ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การแก้ปัญหาเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 ไม่รู้จัก พยัญชนะ ก – ฮ

ชื่อเรื่อง การแก้ปัญหาเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 ไม่รู้จัก พยัญชนะ ก – ฮ

ผู้วิจัย นางศิริรัตน์ คอยเกษม

เป็นมาและความสำคัญ

ภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติ เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกความเป็นเอกราชและความภาคภูมิใจของชาติไทย ภาษาไทยจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการใช้ติดต่อสื่อสารกันในสังคมไทยของเรา นอกจากภาษาพูดแล้วยังรวมถึงภาษาเขียนอีกด้วย พยัญชนะไทย ตั้งแต่ ก – ฮ มีทั้งหมด 44 ตัว คนไทยทุกคนจำเป็นต้องรู้จักและสามารถอ่านภาษาไทยออก ซึ่งการเริ่มรู้จักตัวอักษรควรต้องให้เด็กรู้จักเรียนรู้ตั้งแต่ชั้นอนุบาลเพื่อให้เกิดการคุณเคยและสามารถจำและอ่านภาษาไทยออกในอนาคตเมื่อเด็กโตและเรียนชั้นที่สูงขึ้นต่อไปจากการที่ได้ทดสอบเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 ในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553 ได้นำพยัญชนะ 44 ตัว ให้เด็กจำนวน 27 คนในชั้นเรียน หยิบขึ้นอ่าน 15 ตัวอักษร มีเด็กที่สามารถรู้จักตัวอักษรได้ทั้ง จำนวน 4 คน เด็กที่รู้จักตัวอักษรโดยมีครูชี้แนะ จำนวน 8 คน เด็กที่ไม่รู้จักตัวอักษร จำนวน 15 คน จึงคิดแก้ปัญหาดังกล่าว

วัตถุประสงค์ของการศึกษา

1. เพื่อแก้ปัญหาเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 ไม่รู้จัก พยัญชนะ ก – ฮ

2. สร้างแผนจัดประสบการณ์โดยใช้แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ อักษร ก – ฮ

เพื่อพัฒนาทักษะภาษาด้านการอ่านของเด็ก ชั้นอนุบาลปีที่ 2

กลุ่มเป้าหมาย

เด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 27 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา

1. แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ อักษร ก – ฮ เพื่อพัฒนาทักษะภาษาด้านการอ่าน

ของเด็ก ชั้นอนุบาลปีที่ 2

2. แบบสังเกตพฤติกรรม ของเด็กชั้นอนุบาล 2

3. การทดสอบก่อนและหลังการใช้แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ อักษร ก – ฮ เพื่อ

พัฒนาทักษะภาษาด้านการอ่านของเด็ก ชั้นอนุบาลปีที่ 2

วิธีการดำเนินการศึกษา

1. กลุ่มเป้าหมาย เด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 27 คน

2. ทดสอบก่อนการจัดประสบการณ์

3. สร้างแผนจัดประสบการณ์โดยใช้แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ อักษร ก – ฮ เพื่อพัฒนาทักษะภาษาด้านการอ่านของเด็ก ชั้นอนุบาลปีที่ 2

4. จัดประสบการณ์เรียนรู้ตามแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ อักษร ก – ฮ เพื่อพัฒนาทักษะภาษาด้านการอ่านของเด็ก ชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 42 แผน 42 สัปดาห์ เนื่องจาก พยัญชนะ ฃ และ ฅ ไม่ได้นำมาใช้ ผู้รายงานจึงแทรก ฃ ไว้ใน แผนการจัดประสบการณ์ ข และ แทรก ฅ ไว้ในแผนการจัดประสบการณ์ ค

5. สังเกตพฤติกรรม ของเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2

6. ทดสอบหลังการจัดประสบการณ์

7. อภิปรายผล

การวิเคราะห์ข้อมูล

เก็บรวบรวมข้อมูลนำเสนอโดยตาราง

ผลการศึกษา

หลังจากจัดประสบการณ์โดยใช้แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ อักษร ก – ฮ เพื่อพัฒนาทักษะภาษาด้านการอ่านของเด็ก ชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 42 แผน ระหว่างภาคเรียนที่ 1 และภาคเรียนที่ 2 เป็นเวลา 42 สัปดาห์ จัดประสบการณ์ตามแผน ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ สัปดาห์ละ1ชั่วโมง 40 นาที ในช่วงกิจกรรมสร้างสรรค์ ใช้เวลาวันละ 20 นาที ผลการสังเกตพฤติกรรมทางภาษา มีดังนี้ จากตารางวิเคราะห์พฤติกรรมทางภาษา นักเรียนเด็กอนุบาลปีที่ 2 จำนวนเด็กที่พฤติกรรม ในหัวข้อ รู้จักตัวอักษร ก –ฮ รู้จักคำที่ออกเสียงอักษร ก – ฮ รู้จักทิศทางลีลามือในการเขียนตัวอักษร ก - ฮ ระดับ ดี จำนวน 3 คน คดเป็นร้อยละ 11.11 ระดับ ดีมาก จำนวน 24 คน คิดเป็น ร้อยละ 88.8 และจากการทดสอบให้เด็ก หยิบตัวอักษร 15 ตัว จาก 44 ตัวอักษร ผลการทดสอบปรากฏว่า เด็กที่รู้จักตัวอักษรโดยมีครูชี้แนะ จำนวน 6 คน คิดเป็น ร้อยละ 22.22 เด็กที่รู้จักตัวอักษร จำนวน 21 คน คิดเป็น ร้อยละ 77.78

สรุปผลการศึกษา

เมื่อจัดประสบการณ์โดยใช้แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ อักษร ก – ฮ เพื่อพัฒนาทักษะภาษาด้านการอ่านของเด็ก ชั้นอนุบาลปีที่ 2 แล้ว เด็กมีพัฒนาการทางภาษาในการรู้จักอักษร ก – ฮ ดีขึ้น คิดเป็น ร้อยละ 100

อภิปรายผล

การศึกษาครั้งนี้ ใช้จัดประสบการณ์โดยใช้แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ อักษร ก – ฮ เพื่อพัฒนาทักษะภาษาด้านการอ่านของเด็ก ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ซึ่งสามารถสรุปผลการศึกษาได้ดังนี้

เด็กมีพัฒนาการทางภาษาในการรู้จักอักษร ก – ฮ ดีขึ้น และเป็นไปตามจุดประสงค์การศึกษาทั้งนี้เกิดจากการจัดประสบการณ์ที่มุ่งเน้นให้เด็กเรียนแบบ BBL คือการนำองค์ความรู้เรื่องสมองและธรรมชาติการทำงานของสมองมาใช้ในการจัดกระบวนการให้เกิดการเรียนรู้ ซึ่งกระบวนการดังกล่าว ได้แก่การจัดกิจกรรมระหว่างผู้สอนและผู้เรียน การจัดสิ่งแวดล้อม และ ที่สำคัญที่สุดคือ การออกแบบและการใช้เครื่องมือ / สื่อเพื่อการเรียนรู้ต่างๆ โดยประเด็นสำคัญคือ ต้องทำให้เด็กสนใจ ใคร่รู้ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสำคัญคือ เด็กได้เรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพสมอง เสริมแรงชมเชยเด็กที่รู้ตัวอักษรได้ได้ ทำให้เด็กเกิด พฤติกรรมอยากให้ครูชมเชยตนบ้าง ตรงตามทฤษฎีเสริมแรง (Reinforcement Theory ) ของสกินเนอร์ (Skinner) ซึ่งเชื่อว่า การเรียนรู้เป็นกิริยาสะท้อนหลังจากเกิดกระบวนการของสิ่งเร้าและการตอบสนอง ซึ่งอาจเป็นการเสริมแรง แบบมีเงื่อนไข เช่น ได้รับความพอใจจากรางวัลต่างๆ หรือเป็นการเสริมแรงแบบอุปนัย คือได้รับความพอใจที่มีความหวัง หรือเป็นแรงจูงใจให้เกิดผลสัมฤทธิ์ การเสริมแรงบวกให้สิ่งเร้าที่พึงประสงค์เพื่อให้เกิดพฤติกรรมพึงประสงค์เช่นกล่าวชมเชย เมื่อรู้จักตัวอักษร

ข้อเสนอแนะ

1. ครูควรเอาใจใส่ติดตามการศึกษาของเด็กเพื่อให้คำเสนอแนะช่วยเหลือเวลามีปัญหา

2. ผู้บริหารสนับสนุนให้ครูได้ผลิตสื่อเพื่อใช้ในเวลาขาดแคลนครู หรือเวลาสอนแทนกันได้สะดวกขึ้น อาจจัดในรูปงบประมาณ จัดหาวิทยากรที่มีความรู้เกี่ยวกับการผลิตสื่อมาให้ความรู้กับบุคลากรที่สนใจ

3. ควรมีการเผยแพร่ผลงานให้ขยายในวงกว้าง เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาการศึกษาของเด็กโรงเรียนอื่นๆด้วย

4. ควรศึกษาการจัดประสบการณ์ด้านอื่นๆ เพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาทั้งด้านการฟัง พูดอ่าน เขียน เช่น การจัดกิจกรรมการเล่นบทบาทสมมุติ การจัดกิจกรรมแบบโครงงาน การจัดกิจกรรมแบบโครงการ และการจัดกิจกรรมการแสดงละคร

5. ควรศึกษาการจัดประสบการณ์เล่านิทานเพื่อให้เด็กปฐมวัยรู้จักอักษร ก – ฮ

โพสต์โดย ครูตุ๊กตา : [25 มิ.ย. 2559 เวลา 20:03 น.]
อ่าน [54387] ไอพี : 171.4.161.131
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 92,153 ครั้ง
ระบบเลขฐานสิบ (Decimal System)
ระบบเลขฐานสิบ (Decimal System)

