ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

4 พัฒนาการที่แม่ควรส่งเสริม


ความรู้ทั่วไป เปิดอ่าน : 11,246 ครั้ง
4 พัฒนาการที่แม่ควรส่งเสริม

Advertisement

ทำไงดี..ลูกเข้าข่ายติดทีวี

          โทรทัศน์ จอสี่เหลี่ยมที่มีทั้งภาพสีสันสวยงามและเสียงที่น่าตื่นเต้นสำหรับเด็ก ๆ พอได้นั่งอยู่หน้าจอแล้วก็ยากที่จะดึงความสนใจ ออกมาได้ โทรทัศน์อาจมีประโยชน์ในการช่วยเปิดโลกทัศน์ให้เด็ก ๆ ก็จริง แต่ถ้านั่งดูอยู่นานก็อาจเป็นโทษได้โดยเฉพาะกับเจ้าหนู ในวัยเรียนรู้ ทางที่ดีอย่าปล่อยให้อยู่หน้าจอนานจะดีกว่าค่ะ
 
สัญญาณเมื่อลูกติดโทรทัศน์

          ในวันว่างหรือเวลาอยู่บ้าน คุณพ่อคุณแม่ลองสังเกตพฤติกรรมของลูกกับการดูโทรทัศน์ว่ามีพฤติกรรมต่อไปนี้หรือไม่

          - จดจ่อกับการดูโทรทัศน์ทุกรายการ จนไม่ยอมทำอย่างอื่นไม่ยอมลุกไปไหน

          - ใช้เวลาอยู่หน้าจอโทรทัศน์มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน

          - ถ้าไม่ให้ดูโทรทัศน์ จะงอแง อารมณ์เสีย

          - ชอบดูโทรทัศน์มากกว่าออกไปเล่นนอกบ้าน

          - มีความสุขกับการกินและนั่งดูโทรทัศน์ไปด้วย

          - มีพฤติกรรมเลียนแบบหรือเล่นรุนแรงตามที่ได้ดูจากรายการโทรทัศน์
         
          หากลูกมีพฤติกรรมเหล่านี้เกิน 2 ข้อ ก็ถึงเวลาที่จะต้องคอยระวังและป้องกันไม่ให้ลูกติดโทรทัศน์ก่อนวัยอันควรแล้วค่ะ
 
 ไม่ดีแน่..ถ้าลูกติดโทรทัศน์

          สาเหตุหลักที่อาจทำให้ลูกติดการดูโทรทัศน์ก็คือ พ่อแม่ปล่อยให้ลูกดูโทรทัศน์เพียงลำพัง เพราะภาพ สี เสียง และเรื่องราวที่ผ่านมาทางจอสี่เหลี่ยมสามารถทำให้ลูกอยู่นิ่ง ความสนใจจดจ่อกับการดูโทรทัศน์ได้ เมื่อพ่อแม่ยุ่งไม่มีเวลาดูลูกจึงให้ลูกดูโทรทัศน์เพื่อจะได้ไม่รบกวน ซึ่งในกรณีนี้เกิดขึ้นได้กับการฝากลูกไว้กับพี่เลี้ยงหรือญาติเช่นกัน

          ถึงแม้ว่าบางรายการจะมีสาระ และสนุกสนาน แต่ถ้าเด็กจดจ่อกับดูโทรทัศน์ทุกรายการโดยไม่ได้รับการชี้แนะหรือเลือกดู รายการที่เหมาะสมแล้ว ย่อมทำให้ความสนุกนั้นกลับกลายเป็นโทษแทนได้

           พัฒนาการด้านร่างกาย : ผลเสียจากการดูโทรทัศน์เป็นเวลานาน นอกจากจะทำให้สายตาเมื่อยล้าแล้ว หากกินขนมไปด้วยก็จะยิ่งเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนตั้งแต่วัยเด็ก และยังทำให้ลูกนั่งอยู่กับที่เฉย ๆ เป็นเวลานาน ไม่ได้วิ่งเล่นกลางแจ้ง เคลื่อนไหวร่างกาย หรือทำกิจกรรมอื่น ซึ่งจะส่งผลให้ลูกขาดทักษะในการใช้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ทำให้กล้ามเนื้อไม่แข็งแรงและเสียบุคลิกภาพด้วย

