ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะเรื่องการอ่านและเขียนคำในมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำห

ชื่อเรื่อง :รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะเรื่องการอ่านและเขียนคำในมาตราตัวสะกด

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

โรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม๑

ผู้วิจัย :นางอารยา สังข์เทพ

ปีที่วิจัย : 2558

สังกัด : กองการศึกษาเมืองท่าข้าม กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

บทคัดย่อ

รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะเรื่องการอ่านและเขียนคำในมาตราตัวสะกด

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑โดยมีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะเรื่อง การอ่านและเขียนคำในมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑2. เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง การอ่านและเขียนคำในมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑และ3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง การอ่านและเขียนคำในมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑

ผลการศึกษา พบว่า

1)ผลการวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง การอ่านและเขียนคำในมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

โรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑จำนวน 8 หน่วยของกลุ่มตัวอย่าง 36 คนพบว่า คะแนน รวมทั้ง 8 หน่วย คิดเป็นคะแนนรวม 2,385คะแนน จากคะแนนเต็ม 2,880 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 82.81และการหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วย แบบฝึกเสริมทักษะเรื่องการอ่านและเขียนคำในมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑พบว่า คะแนนสอบก่อนเรียนได้คะแนนรวม 516.00 คะแนน เฉลี่ย 14.33คิดเป็นร้อยละ 35.83และคะแนนสอบหลังเรียนรวม 1,189.00 คะแนน คะแนนเฉลี่ย 33.03คิดเป็นร้อยละ 82.57 แสดงว่าคะแนนระหว่างเรียนของกลุ่มตัวอย่างจำนวน 36 คน มีคะแนนระหว่างเรียนหรือคะแนนกระบวนการ (E1) = 82.57 และคะแนนสอบหลังเรียน (E2) = 82.12 แสดงว่าแบบฝึกเสริมทักษะเรื่อง การอ่านและเขียนคำในมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑

ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.57/82.12ซึ่งสูงกว่าสมมุติฐานที่ตั้งไว้ที่ 80/80

2) ผลการผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยเปรียบเทียบผลการเรียนระหว่างคะแนนสอบก่อนเรียน และหลังเรียนพบว่าคะแนนสอบก่อนเรียนได้คะแนนรวม 622 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 33.44 และคะแนนสอบหลังเรียนรวม 1,542 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 82.90 ซึ่งมีค่า t = 30.42ซึ่งคะแนนสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3) ผลการวิเคราะห์แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง การอ่านและเขียนคำในมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยสำหรับนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑พบว่า มีความพึงพอใจเฉลี่ยรวมที่ระดับคะแนนเฉลี่ย4.34 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.19 ผลการประเมินในระดับมากและมีระดับคะแนนเรียงลำดับคะแนนจากมากไปน้อยดังนี้ แบบฝึกทักษะมีประโยชน์ช่วยในการเรียนรู้ของผู้เรียน คะแนนเฉลี่ย 4.58 ผลการประเมินระดับ มากที่สุด, คำถามแต่ละเล่มเชื่อมโยงสู่การปฏิบัติจริงคะแนนเฉลี่ย4.56 ผลการประเมินระดับ มากที่สุด,ภาพประกอบสอดคล้องกับเนื้อหาคะแนนเฉลี่ย 4.56ผลการประเมินระดับ มากที่สุดและกิจกรรมเสริมการเรียนรู้เรียงลำดับจากง่ายไปยากคะแนนเฉลี่ย 4.56 ผลการประเมินระดับมากที่สุดตามลำดับ

ข้อเสนอแนะ

1.ควรมีการจัดสร้างแบบฝึกเสริมทักษะการเรียนรู้ภาษาไทยให้ครอบคลุมเนื้อหาอื่นๆ เพื่อแก้ปัญหาและช่วยเหลือนักเรียนให้มีสื่อที่เหมาะสมกับผู้เรียนเพื่อผลการเรียนรายวิชาภาษาไทย ให้มีผลสัมฤทธิ์ที่สูงขึ้น

2. ควรทำการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างเรียนระหว่างการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกับนวัตกรรมอื่น

โพสต์โดย ครูน้อย : [29 ก.พ. 2559 เวลา 18:30 น.]
อ่าน [67088] ไอพี : 1.10.221.81
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,988 ครั้ง
กินถั่วฝักยาวเยอะๆดีต่อสุขภาพ
กินถั่วฝักยาวเยอะๆดีต่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 20,955 ครั้ง
หลักเกณฑ์ใหม่ในการตั้งชื่อวัด
หลักเกณฑ์ใหม่ในการตั้งชื่อวัด

