ครูบ้านนอก

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80 / 80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนบ้านแม่นาจร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 36 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ ชุดกิจกรรม การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 7 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 13 แผน แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีลักษณะเป็นแบบทดสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ มี 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ และ แบบสอบถามความ พึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ การหาความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของชุดกิจกรรมการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ค่าเฉลี่ยของความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ หาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้สูตร E1/E2 หาค่าเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จากสูตร KR-20 เปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังเรียนด้วยการทดสอบที (t - test) วิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและหาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามความพึงพอใจจากสูตรสัมประสิทธิ์แอลฟ่า

ผลการศึกษาสรุปได้ดังนี้

1. ค่าประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 81.44/81.18 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ คือ 80/80

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมแล้วนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.75 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.38

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,643 ครั้ง เมื่อรู้สึกว่าอ้วนเกินไป ทำยังไงดี	เปิดอ่าน 70,322 ครั้ง ระบบการสอนของดิคและคาเรย์ (Dick and Carey)	เปิดอ่าน 33,266 ครั้ง ตำนานนางสงกรานต์
เปิดอ่าน 21,640 ครั้ง 8 วิธีปรับโฉม "โรงเรียน" ใหม่ จัดอย่างไรให้เด็กเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ	เปิดอ่าน 3,248 ครั้ง กรมอนามัย เตือน นมข้นหวานห้ามใช้เลี้ยงทารก ให้กินนมแม่อย่างเดียวต่อเนื่อง 6 เดือน ดีที่สุด	เปิดอ่าน 11,463 ครั้ง ล้างไก่กลับแพร่โรค หว่านเชื้อโรคทำให้อาหาร เป็นพิษไปทั่วครัว
เปิดอ่าน 43,798 ครั้ง 14 ท่าโพสต์ถ่ายรูปง่ายๆ ถ่ายเมื่อไหร่ก็สวย	เปิดอ่าน 24,089 ครั้ง สิ่งดีๆ ที่ซ่อนอยู่ใน แก้วมังกร	เปิดอ่าน 29,383 ครั้ง เมื่องานที่ทำ ยังไม่เป็นงานที่ใช่ จะอยู่ทำก่อนหรือจากไป
เปิดอ่าน 89,160 ครั้ง พันธุ์ไม้ในในป่าชายเลน	เปิดอ่าน 16,748 ครั้ง คอกาแฟมีหวังอายุยืนกว่าคนไม่ดื่ม ช่วยป้องกันภัยโรคหัวใจหลอดเลือด	เปิดอ่าน 39,119 ครั้ง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (photosynthesis)
เปิดอ่าน 12,023 ครั้ง หน่วยจัดประสบการณ์และหน่วยการเรียนรู้ เรื่อง โรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ชั้นอนุบาล 1 - มัธยมศึกษาปีที่ 3	เปิดอ่าน 24,744 ครั้ง คนจีนบ้าเรียน"ภาษาอังกฤษ" ขณะที่ไทยติดหล่มอยู่รั้งท้าย!	เปิดอ่าน 9,863 ครั้ง วิธีถนอมดวงตาเวลาใช้คอมพิวเตอร์

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory