ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
best practice เรื่อง การพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์การสอบ (NT) ในรายวิชาคณิตศาสตร์ ด้วย Enjoy kids Model ร่วมกับชุดแบบฝึกเสริมทักษะ “สนุกคิด กับคณิตศาสตร์”

1.สภาพปัจจุบัน ปัญหาของผลงานหรือนวัตกรรมที่นำเสนอ

1.1 สภาพปัจจุบัน/ที่มาและความสำคัญ/สภาพปัญหาของผู้เรียน

คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาความคิดมนุษย์ ทำให้มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ มีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณ์ได้อย่างถี่ถ้วนรอบคอบ ช่วยให้คาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ แก้ปัญหาและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม นอกจากนี้คณิตศาสตร์ยังเป็นเครื่องมือในการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและศาสตร์อื่นๆ คณิตศาสตร์จึงมีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข (กรมวิชาการ 2551: น.1) จึงถือได้ว่าคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่สำคัญและจำเป็นมาก ต่อทุกคน ซึ่งตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะอยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รวมทั้งนำนโยบายของรัฐบาลมาขับเคลื่อน เพื่อร่วมกันยกระดับคุณภาพการศึกษาเต็มกำลังความสามารถอย่างเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน ภายใต้แนวทางการทำงาน “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” และใช้สำนวนที่เข้าใจง่ายคือ “เรียนดี มีความสุข” เพื่อเดินทางยกระดับคุณภาพการศึกษาไปด้วยกัน ซึ่งการเรียนการสอนจำเป็นต้องเริ่มจากความสุขทั้งผู้เรียน ผู้สอน และผู้ปกครอง เมื่อมีความสุขจะส่งผลให้การเรียนดีขึ้น เมื่อการเรียนดีขึ้นจะส่งผลกลับไปทำให้มีความสุขมากยิ่งขึ้น

สภาพปัญหาปัจจุบัน จากการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบปัญหาในการแก้โจทย์ปัญหาของนักเรียน คือ ส่วนใหญ่ยังขาดทักษะพื้นฐานในการวิเคราะห์โจทย์ปัญหา อย่างมีระบบ ทำให้นักเรียนไม่สามารถแก้โจทย์ปัญหาที่กำหนดให้ได้ถูกต้องตามหลักการทางคณิตศาสตร์ ส่งผลให้การประเมินการทดสอบระดับชาติ(NT) ด้านคณิตศาสตร์ มีค่าเฉลี่ยในระดับโรงเรียนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ ซึ่งจากวิเคราะห์ผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน(NT) ในปีการศึกษา 2565 พบว่า ค่าเฉลี่ยในระดับโรงเรียนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ ร้อยละ 14.12 โดยค่าเฉลี่ยในระดับโรงเรียน เท่ากับร้อยละ 35.00 ส่วนค่าเฉลี่ยระดับประเทศ เท่ากับร้อยละ 49.12 (อ้างอิงจากรายงานผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน NT 2565)

1.2 แนวทางการแก้ปัญหาและพัฒนา

จากการวิเคราะห์ผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน (NT) ในปีการศึกษา 2565 ประกอบกับ การปฏิบัติการสอนวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านน้ำภาคน้อย ปีการศึกษา 2566 เรื่อง การบวก ลบ คูณ หารระคน ได้สังเกตการตอบคำถามและการแสดงวิธีทำในแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ พบว่า นักเรียนมีปัญหาด้านการดำเนินการแก้โจทย์ปัญหา เนื่องจากไม่สามารถค้นหาคำตอบได้ถูกต้อง พร้อมทั้งมีผลการทดสอบ เรื่อง การบวก ลบ คูณ หารระคน อยู่ในระดับปรับปรุงและพอใช้ ดังนั้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาทักษะด้านการคิดคำนวณที่ดีขึ้น ครูผู้สอนจึงมีแนวคิดที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ร่วมกับการพัฒนานวัตกรรม ชุดแบบฝึกเสริมทักษะ “สนุกคิดส์ กับคณิตศาสตร์” มาปรับประยุกต์ใช้ในการพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เป็นแบบฝึกทักษะที่เน้นการเสริมแรงทางบวกให้นักเรียน ท้าทายความสามารถ เข้าใจง่าย เห็นภาพประกอบที่ชัดเจน มีรูปแบบสวยงามและสามารถฝึกได้ด้วยตนเอง อันจะส่งผลให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หาร ระคนอย่างหลากหลาย เพื่อให้นักเรียนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการทดสอบระดับชาติ (NT) เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์การทดสอบระดับชาติ (NT) ในรายวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2566 ได้ ซึ่งทางผู้สอนเห็นว่า ชุดแบบฝึกเสริมทักษะมีความสำคัญต่อการเรียนรู้ในรายวิชาที่มีการคำนวณเป็นอย่างมาก เพราะการได้รับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้นักเรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้หรือสร้างองค์ความรู้ให้เกิดในตนเอง จนเกิดเป็นทักษะความชำนาญ ความรู้คงทน อีกทั้งชุดแบบฝึกเสริมทักษะยังเป็นเครื่องมือวัดผลการเรียนหลังจากการเรียนรู้และสามารถทบทวนได้ด้วยตนเอง ทำให้ครูมองเห็นปัญหาต่าง ๆ ของนักเรียนได้ชัดเจน ตลอดจนสามารถฝึกฝนได้เต็มที่และเห็นพัฒนาการความก้าวหน้าของนักเรียน ทำให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีความหมายเกิดความภาคภูมิใจและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของท่านพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่มุ่งเน้นตามสำนวนที่ว่า “เรียนดี มีความสุข” จึงได้พัฒนาชุดแบบฝึกเสริมทักษะ“สนุกคิดส์ กับคณิตศาสตร์” นี้ขึ้น ซึ่งมีจำนวน 2 เล่ม ดังนี้

เล่มที่ 1 ประกอบด้วยเนื้อหา ทบทวนการบวกและการลบ ทบทวนการคูณและการหาร หลักการวิเคราะห์โจทย์ปัญหาและคำสำคัญ โจทย์ปัญหาที่มีการบวกและการลบ โจทย์ปัญหาที่มีการคูณและการหาร และการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกฝนจนเกิดทักษะที่แม่นยำ

เล่มที่ 2 จะประกอบด้วยเนื้อหา การตะลุยโจทย์ NT ย้อนหลังตั้งแต่ ปีการศึกษา 2560-2565 เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ลักษณะของโจทย์ปัญหาและแนวข้อสอบที่นักเรียนจะได้เข้ารับการทดสอบใน ปีการศึกษาปัจจุบัน เพื่อเป็นการซ้ำย้ำทวน ให้เกิดความเข้าใจที่คงทน และสามารถนำไปปรับใช้ในการทดสอบระดับชาติ (NT) ปีการศึกษา 2566 ได้จริง

1.3 จุดประสงค์และเป้าหมายการดำเนินงาน

เชิงปริมาณ 1) เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน ของนักเรียนให้มี ผลคะแนนการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าร้อยละ 70 (ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป) คิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด

2) เพื่อยกระดับผลการทดสอบระดับชาติ (NT) ในรายวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านน้ำภาคน้อย ปีการศึกษา 2566 ให้สูงกว่าระดับประเทศ ร้อยละ 3

เชิงคุณภาพ 1) เพื่อยกระดับผลการทดสอบระดับชาติ (NT) ในรายวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านน้ำภาคน้อย ปีการศึกษา 2566 ให้สูงกว่าระดับประเทศ

2) เพื่อพัฒนาชุดแบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านน้ำภาคน้อย สำหรับการเตรียม ความพร้อมในการเข้ารับการทดสอบการประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน (NT)

