การเรียนรู้วิทยาศาสตร์มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามความถนัด ความสนใจ และความแตกต่างระหว่างบุคคล โดยส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีกระบวนการ สามารถคิดสืบเสาะหาความรู้ แก้ปัญหา และสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง ผู้สอนจึงควรเลือกเทคนิควิธีสอนที่เหมาะสมมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน วิธีสอนด้วยบทเรียนสำเร็จรูปนั้นสามารถตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล นักเรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเองโดยมีจุดมุ่งหมายดังนี้ 1. เพื่อสร้างบทเรียนสำเร็จรูป วิชาชีววิทยา เรื่องยีนและโครโมโซม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2. เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสำเร็จรูป เรื่องยีนและโครโมโซม 3. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป เรื่องยีนและโครโมโซม 4. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป เรื่องยีนและโครโมโซม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัยได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนหนองนาคำวิทยาคม จังหวัดขอนแก่น จำนวน 41 คน จาก 1 ห้องเรียน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ( Purposive Sampling ) ใช้รูปแบบการสอนแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้นโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่
1)แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาชีววิทยา เรื่องยีนและโครโมโซม โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปจำนวน 8 แผน และ บทเรียนสำเร็จรูป วิชาชีววิทยา เรื่องยีนและโครโมโซม จำนวน 8 เล่ม 3)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป จำนวน 20 ข้อสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ร้อยละค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานt test(Dependent Samples)
ผลการวิจัย ปรากฏดังนี้
1. บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ยีนและโครโมโซม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.80/81.90 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80
2. บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ยีนและโครโมโซม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ0.7025 หมายความว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7025 คิดเป็นร้อยละ 75.25
3. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป เรื่องยีนและโครโมโซม พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่องยีนและโครโมโซม พบว่า ด้านสาระการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.44 อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก ด้านรูปแบบ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.57 อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก ด้านการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.57 อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด ด้านการเป็นสื่อการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.56 อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก
โดยสรุปการเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปเป็นสื่อการสอนที่มีประสิทธิภาพทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นดังนั้นการเรียนการสอนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปจึงเป็นเทคนิควิธีหนึ่งที่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาผู้เรียนเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงควรสนับสนุนและส่งเสริมให้ครูนำรูปแบบการเรียนนี้ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในทุกระดับชั้นต่อไป
คำสำคัญ: บทเรียนสำเร็จรูป/ยีนและโครโมโซม/ประสิทธิภาพ/ดัชนีประสิทธิผล