เปิดอ่าน 90,579 ครั้ง
รวมข้อมูลหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
รวมข้อมูลหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

เปิดอ่าน 61,560 ครั้ง
แค่ถ่ายภาพเอกสารให้ตรง แล้วส่งเข้าไลน์ ก็ถอดออกมาเป็นตัวหนังสือได้ ไม่ต้องพิมพ์
แค่ถ่ายภาพเอกสารให้ตรง แล้วส่งเข้าไลน์ ก็ถอดออกมาเป็นตัวหนังสือได้ ไม่ต้องพิมพ์

เปิดอ่าน 7,625 ครั้ง
เชื้อไวรัสโรคหวัดมีอยู่ทั่วไปแค่เอื้อม ให้หมั่นล้าง มือกันไม่ให้เป็นสะพาน
เชื้อไวรัสโรคหวัดมีอยู่ทั่วไปแค่เอื้อม ให้หมั่นล้าง มือกันไม่ให้เป็นสะพาน

เปิดอ่าน 21,448 ครั้ง
ปลูกต้นไม้เหมาะกับทิศ
ปลูกต้นไม้เหมาะกับทิศ

เปิดอ่าน 15,538 ครั้ง
ระเบียบการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน พ.ศ.๒๕๔๗
ระเบียบการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน พ.ศ.๒๕๔๗

เปิดอ่าน 10,865 ครั้ง
"อัดความรู้" แต่แบเบาะ สร้างอนาคตเด็กได้จริงหรือ?
"อัดความรู้" แต่แบเบาะ สร้างอนาคตเด็กได้จริงหรือ?

เปิดอ่าน 8,569 ครั้ง
"จันผา" ไม้ประดับฟอร์มสวย เลี้ยงง่ายไว้แต่งสวน
"จันผา" ไม้ประดับฟอร์มสวย เลี้ยงง่ายไว้แต่งสวน

เปิดอ่าน 9,607 ครั้ง
คนไทย80% กินอาหารเกินจำเป็นร่างกาย
คนไทย80% กินอาหารเกินจำเป็นร่างกาย

เปิดอ่าน 10,708 ครั้ง
สมุนไพรที่ช่วยบรรเทา ไข้หวัดใหญ่‏
สมุนไพรที่ช่วยบรรเทา ไข้หวัดใหญ่‏

เปิดอ่าน 22,127 ครั้ง
รายงานการวิจัย สถานภาพการประยุกต์ใช้ ICT เพื่อการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานรองรับการปฏิรูปการศึกษ
รายงานการวิจัย สถานภาพการประยุกต์ใช้ ICT เพื่อการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานรองรับการปฏิรูปการศึกษ

เปิดอ่าน 88,221 ครั้ง
คู่มือการปฏิบัติงานข้าราชการครู
คู่มือการปฏิบัติงานข้าราชการครู

เปิดอ่าน 41,730 ครั้ง
วิจัยและสถิติ
วิจัยและสถิติ

เปิดอ่าน 14,074 ครั้ง
ชี้เอเชียรู้จักเทคนิควาดภาพด้วยสีน้ำมันก่อนยุโรปหลายร้อยปี
ชี้เอเชียรู้จักเทคนิควาดภาพด้วยสีน้ำมันก่อนยุโรปหลายร้อยปี

เปิดอ่าน 14,392 ครั้ง
10 ข้อดีของการนอนเร็ว รู้แล้วเปลี่ยนพฤติกรรมด่วน
10 ข้อดีของการนอนเร็ว รู้แล้วเปลี่ยนพฤติกรรมด่วน

เปิดอ่าน 9,265 ครั้ง
นี่ล่ะ..สังคมแรกของหนู
นี่ล่ะ..สังคมแรกของหนู
เปิดอ่าน 12,582 ครั้ง
กระโดดเชือกแบบทีมเจ๋งๆ ลีลาเทพโคตร! ขอบอก
กระโดดเชือกแบบทีมเจ๋งๆ ลีลาเทพโคตร! ขอบอก
เปิดอ่าน 19,443 ครั้ง
แนวทางการพัฒนาทักษะการค้นคว้า และศึกษาด้วยตนเองเพื่อรองรับ AEC : 2558
แนวทางการพัฒนาทักษะการค้นคว้า และศึกษาด้วยตนเองเพื่อรองรับ AEC : 2558
เปิดอ่าน 28,438 ครั้ง
พระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 2)
พระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 2)
เปิดอ่าน 68,999 ครั้ง
การพัฒนาการบริหารจัดการศึกษา 4.0 ภายใต้พลวัตแห่งศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนอย่างยั่งยืนของการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย
การพัฒนาการบริหารจัดการศึกษา 4.0 ภายใต้พลวัตแห่งศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนอย่างยั่งยืนของการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