2. ขั้นตอนการดำเนินงาน

การดำเนินงานเริ่มจากการวิเคราะห์สภาพปัญหาจากการรายงานผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน NT ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2565 พบว่า มีผลการประเมินค่าเฉลี่ยด้านวิชาคณิตศาสตร์ระดับโรงเรียน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ กว่าร้อยละ 14.12 และมีผลการวิเคราะห์ระดับคุณภาพตามมาตรฐาน ส่วนใหญ่อยู่ในระดับปรับปรุงและพอใช้ พร้อมทั้งการศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยศึกษาจากตัวอย่างครูผู้มีความชำนาญด้านการสอนคณิศาสตร์และเข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคณะครูภายในและภายนอกโรงเรียน (PLC) เพื่อค้นหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาด้านคณิตศาสตร์ของนักเรียน พร้อมทั้งศึกษาแนวทางการปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องต่อบริบทของผู้เรียนและมีความเหมาะสมกับสภาพปัญหา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพและสามารถยกระดับผลสัมฤทธิ์การทดสอบระดับชาติ (NT: National Test) ในรายวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านน้ำภาคน้อย ดังนี้

2.1 การออกแบบผลงาน/นวัตกรรม

การดำเนินการพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์

การสอบ (NT) ในรายวิชาคณิตศาสตร์ ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบ Enjoy kids Model ร่วมกับชุดแบบฝึก เสริมทักษะ “สนุกคิด กับคณิตศาสตร์” ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ได้เริ่มต้นด้วยระบบวงจรคุณภาพ (PDCA) ได้พัฒนามาจากกระบวนการ PDCA คือ วงจรการบริหารงานคุณภาพ (สุธาสินี โพธิจันทร์, 2558. : ออนไลน์ ) ย่อมาจาก 4 คำ ได้แก่ Plan (วางแผน), Do (ปฏิบัติ), Check (ตรวจสอบ) และ Act (การดำเนินการให้เหมาะสม) (วชิระ อินทร์อุดม : 2539)

2.2 จัดกระบวนการเรียนรู้ ตาม Enjoy kids Model เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาของนักเรียนไปพร้อมกับการสร้างความสนุกสนานในการเรียน ใช้กระบวนการเสริมแรงทางบวกให้นักเรียน มีความกระตือรือร้นในการฝึกฝนตนเอง จนบรรลุจุดมุ่งหมาย ซึ่ง Enjoy kids Model มี 6 องค์ประกอบดังนี้

1. Enjoy classroom - สนุกกับชั้นเรียน

สร้างบรรยากาศห้องเรียนให้มีความสนุกสนาน นำเข้าสู่บทเรียนด้วยการบริหารสมอง โดยนักเรียนทุกคนได้ร่วมกิจกรรม เข้าจังหวะหรือการใช้เพลง อาทิ เพลงตบมือ ตบตัก ตบไหล่ เพื่อกระตุ้นความสนใจ กระตุ้นการเรียนรู้ สร้างความสนุกสนานและเตรียมพร้อมก่อนเรียน

2. Enjoy Leaning - สนุกกับการเรียนรู้

เน้นให้นักเรียนได้เรียนผ่านกิจกรรม Active Leaning สร้างภาพจำและเจตคติที่ดีต่อการคิดคำนวณ ให้รายวิชาคณิตศาสตร์เป็นเรื่องที่ท้าทายและน่าค้นหา เพื่อพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น โดยมีแนวคิดที่ว่า หากเราทำให้สิ่งที่ยาก(การทำโจทย์ที่รู้สึกว่ายาก)ได้สำเร็จ เราก็จะกลายเป็นผู้ที่เยี่ยมยอด โดยเริ่มจากการวิเคราะห์สิ่งที่โจทย์ถาม สิ่งที่โจทย์กำหนด คำสำคัญ การแสดงวิธีทำและการค้นหาผลลัพธ์ที่ถูกต้อง

3. Enjoy Doing – สนุกกับการลงมือทำ

เน้นให้นักเรียนได้ลงมือทำการแก้ไขโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หาร ระคน โดยการค้นหาคำตอบจากโจทย์ที่กำหนดให้ผ่านการทำกิจกรรมหรือ แบบฝึกเสริมทักษะ ลงมือทำใบงาน ซึ่งมีทั้งเป็นใบงานทั่วไป และใบงานสามมิติ โดยมีรูปแบบที่หลากหลายให้นักเรียนรู้สึกตื่นเต้น อยากลงมือทำ ซึ่งลักษณะงานที่ได้รับมอบหมายมีทั้งงานกลุ่มและงานเดี่ยว เพื่อให้เพื่อนในกลุ่มได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

