การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ชุดสมการหรรษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่ผู้รายงานพัฒนาขึ้น และ (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ชุดสมการหรรษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประชากรที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดหนองผักนาก ปีการศึกษา 2558 จำนวน 11 คน ได้ทำการฝึกโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ที่ผู้รายงานสร้าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ (1) แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ชุดสมการหรรษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ และ (3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ชุดสมการหรรษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 การวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติใช้ค่าเฉลี่ย (x̄ ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)และค่าทดสอบ ( t-Dependent) แล้วนำเสนอโดยการบรรยาย

ผลการวิจัยพบว่า

1. แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ชุดสมการหรรษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ 81.17/80.65

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ฝึกโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ชุดสมการหรรษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. นักเรียนที่เรียนโดยการใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ชุดสมการหรรษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจในการเรียนอยู่ในระดับมาก

โดยสรุป การเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ด้วยแบบฝึกทำให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ไม่มีอาการเบื่อหน่าย ช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบระเบียบ มีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหาและสถานการณ์ได้อย่างถี่ถ้วนรอบคอบ สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อื่นได้ โดยพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะที่มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลต่อผู้เรียน และครูผู้สอนสามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามที่คาดหวัง

เว็บน่าสนใจ