ครูบ้านนอก

การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมายดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง เลขยกกำลัง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง เลขยกกำลัง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผล ของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง เลขยกกำลัง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) เพื่อศึกษาเจตคติที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง เลขยกกำลัง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างของการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1/1จำนวน 41 คน ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่มด้วยการจับสลากห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD จำนวน 13 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากตั้งแต่ 0.43 - 0.80 ค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.25 - 0.92 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.83 3) แบบวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง เลขยกกำลัง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 15 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.89 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบ t-test for Dependent Samples

ผลการศึกษาพบว่า

1. การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง เลขยกกำลัง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 76.77/76.83

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง เลขยกกำลัง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

3. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง เลขยกกำลัง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.7205 คิดเป็นร้อยละ 72.05 โดยนักเรียนมีความก้าวหน้า ทางการเรียนสูงขึ้นร้อยละ 72.05

4. เจตคติของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง เลขยกกำลัง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในภาพรวม พบว่า นักเรียนมีเจตคติอยู่ในระดับมาก พิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า นักเรียนมีเจตคติอยู่ในระดับมากเป็นลำดับที่ 1 ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ คือ กิจกรรมการเรียนรู้แบบนี้ทำให้ช่วยเหลือกันมากขึ้น รองลงมาเป็นด้านบรรยากาศในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ คือ กิจกรรมการเรียนรู้แบบนี้ ทำให้นักเรียนรู้จักการร่วมมือและช่วยเหลือเพื่อน ๆ ในการเรียนรู้มากขึ้น และด้านประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ คือ กิจกรรมการเรียนรู้แบบนี้ส่งเสริมให้นักเรียนกล้าแสดงออกเป็นลำดับสุดท้าย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,427 ครั้ง PowerPoint ชี้แจงตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางสาระภูมิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)	เปิดอ่าน 55,941 ครั้ง "โรงเรียนแบบไหนที่สร้างเด็กให้ฉลาด" โดย ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ	เปิดอ่าน 13,712 ครั้ง คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
เปิดอ่าน 50,627 ครั้ง 10 อันดับของผลไม้ที่มี "วิตามินอี" สูง	เปิดอ่าน 3,152 ครั้ง แนะนำแนวทางสำหรับครูรุ่นใหม่ ในการเตรียมเด็กสอบ TGAT	เปิดอ่าน 12,077 ครั้ง คลิปบรรยากาศพบกันระหว่าง สพฐ.และสภาการศึกษาทางเลือกไทยกรณียุบ ร.ร.ขนาดเล็ก
เปิดอ่าน 24,554 ครั้ง รามเกียรติ์	เปิดอ่าน 20,236 ครั้ง ประโยชน์บัตรเครดิต ที่คุณควรรู้ไว้ ตอนที่ 2	เปิดอ่าน 12,058 ครั้ง พบสัตว์ประหลาดทะเลลึกเฉียด 2 หมื่นสายพันธุ์
เปิดอ่าน 2,263 ครั้ง กรมอนามัย เตือน นมข้นหวานห้ามใช้เลี้ยงทารก ให้กินนมแม่อย่างเดียวต่อเนื่อง 6 เดือน ดีที่สุด	เปิดอ่าน 57,082 ครั้ง ห้องสมุด 3 ดี	เปิดอ่าน 21,685 ครั้ง หลากวิตามินพิชิตเบาหวาน หยุดน้ำตาลพุ่งสูง ก่อนสายเกินแก้
เปิดอ่าน 8,820 ครั้ง ตาดีดี ลองดูซิ "กูเกิ้ล" ปรับโลโก้ใหม่ตรงไหน เขาบอกว่ามีการเขยื้อนองศา เพื่อให้สมดุลย์ ?	เปิดอ่าน 10,586 ครั้ง แนะนำแอพลิเคชัน escivocab : พจนานุกรมศัพท์วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี สสวท.	เปิดอ่าน 44,456 ครั้ง 9 อาชีพน่าอิจฉา เงินเดือนทะลุล้าน

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory