บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน
ชุดนาฏยศัพท์และภาษาท่านาฏศิลป์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระนาฏศิลป์ ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 ให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนชุดนาฏยศัพท์และภาษาท่านาฏศิลป์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระนาฏศิลป์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุดนาฏยศัพท์และภาษาท่านาฏศิลป์ ประชากรคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโคกโพธิ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่เอกสารประกอบการเรียน ชุดนาฏยศัพท์และภาษาท่านาฏศิลป์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระนาฏศิลป์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ และแบบประเมินความพึงพอใจ
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
1. เอกสารประกอบการเรียน ชุด นาฏยศัพท์และภาษาท่านาฏศิลป์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระนาฏศิลป์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 87.00/83.56 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80
ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด นาฏยศัพท์และภาษาท่านาฏศิลป์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระนาฏศิลป์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และหลังเรียนมีคะแนนผลสัมฤทธิ์เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 16.56
3. นักเรียนมีความพึงพอใจ ต่อเอกสารประกอบการเรียน ชุด นาฏยศัพท์ ภาษาท่านาฏศิลป์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระนาฏศิลป์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมมีความพึงพอใจเฉลี่ย อยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นค่าเฉลี่ย 4.64
โดยสรุป เอกสารประกอบการเรียนเป็นนวัตกรรมที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพราะมีกิจกรรมฝึกปฏิบัติที่หลากหลาย ภาพประกอบมีสีสันสวยงาม ส่งเสริมและพัฒนาทักษะการปฏิบัติ จึงควรสนับสนุนส่งเสริมให้ครูหรือผู้สนใจได้สร้างและนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ต่อไป