เปิดอ่าน 21,837 ครั้ง
พระสงฆ์กับความเป็นครู
พระสงฆ์กับความเป็นครู

เปิดอ่าน 34,554 ครั้ง
ลายมือนักบริหาร ต้องมีเส้นอิทธิพล
ลายมือนักบริหาร ต้องมีเส้นอิทธิพล

เปิดอ่าน 42,293 ครั้ง
เข้าใจการวางแผนสื่อโฆษณา covid-19 ช่วยธุรกิจปรับตัวได้ดีขึ้น
เข้าใจการวางแผนสื่อโฆษณา covid-19 ช่วยธุรกิจปรับตัวได้ดีขึ้น

เปิดอ่าน 23,451 ครั้ง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560

เปิดอ่าน 30,119 ครั้ง
กล้วยตอนเช้า คุณประโยชน์เต็มเปี่ยม
กล้วยตอนเช้า คุณประโยชน์เต็มเปี่ยม

เปิดอ่าน 10,761 ครั้ง
คลิปการทดลองน่าทึ่ง เมื่อคนแปลกหน้าขอแบ่งของกินจากขอทาน
คลิปการทดลองน่าทึ่ง เมื่อคนแปลกหน้าขอแบ่งของกินจากขอทาน

เปิดอ่าน 43,962 ครั้ง
ทำไมคนญี่ปุ่นไม่แซงคิว...เรื่องดี ๆ ที่อยากให้อ่าน
ทำไมคนญี่ปุ่นไม่แซงคิว...เรื่องดี ๆ ที่อยากให้อ่าน

เปิดอ่าน 37,317 ครั้ง
กระบวนการสื่อความหมาย และอุปสรรคในการสื่อความหมาย
กระบวนการสื่อความหมาย และอุปสรรคในการสื่อความหมาย

เปิดอ่าน 17,556 ครั้ง
ช้อน-ส้อม จุ่มน้ำร้อนหม้อหุงข้าว ฆ่าเชื้อโรคไม่ตาย
ช้อน-ส้อม จุ่มน้ำร้อนหม้อหุงข้าว ฆ่าเชื้อโรคไม่ตาย

เปิดอ่าน 46,786 ครั้ง
ทำได้จริง!!เทคนิคการปลูกกล้วยให้เครือหันออกไปทางทิศเดียวกัน
ทำได้จริง!!เทคนิคการปลูกกล้วยให้เครือหันออกไปทางทิศเดียวกัน

เปิดอ่าน 10,272 ครั้ง
ฮิตทะลุโลก เผยยอดผู้ใช้เฟซบุ๊คมีจำนวนกว่าครึงพันล้านคน ใหญ่เท่ากับปท.อันดับสามของโลก
ฮิตทะลุโลก เผยยอดผู้ใช้เฟซบุ๊คมีจำนวนกว่าครึงพันล้านคน ใหญ่เท่ากับปท.อันดับสามของโลก

เปิดอ่าน 9,416 ครั้ง
สตรีผู้ทรงอิทธิพลปี 2009
สตรีผู้ทรงอิทธิพลปี 2009

เปิดอ่าน 32,365 ครั้ง
ต้นมันปู
ต้นมันปู

เปิดอ่าน 17,037 ครั้ง
หยุดมโน นร.นามสกุลยาวสุด ยันตัดต่อหลงเชื่อทั้งประเทศ
หยุดมโน นร.นามสกุลยาวสุด ยันตัดต่อหลงเชื่อทั้งประเทศ
เปิดอ่าน 12,007 ครั้ง
พบวิธีป้องกันโรคไข้เลือดออกระบาด เร่งวันตายยุงให้สั้น
พบวิธีป้องกันโรคไข้เลือดออกระบาด เร่งวันตายยุงให้สั้น
เปิดอ่าน 10,843 ครั้ง
ตะลึง!!! 90% ของอีเมล์เป็น "สแปม"
ตะลึง!!! 90% ของอีเมล์เป็น "สแปม"
เปิดอ่าน 11,659 ครั้ง
สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงสวยน้อยลง
สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงสวยน้อยลง
เปิดอ่าน 14,066 ครั้ง
วิเคราะห์จุดอ่อน-แข็ง การถ่ายโอนการศึกษา : เพื่อหาความเป็นไปได้
วิเคราะห์จุดอ่อน-แข็ง การถ่ายโอนการศึกษา : เพื่อหาความเป็นไปได้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