4. Enjoy Creation – สนุกกับการคิดสร้างสรรค์

ให้นักเรียนได้สร้างสรรค์ผลงานตามจินตนาการของตนเองลงในใบงาน 3 มิติ ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์เอกลักษณ์และก่อเกิดความภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง ให้นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านการเล่น ทำให้มีความกระตือรือร้นในการพัฒนาตนเองและพัฒนาผลงานต่อไป

5. Enjoy Exchange – สนุกกับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนๆ

เมื่อนักเรียนได้สร้างสรรค์ผลงานของตนเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงให้นักเรียนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน เพื่อแสดงผลงาน แสดงวิธีการค้นหาคำตอบและเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กระบวนการคิดหาคำตอบว่าเหมือนหรือแตกต่างกับเพื่อนคนอื่นหรือไม่ โดยการนำเสนอหน้าชั้นเรียนแล้วให้เพื่อนเสนอข้อคิดเห็นหรือชื่นชม

6. Enjoy Feedback – สนุกกับการสะท้อนผลการเรียนรู้สู่ครูผู้สอน

เมื่อบรรยายการเรียนรู้ในชั้นเรียนเป็นไปด้วยความสนุกสนาน ผ่อนคลาย ย่อมส่งผลให้นักเรียน มีความกล้าแสดงความคิดเห็น กล้าพูดหรือกล้าถามในสิ่งที่ตนเองยังไม่เข้าใจ พร้อมทั้งเปิดใจยอมรับฟังข้อเสนอแนะจากคุณครูและเพื่อนๆในชั้นเรียน เพื่อนำข้อเสนอแนะที่ได้ไปปรับใช้ในการพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาระคนของตนเองให้ดีขึ้น นอกจากนั้นครูผู้สอนเองจะได้นำข้อมูลที่ได้รับจากผู้เรียนไปวิเคราะห์พัฒนา ปรับปรุงการสอนให้เหมาะสมกับผู้เรียนมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากพบว่านักเรียนที่พัฒนาช้ากว่าเพื่อน ก็จะให้เรียนซ่อมเสริมเพิ่มเติมช่วงหลังเลิกเรียน

3.ผลการดำเนินงานและประโยชน์ที่ได้รับ

3.1 ผลสำเร็จที่ได้

3.1.1 นักเรียนได้รับการพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน ให้มี ผลคะแนนการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าร้อยละ 70 (ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป) จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 85.71 ของนักเรียนทั้งหมด (อ้างอิงจากวิจัยในชั้นเรียน ปีการศึกษา 2566)

3.1.2 นักเรียนเป็นผู้ที่สอบได้คะแนนเต็ม 100 คะแนน ในความสามารถด้านคณิตศาสตร์ จากการประเมินคุณภาพผู้เรียน (NT) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประจำปีการศึกษา 2566 จำนวน 1 คน

(อ้างอิงจาก เกียรติบัตรจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขที่ สทศ54908/2567)

3.1.3 โรงเรียนมีผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน(NT) ในความสามารถด้านคณิตศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2566 มีค่าเฉลี่ยคะแนนสูงกว่าระดับประเทศ

(อ้างอิงจาก แบบสรุปรายงานผลการประเมินของของโรงเรียน /School01)

3.1.4 โรงเรียนมีผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน(NT) ในความสามารถด้านคณิตศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2566 มีค่าเฉลี่ยคะแนนสูงกว่าปีการศึกษา 2565 ร้อยละ 47.00

(อ้างอิงจาก แบบรายงานผลการประเมินของโรงเรียนย้อนหลัง 3 ปี /School08)

3.1.5 โรงเรียนมีผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน(NT) ในความสามารถทั้งรวม 2 ด้าน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2566 มีค่าเฉลี่ยคะแนนสูงกว่าระดับประเทศ

(อ้างอิงจาก แบบสรุปรายงานผลการประเมินของของโรงเรียน /School01)

3.1.6 โรงเรียนมีผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน(NT) ในความสามารถทั้งรวม 2 ด้าน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2566 มีค่าเฉลี่ยคะแนนสูงกว่าปีการศึกษา 2565 ร้อยละ 43.78