           พัฒนาการด้านสติปัญญาและอารมณ์ : การดูโทรทัศน์นาน ๆ เป็นประจำจะทำให้เด็กเรียนรู้ช้า ขาดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ เพราะไม่ได้เล่นหรือเรียนรู้ของจริงจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว ทั้งยังทำให้เด็กแยกแยะไม่ออกระหว่างความจริงกับความลวงที่ได้เห็นจากรายการโทรทัศน์ เห็นความรุนแรงเป็นเรื่องธรรมดาและจดจำพฤติกรรมก้าวร้าวได้ เช่น รายการหรือการ์ตูนที่มีการต่อสู้ มุขตลกแบบรุนแรง ตัวการ์ตูนที่โดนรถทับ แต่ไม่เป็นอะไร ก็จะทำให้เด็กอาจเข้าใจว่าเป็นเรื่องสนุกและทำได้จนเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ และการติดโทรทัศน์ยังทำให้เด็กมีสมาธิจดจ่อกับการเรียนรู้หรือทำกิจกรรม อื่น ๆ น้อยลงด้วย
 
          นอกจากนี้ การติดโทรทัศน์มักจะทำให้เด็กมีอารมณ์แปรปรวน ใจร้อน หงุดหงิดง่าย และเมื่อจดจ่ออยู่กับการดูโทรทัศน์แล้ว หากถูกห้ามไม่ให้ดูก็อาจทำให้เด็กงอแงได้
 
           พัฒนาการด้านสังคม : เด็กจะขาดทักษะในการเข้าสังคม เพราะโทรทัศน์มีรูปแบบการสื่อสารทางเดียว และการที่ไม่ได้เล่นกับเด็กคนอื่น จะทำให้ขาดการเรียนรู้การสื่อสาร โต้ตอบหรือมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น จนทำให้กลายเป็นเด็กที่มีโลกส่วนตัวสูง และส่งผลให้พัฒนาการด้านการพูดล่าช้าตามไปด้วย
 
ดึงลูกออกจากหน้าจอ

          หากลูกมีท่าทีว่าจะเริ่มติดโทรทัศน์แล้ว ก็ควรรีบดึงลูกออกจากหน้าจอตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็ยังไม่สายเกินไปค่ะ

           จำนวนโทรทัศน์ : ควรมีน้อยกว่าจำนวนสมาชิกในบ้านและไม่มีโทรทัศน์ในห้องส่วนตัว

           เวลาดูโทรทัศน์ : ควรกำหนดเวลาในการดูโทรทัศน์เพื่อไม่ให้ลูกใช้เวลาอยู่หน้าจอนานจนเกินไป

          อายุไม่ถึง 2 ขวบ ไม่ควรให้ดูโทรทัศน์เลย

          อายุ 2-5 ขวบ ไม่ควรดูโทรทัศน์เกิน 1-2 ชั่วโมงต่อวัน (หรือรวมแล้ว ไม่ควรเกิน 7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์)
 
          หากลูกดูโทรทัศน์เกินเวลาที่กำหนดก็ต้องงดดูในวันถัดไป กล่าวชมเชยเมื่อลูกทำตามที่ตกลงได้ และพ่อแม่ก็ต้องดูโทรทัศน์ให้น้อยลงด้วย 
 
           ดูโทรทัศน์พร้อมลูก : พ่อแม่ควรดูโทรทัศน์พร้อมกับลูก เลือกสรรรายการที่เหมาะกับวัยของลูก สนุกแต่ให้สาระ แล้วใช้รายการเป็นตัวนำในการสอน พูดคุยและเรียนรู้ไปพร้อมกับลูก ไม่ควรให้ลูกกินไปดูโทรทัศน์ไป เพราะจะทำให้เด็กเคยชินกับการดูโทรทัศน์ เวลา กินข้าวและทำให้กินมากหรือน้อยเกินความต้องการได้

