การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาอาเซียนศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหา อาเซียนศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาอาเซียนศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประชากรเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านปงแม่ลอบ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 1 ปีการศึกษา 2557 ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 13 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) ชุดฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาอาเซียนศึกษา จำนวน 4 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้การแก้โจทย์ปัญหาอาเซียนศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ใช้ควบคู่กับชุดฝึกเสริมทักษะ จำนวน 14 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการแก้โจทย์ปัญหาอาเซียนศึกษา และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ การเรียนโดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาอาเซียนศึกษา ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยร้อยละและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัย มีดังต่อไปนี้

1. ชุดฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาอาเซียนศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ 78.23/76.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ คือ 75/75

2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการแก้โจทย์ปัญหาอาเซียนศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านปงแม่ลอบ ปีการศึกษา 2557 ที่เรียนโดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาปัญหาอาเซียนศึกษา มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละที่เพิ่มขึ้นเท่ากับ 50.92 โดยคะแนนการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ย ร้อยละเท่ากับ 26.52 และ 76.41 ตามลำดับ

3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาปัญหาอาเซียนศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยรวม (µ) เท่ากับ 4.69 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.40

เว็บน่าสนใจ