(อ้างอิงจาก แบบรายงานผลการประเมินของโรงเรียนย้อนหลัง 3 ปี /School08)

โพสต์โดย ครูเมย์ : [10 พ.ค. 2567 (18:11 น.)]
อ่าน [1368] ไอพี : 223.207.224.188
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 2,652 ครั้ง
แนวทางการดำเนินงานโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
แนวทางการดำเนินงานโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

เปิดอ่าน 1,252 ครั้ง
History of Mahidol University
History of Mahidol University

เปิดอ่าน 117,220 ครั้ง
ปล่อยปลาได้บุญสะเดาะเคราะห์ เสริมดวง
ปล่อยปลาได้บุญสะเดาะเคราะห์ เสริมดวง

เปิดอ่าน 15,189 ครั้ง
10 วิธีการเป็นพ่อแม่ที่สุดยอด
10 วิธีการเป็นพ่อแม่ที่สุดยอด

เปิดอ่าน 56,155 ครั้ง
ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ของไทย
ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ของไทย

เปิดอ่าน 21,595 ครั้ง
3 steps พุงยุบใน 2 weeks
3 steps พุงยุบใน 2 weeks

เปิดอ่าน 30,076 ครั้ง
ประวัติ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ.
ประวัติ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ.

เปิดอ่าน 18,967 ครั้ง
แชร์ว่อนเน็ต "บ้านหนูบ่ได้บ้านนอกเด้อ" โดยสาวสวย รักและภาคภูมิใจบ้านเกิด
แชร์ว่อนเน็ต "บ้านหนูบ่ได้บ้านนอกเด้อ" โดยสาวสวย รักและภาคภูมิใจบ้านเกิด

เปิดอ่าน 18,412 ครั้ง
ข้าวกล้องงอก
ข้าวกล้องงอก

เปิดอ่าน 13,543 ครั้ง
เหรียญศานติมาลา
เหรียญศานติมาลา

เปิดอ่าน 9,851 ครั้ง
ล้างมืออย่างไร ให้สะอาดสูงสุด
ล้างมืออย่างไร ให้สะอาดสูงสุด

เปิดอ่าน 12,711 ครั้ง
คันนี้ร้อยล้าน
คันนี้ร้อยล้าน

เปิดอ่าน 16,066 ครั้ง
การเลี้ยงกบคอนโดร่วมกับปลาดุก เพลินๆ สร้างรายได้ รับชมกันได้เลยครับ
การเลี้ยงกบคอนโดร่วมกับปลาดุก เพลินๆ สร้างรายได้ รับชมกันได้เลยครับ

เปิดอ่าน 14,464 ครั้ง
10 ข้อดีของการนอนเร็ว รู้แล้วเปลี่ยนพฤติกรรมด่วน
10 ข้อดีของการนอนเร็ว รู้แล้วเปลี่ยนพฤติกรรมด่วน

เปิดอ่าน 15,487 ครั้ง
ปลุกสมองตื่นตัวด้วย
ปลุกสมองตื่นตัวด้วย 'มื้อเช้า'

เปิดอ่าน 32,549 ครั้ง
ข้อปฏิบัติสำหรับการก่อสร้างอาคารเรียนแบบ ( สปช. 105/29 ) ( สปช. 2/28 3ชั้น ) ( สปช. 2/28 4 ชั้น)
ข้อปฏิบัติสำหรับการก่อสร้างอาคารเรียนแบบ ( สปช. 105/29 ) ( สปช. 2/28 3ชั้น ) ( สปช. 2/28 4 ชั้น)
เปิดอ่าน 17,398 ครั้ง
ระบบการศึกษา กุญแจความสำเร็จของเกาหลี
ระบบการศึกษา กุญแจความสำเร็จของเกาหลี
เปิดอ่าน 41,895 ครั้ง
"หัวใจเต้นผิดจังหวะ" แค่ตื่นเต้นหรือป่วย
"หัวใจเต้นผิดจังหวะ" แค่ตื่นเต้นหรือป่วย
เปิดอ่าน 14,641 ครั้ง
กล้วยป่า
กล้วยป่า
เปิดอ่าน 7,754 ครั้ง
อ่านอะไร...คนไทย?
อ่านอะไร...คนไทย?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