนจบ
3 ปัจจัย ให้ได้งานเมื่อเรียนจบ

เปิดอ่าน 16,911 ครั้ง
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน

เปิดอ่าน 9,780 ครั้ง
จามบ่อย ๆ เสี่ยงเป็นโรคไหมนะ
จามบ่อย ๆ เสี่ยงเป็นโรคไหมนะ

เปิดอ่าน 23,830 ครั้ง
ลายมือแบบไหนคือ "ลายมือเสน่ห์นิยม"
ลายมือแบบไหนคือ "ลายมือเสน่ห์นิยม"

เปิดอ่าน 10,844 ครั้ง
"อัดความรู้" แต่แบเบาะ สร้างอนาคตเด็กได้จริงหรือ?
"อัดความรู้" แต่แบเบาะ สร้างอนาคตเด็กได้จริงหรือ?

เปิดอ่าน 24,990 ครั้ง
รายงานการวิจัยและพัฒนา เรื่อง รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
รายงานการวิจัยและพัฒนา เรื่อง รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 21,200 ครั้ง
ถาม - ตอบ เพื่อสุขภาพ
ถาม - ตอบ เพื่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 52,325 ครั้ง
ที่มาของ "กรุงเทพมหานคร" และ "บางกอก"
ที่มาของ "กรุงเทพมหานคร" และ "บางกอก"

เปิดอ่าน 12,799 ครั้ง
ความลับของ ลูกแพร์หน้าทารก ที่วางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตจีน
ความลับของ ลูกแพร์หน้าทารก ที่วางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตจีน

เปิดอ่าน 14,520 ครั้ง
ดื่ม"กาแฟ"มากเกินไป เสี่ยงตายเพิ่มขึ้น
ดื่ม"กาแฟ"มากเกินไป เสี่ยงตายเพิ่มขึ้น

เปิดอ่าน 15,327 ครั้ง
ตุ๊กตาดินเผา เสริมฮวงจุ้ยให้บ้านเรา
ตุ๊กตาดินเผา เสริมฮวงจุ้ยให้บ้านเรา

เปิดอ่าน 22,014 ครั้ง
เกณฑ์มาตรฐานการเสนอเค้าโครงวิทยานิพนธ์
เกณฑ์มาตรฐานการเสนอเค้าโครงวิทยานิพนธ์

เปิดอ่าน 26,719 ครั้ง
10 เทคนิคการ ซ่อมคอมพิวเตอร์ ด้วยตัวเอง
10 เทคนิคการ ซ่อมคอมพิวเตอร์ ด้วยตัวเอง

เปิดอ่าน 15,997 ครั้ง
เวลาที่ไม่ควรแปรงฟัน
เวลาที่ไม่ควรแปรงฟัน

เปิดอ่าน 9,153 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่2
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่2

เปิดอ่าน 41,343 ครั้ง
แนวทางการจัดประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ตอนที่ 1)
แนวทางการจัดประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ตอนที่ 1)
เปิดอ่าน 15,499 ครั้ง
ตัวอย่างรายชื่อหนังสือเสริมประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัย ปีการศึกษา 2561
ตัวอย่างรายชื่อหนังสือเสริมประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัย ปีการศึกษา 2561
เปิดอ่าน 18,835 ครั้ง
"ยุคนี้ใครๆ ก็อยากเป็นครู" โดย อ.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์
"ยุคนี้ใครๆ ก็อยากเป็นครู" โดย อ.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์
เปิดอ่าน 18,072 ครั้ง
เทคนิคเจ๋งๆที่โรงเรียนไม่เคยสอน
เทคนิคเจ๋งๆที่โรงเรียนไม่เคยสอน
เปิดอ่าน 57,011 ครั้ง
ทำไมเครื่องบินกระดาษจึงบินได้
ทำไมเครื่องบินกระดาษจึงบินได้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