           ไม่ใช้การดูโทรทัศน์ต่อรองพฤติกรรมลูก : ไม่ควรให้รางวัลหรือทำโทษลูกโดยการให้หรืองดดูโทรทัศน์
หากิจกรรมอื่นให้ลูกทำ : การให้ลูกทำกิจกรรมอื่นเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ได้ผลดี ใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว เล่านิทาน เล่นขายของ วาดรูป เล่นกับสัตว์เลี้ยง ฝึกทำอาหาร หรือการเล่นในรูปแบบอื่น เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ในการใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไปพร้อม ๆ กับการใช้จินตนาการ จิตใจผ่อนคลาย และครอบครัวมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกันมากขึ้น

ที่มา  ::   Mother&Care


4 พัฒนาการที่แม่ควรส่งเสริม4พัฒนาการที่แม่ควรส่งเสริม

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

เลี้ยงปลามงคลเสริมโชคลาภ

เลี้ยงปลามงคลเสริมโชคลาภ


เปิดอ่าน 21,739 ครั้ง
สมาธิสั้นเทียม

สมาธิสั้นเทียม


เปิดอ่าน 12,372 ครั้ง
เจาะนวัตกรรม 4 ล้อ ในปี 2553

เจาะนวัตกรรม 4 ล้อ ในปี 2553


เปิดอ่าน 11,918 ครั้ง
ของพรีเมี่ยมคืออะไร ?

ของพรีเมี่ยมคืออะไร ?


เปิดอ่าน 19,422 ครั้ง
สวมแหวนนิ้วไหนถึงจะมีโชค

สวมแหวนนิ้วไหนถึงจะมีโชค


เปิดอ่าน 17,036 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ใช้ มือถือ ขณะฝนฟ้าคะนอง จะมีโอกาสโดนฟ้าผ่าได้หรือไม่?

ใช้ มือถือ ขณะฝนฟ้าคะนอง จะมีโอกาสโดนฟ้าผ่าได้หรือไม่?

เปิดอ่าน 9,970 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
15 วิธีการเลือกรถยนต์มือสองด้วยตัวเอง
15 วิธีการเลือกรถยนต์มือสองด้วยตัวเอง
เปิดอ่าน 14,620 ☕ คลิกอ่านเลย

แบ่งปันความสุข แบ่งเบาความทุกข์
แบ่งปันความสุข แบ่งเบาความทุกข์
เปิดอ่าน 21,616 ☕ คลิกอ่านเลย

โคขุน..."ไทยแบล็ค" ลูกผสมพันธุ์ใหม่ให้เนื้อมาก
โคขุน..."ไทยแบล็ค" ลูกผสมพันธุ์ใหม่ให้เนื้อมาก
เปิดอ่าน 18,192 ☕ คลิกอ่านเลย

สมุนไพรน่ารู้
สมุนไพรน่ารู้
เปิดอ่าน 15,788 ☕ คลิกอ่านเลย

สารพัดคุณค่าจาก กล้วย
สารพัดคุณค่าจาก กล้วย
เปิดอ่าน 11,448 ☕ คลิกอ่านเลย

รวมเมนูอาหารเจ
รวมเมนูอาหารเจ
เปิดอ่าน 13,569 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

"กานพลู" เครื่องเทศ ต่อต้านอนุมูลอิสระ
"กานพลู" เครื่องเทศ ต่อต้านอนุมูลอิสระ
เปิดอ่าน 9,807 ครั้ง

กรมอนามัย แนะผู้ป่วยลองโควิด-19 เน้นกิน "โปรตีน – โพรไบโอติกส์ – วิตามิน" ช่วยฟื้นฟูร่างกาย
กรมอนามัย แนะผู้ป่วยลองโควิด-19 เน้นกิน "โปรตีน – โพรไบโอติกส์ – วิตามิน" ช่วยฟื้นฟูร่างกาย
เปิดอ่าน 10,752 ครั้ง

ใช้คอมมากระวัง.. โรควุ้นในตาเสื่อม !!
ใช้คอมมากระวัง.. โรควุ้นในตาเสื่อม !!
เปิดอ่าน 10,857 ครั้ง

ลีมูซีนรถประจำตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ
ลีมูซีนรถประจำตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ
เปิดอ่าน 12,553 ครั้ง

มาตรฐานของ e-learning
มาตรฐานของ e-learning
เปิดอ่าน 24,933 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